
จากความสำเร็จอย่างงดงามของโครงการบ้าน Your Home Series เพื่อเจาะกลุ่มข้าราชการไทยที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2568 ซีคอนได้สานต่อแคมเปญดังกล่าวโดยได้เปิดตัวโครงการบ้าน “Your Home: Your Family #2” ที่มาพร้อมกับดีไซน์และสไตล์ที่หลากหลาย คงความโดดเด่นในเรื่องสีสันและความอ่อนละมุน รวมถึงมีขนาดบ้านให้เลือกมากขึ้นและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ในต้นเดือนมีนาคมนี้ และจึงจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2025” ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮออล์ 8 ระหว่างวันที่ 12 – 16 มีนาคม 2568 รวมทั้งงาน “บ้านและสวน Select 2025” ที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 22 – 30 มีนาคม 2568 โดยมีแบบบ้านให้เลือกตั้งแต่ 5 ถึง 8 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดโปรโมชันพิเศษในช่วง Early Bird ตั้งแต่มีนาคมถึงมิถุนายน 2568
ทั้งนี้ ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ซีคอน ได้ดำเนินโครงการ “SEACON ป้อนฝัน ปันให้น้อง (ปีที่ 1)” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยเน้นสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาและนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจน จากการคัดเลือกพบว่ามีผู้สมัคร 13 คน และได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการจริง 11 คน โดยให้ทุนการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาทุนละ 20,000 บาท และระดับอุดมศึกษาทุนละ 40,000 บาท พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ในขณะเดียวกัน SEACON ยังได้ริเริ่มโครงการ “สร้างงาน สร้างคุณค่า ส่งเสริมสวัสดิภาพคนพิการอย่างเท่าเทียม” ด้วยการปรับเปลี่ยนแนวทางจากการส่งเงินสมทบให้กับการจ้างงานคนพิการในรูปแบบสัญญาจ้างรายปี โดยร่วมมือกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคมเพื่อคัดเลือกและจ้างคนพิการที่มีความประพฤติและตั้งใจประกอบอาชีพ ซึ่งการจ้างงานในรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พวกเขามีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวอีกด้วย
นอกจากนี้ ซีคอน ยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภายในองค์กร “SEACON Learning Center (SCL)” เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านงานก่อสร้างและ soft skills ของพนักงาน โดยมีการจัดฝึกอบรมมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งลงทุนในระบบ Knowledge Management System ที่ให้บุคลากรสามารถเข้าศึกษาและเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อรองรับความต้องการด้านคุณภาพการบริการและการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ องค์กรยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) เพื่อประเมินและตรวจสอบระบบควบคุมภายในอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายและมาตรฐาน ลดความเสี่ยง และเสริมสร้างความโปร่งใสในทุกกระบวนการบริหารจัดการ
ด้านแนวทางการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการรีไซเคิล “กระเป๋าผ้าใบจากป้ายไวนิล” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด ESG ภายในองค์กร โดยมีการผลิตกระเป๋าผ้าไวนิลชุดแรกจำนวน 200 ใบ เพื่อนำไปแจกให้กับเด็กด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งวางจำหน่ายในงาน Exhibition โดยรายได้ที่ได้จะนำมอบให้กับผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ ยังมีการนำ waste รูปแบบอื่นๆ เช่น กระดาษที่ใช้แล้วในสำนักงานมารีไซเคิลร่วมกับพันธมิตร SEACON X SCGP recycle เพื่อใช้ภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านการบริหารจัดการ Carbon Footprint บริษัทฯ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวจากงานก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ Thai Metal Aluminium ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 437.65 ตัน CO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 17,500 ต้น รวมถึงสี Beger ที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 38.02 ตัน CO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 625 ต้น และยังมีการใช้พลังงานสะอาดจากโซล่าเซลล์ในโรงงานซีคอน พรีคาสท์แฟคทอรี่ (SF) เพื่อผลักดันแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนในทุกปี โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง
“SEACON Growing Together เป็นการเดินหน้าที่ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่มั่นคงอย่างยั่งยืน แต่ยังสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบนบริบทที่ครอบคลุมด้าน ESG ทั้งด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง บริการที่มีคุณภาพ และการดำเนินโครงการที่มุ่งสร้างความยั่งยืนในสังคมและสิ่งแวดล้อม ความมุ่งมั่นนี้เป็นหลักการที่ขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม ด้วยการนำหลักการดำเนินธุรกิจในแบบ “Triple Bottom Line” หรือ 3P ที่ประกอบด้วย People, Planet, Profit มาใช้ประเมินความสำเร็จขององค์กรอย่างครอบคลุมและยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต” นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กล่าวสรุป