วันอาทิตย์, ตุลาคม 6, 2024
Home > New&Trend > ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์บูมหนัก “เทลสกอร์” ตั้งเป้ายอดขายพุ่ง 30%

ตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์บูมหนัก “เทลสกอร์” ตั้งเป้ายอดขายพุ่ง 30%

เรียกว่าบูมอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวสำหรับตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งจำนวนคอนเทนต์ครีเอเตอร์และมูลค่าทางการตลาด จากสถิติของ Linktree พบว่าปัจจุบันมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ประมาณ 200 ล้านคนทั่วโลก หรือประมาณ 3% จากประชากรโลก และมีมูลค่าตลาดถึง 5.5 ล้านล้านบาท

มีข้อมูลที่น่าสนใจระบุว่า เพียง TikTok แพลตฟอร์มเดียวก็สามารถสร้างงานและรายได้ให้กับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในฝรั่งเศสได้ถึง 55,000 ล้านบาท ในปี 2023 (GDP ของฝรั่งเศสมีขนาดใหญ่กว่าไทย 5 เท่า และมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียน้อยกว่าไทย 8%) อีกทั้งยังพบว่าปี 2024 เป็นปีที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั่วโลกเปลี่ยนมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบ Full time มากที่สุด

สำหรับในประเทศไทยขนาดตลาดคอนเทนต์ครีเอเตอร์อยู่ที่ 45,000 ล้านบาท คาดว่ามีคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากถึง 9 ล้านคน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับ Nano – Macro – Mega Creator ทั้งที่เป็น Full time และ Part time ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียและการใช้เวลาท่องโลกออนไลน์ของคนไทยที่มีอัตราสูงในอันดับต้นๆ ของโลก เติบโตขึ้นราวๆ 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พบว่าประชากรไทย 70 ล้านคน มีการอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ประมาณ 89.5% และมีช่องทางโซเชียลมีเดียมากถึง 50 ล้านคน คิดเป็น 71.5% ของประชากรทั้งหมด และในจำนวนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทยที่มีจำนวนมากถึง 9 ล้านคน พบว่ามี 2 ล้านคนเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบ Full time

สำหรับ 3 อันดับแรกของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่เป็นที่นิยม อันดับหนึ่งคือคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายความงามและสุขภาพ อันดับสอง คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์ และอันดับสามคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายการเงินและประกัน ส่วนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ดูจะแผ่วลงในปีนี้ได้แก่ สายอสังหาริมทรัพย์และสายยานยนต์ ส่วนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่คาดว่าจะเป็นดาวรุ่งในอนาคตได้แก่ สาย News Creator, Sciences and Education Creator และ Family Creator อีกทั้งยังมีการเพิ่มความนิยมในเหล่า Micro-influencers หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามไม่มากนัก แต่สร้างคอนเทนต์ได้เป็นธรรมชาติ เป็นที่นิยมทั้งในหมู่ผู้ชมและแบรนด์อีกด้วย

สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์มและเครื่องมือในการบริหารจัดการอินฟลูเอนเซอร์และโซเชียลมีเดียที่เรียกได้ว่าครบวงจรหนึ่งเดียวของไทย เปิดเผยว่า จากสถิติข้างต้นบ่งชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์เป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีความสัมพันธ์และอิทธิพลกับผู้บริโภค ประกอบกับพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ที่ชอบรับข่าวสารและแสดงออกผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่าสื่ออื่นๆ ดังนั้นนักการตลาดจึงโฟกัสและให้ความสำคัญในการเลือกร่วมงานกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพบว่ามีการใช้งบการตลาดถึง 30% ให้กับกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์

ซึ่งแพลตฟอร์ม Tellscore (www.tellscore.com) จะเข้ามาเติมเต็มทุกความต้องการของนักการตลาดด้านอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ทั้งระบบแบบ One-Stop-Service ตั้งแต่การคิดกลยุทธ์และสร้างสรรค์แคมเปญอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ที่อิมแพคกับกลุ่มเป้าหมาย การหาอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ที่ตรงกับความต้องการจากระบบฐานข้อมูลที่มีอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพหลายหมื่นคน บริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายภายใต้งบประมาณที่กำหนด ตลอดจนระบบกวาดผลลัพธ์อัตโนมัติ (Performance Collection Automation) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความแม่นยำในผลลัพธ์ รวมทั้งลดความเสี่ยงให้กับนักการตลาดที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัวในยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง มัดรวมครีเอเตอร์โซลูชั่นให้แบรนด์และเอเจนซี่ ดังนี้ Pay Per Post, Media Buy for Creator Content, Performance Marketing, Affiliated Marketing, Soft Power Content จากการตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงต้นปีทำให้มั่นใจว่าจะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้ว

ล่าสุด เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดงาน The Mall Lifestore Presents Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore งานประกาศรางวัลสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์และสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญที่สร้างสรรค์โดยแบรนด์และเอเจนซี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รวมทั้งสิ้น 59 สาขา ภายใต้แนวคิด The Future is Yours! ที่เน้นย้ำถึงศักยภาพอินฟลูเอนเซอร์และนักการตลาดที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางและสร้างสรรค์อนาคตของเศรษฐกิจไทย โดยเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพ ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานและคอมมูนิตี้อินฟลูเอนเซอร์ของประเทศไทยให้เข้มแข็งต่อยอดสู่การยกระดับสู่สากล โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรภาครัฐและเอกชนหลายภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างเครือข่ายและเสริมศักยภาพวงการอินฟลูเอนเซอร์ไทยทั้งระบบ ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

ส่วนเกณฑ์การตัดสินผู้ที่ได้รับรางวัลในงานครั้งนี้ ประกอบด้วย 5 มิติหลักได้แก่

1. รูปแบบและความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

2. ลำดับและการเล่าเรื่อง (Storytelling)

3. การเข้าถึงคนส่วนมากได้อย่างมีคุณภาพ (Impact)

4. ตัวตน ศักยภาพในการเติบโตและการดูแลกลุ่มผู้ฟัง (Personal Branding & Community Building)

5. สำนึกที่ดีต่อผู้ฟัง สังคม และสิ่งแวดล้อม (Social Conscience)

“งานดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จและการมีส่วนร่วมของอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพในประเทศไทยแล้ว ยังแสดงถึงผลของการตกผลึกของเทลสกอร์ให้เห็นว่าคอนเทนต์ ครีเอเตอร์คือ Soft Power อันแข็งแกร่งของประเทศที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้จริงและยั่งยืน (Content Creator Economy) ในทุกอุตสาหกรรมแบบ 360 องศา ไม่ใช่เพียงเป็นเทรนด์ตามยุคสมัย แต่เป็นสื่อใหม่ที่เป็นสื่อหลักที่มีบทบาทสำคัญที่ได้รับการยอมรับ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง”

นอกจากงาน The Mall Lifestore Presents Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore แล้ว เทลสกอร์ยังได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์จัดทำโครงการวิจัย Foresight ในหัวข้ออนาคตเศรษฐกิจคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พ.ศ. 2578 (Futures of Content Creators 2035) เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ รวมทั้งจัดทำแคมเปญ Influencer for Change (Help You, Help Me) โครงการที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคสังคม เข้าร่วมนำเสนอโครงการ เพื่อรับการสนับสนุนสื่ออินฟลูเอนเซอร์คอนเทนต์ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์โครงการของหน่วยงานภาคสังคม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยส่งแคมเปญหรือกิจกรรมรณรงค์ที่มีเป้าหมายแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ผ่านกิจกรรม ‘Help You, Help Me’ ซึ่งทางเทลสกอร์ยังมองหาโอกาสและความร่วมมือในการต่อยอดแคมเปญดีๆ เพื่อพัฒนาวงการอินฟลูเอนเซอร์และสังคมต่อไป