“แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” แห่งอาณาจักร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อครั้งประกาศเข้าซื้อธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาว่า การทุ่มเม็ดเงินถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 800 ล้านบาท ไม่ใช่แค่การซื้อเวทีประกวดนางงาม แต่เป็นการซื้อแบรนด์ที่มีอายุถึง 71 ปี ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่ทรงคุณค่าและมีมูลค่ามหาศาล ด้วยฐานผู้ชมในแต่ละปีมากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก
พร้อมกันนั้นยังประกาศทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้เป็นมากกว่าเวทีประกวดนางงาม ด้วยการเปิดตัว MU Lifestyle หน่วยธุรกิจเฉพาะเพื่อการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ภายใต้องค์กรนางงามจักรวาล เติมเต็มพอร์ตโฟลิโอด้านสินค้าไลฟ์สไตล์ของเจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป และต่อยอดแบรนด์ Miss Universe ไปพร้อมๆ กัน
ด้วยระยะเวลาไม่ถึงปีนับจากการประกาศในครั้งนั้น ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แอน-จักรพงษ์ ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับแวดวงธุรกิจและนางงามอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว M*U Beverage กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ Miss Universe ออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติระดับพรีเมียม จากแหล่งน้ำบริสุทธิ์ประเทศไอซ์แลนด์ โดยดำเนินงายภายใต้บริษัท JKN Drink
ตามมาติดๆ ด้วยการเปิดตัวธุรกิจ Miss Universe Skincare & Spa รวมถึง Miss Universe Travel รับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก ตอกย้ำวิสัยทัศน์และโรดแมปที่เคยวางไว้
แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม JKN Group มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe Organization – MUO) เพื่อเป็นแกนหลักขับเคลื่อนองค์กรสู่ Global Content Commerce Company โดยได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจรองรับแผนงานดังกล่าวให้สอดคล้องการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อนำแบรนด์ MUO มาใช้ในการต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้แก่การดำเนินธุรกิจ พร้อมผสานจุดแข็งจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญธุรกิจของ JKN ในฐานะที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมจำหน่ายคอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียน นำความพร้อมด้าน Ecosystem ของกลุ่มธุรกิจภายใต้ JKN Group ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีทีวีดิจิทัล JKN18 JKNCNBC และ JKN Hi Shopping ที่ออกอากาศผ่าน IPTV ตลอดจนทีมบุคลากรเพื่อรองรับแผนงานนำความแข็งแกร่งของแบรนด์ Miss Universe มาช่วยขับเคลื่อนสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
โดย M*U Beverage นับเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ Miss Universe ที่เปิดตัวเป็นกลุ่มแรกของเจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป นำร่องด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติ M*U NØR จากแหล่งน้ำพุ Olfus ในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ดินแดนที่อุดมไปด้วยน้ำแร่ที่สะอาดและบริสุทธิ์แห่งหนึ่งของโลก ผ่านการกรองของหินลาวา พร้อมค่า pH 8.4 โดยมาในรูปแบบของขวดแก้วแบบพรีเมียม ที่มีการบรรจุขวดในประเทศไทย โดยมี “อาร์บอนนีย์ เกเบรียล” มิสยูนิเวิร์ส 2022 เป็นพรีเซนเตอร์
ส่วนอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ภายใต้ M*U Beverage คือ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ M*U ที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ปราศจากกาเฟอีน น้ำตาล และสารกันบูด ให้พลังงานน้อยกว่า 45 กิโลแคลอรี/ขวด ซึ่งผลิตภัณฑ์ M*U Beverage มีการผลิตที่โรงงานในจังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิต 9 ล้านขวด และสามารถขยายกำลังการผลิตได้ทันทีเมื่อธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
M*U Beverage เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเป็นที่แรก สำหรับในต่างประเทศจะประเดิมเผยโฉมสู่ผู้คนทั่วโลกในงาน Anuga FoodTec Fair ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ตามมาด้วยการไปเปิดตัวในงานแสดงสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มระดับนานาชาติในประเทศต่างๆ เช่น บราซิล โคลัมเบีย ดูไบ และสหรัฐอเมริกาต่อไป
ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ M*U Beverage จะวางจำหน่ายทั้งในห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เกต ช่องทางจำหน่ายของ JKIN และกลุ่มธุรกิจโฮเรกา ประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจจัดเลี้ยง เช่น กลุ่มโรงแรมเชอราตันและพูลแมน เป็นต้น
สำหรับธุรกิจ Miss Universe Skincare & Spa เป็นความร่วมมือในลักษณะ Joint Venture กับมหาเศรษฐีอย่าง “ราอูล โรชา” ประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Legacy Holding Groupพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อดำเนินธุรกิจสกินแคร์และสปา ผ่านรูปแบบการให้สิทธิแบรนด์ Miss Universe แก่บริษัท Miss Universe Skincare & Spa ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง JKN ได้รับค่าตอบแทนการให้สิทธิคิดเป็นมูลค่า 350 ล้านบาท และได้รับหุ้นในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นร้อยละ 30
สำหรับธุรกิจสกินแคร์โรงงานผลิตจะตั้งอยู่ที่อเมริกาและมีคลังสินค้าอยู่ที่เม็กซิโก คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคม และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศตุรกี มีแผนวางจำหน่ายที่อเมริกาเป็นที่แรก ตามด้วยฟิลิปปินส์ ไทย อินเดีย และจีนเป็นลำดับต่อไป
อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัว Miss Universe Travel เพื่อดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้ชื่อ “Hello Universe” จับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2566 ประเดิมด้วยทริปท่องเที่ยวประเทศเอลซัลวาดอร์ พร้อมชมการประกวด Miss Universe 2023 ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้เป็นที่แรก และยังมีประเทศที่ได้รับสิทธิ์จัดการประกวดอีก 95 ประเทศที่สามารถนำมาสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปได้
โดยการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) มีแนวทางสร้างรายได้ 9 ด้าน ได้แก่ Franchise Fee รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ในการจัดประกวด, Hosting Fee รายได้จากค่า License ที่เรียกเก็บจากประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด, Production Fee รายได้จากการรับจ้างผลิตงานประกวด, Broadcast Fee รายได้จากการให้ License ในการเผยแพร่สัญญาณการจัดการประกวด, Ticket Sales รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการประกวด, Sponsorship Fee รายได้ที่เกิดจากผู้สนับสนุนการจัดการประกวด และ Licensing & Merchandising Fee รายได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ หรือให้สิทธิ์ผลิตสินค้าหรือบริการภายใต้แบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าต่างๆ ของ MUO
ด้วยศักยภาพของแบรนด์ Miss Universe และการดำเนินงานภายใต้โครงสร้างรายได้ 9 ด้าน คาดว่ารายได้ที่เกิดจากกลุ่มธุรกิจ MUO เฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ช่วยผลักดันรายได้ของ JKN เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งกลุ่มอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40%
ซึ่ง แอน – จักรพงษ์ ได้เน้นย้ำถึงการเข้าซื้อ MUO อีกครั้งว่า “แบรนด์ Miss Universe คือแบรนด์ที่มีความเป็นสากลและมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง การซื้อองค์กรนางงามจักรวาลเราไม่ได้ซื้อเวทีประกวด ถ้าคิดแค่นั้นอย่าซื้อ แต่เราซื้อคอนเทนต์ ซื้อตำนาน เพราะ Content is Queen เรานำคอนเทนต์มาสร้างการตลาด และต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งตรงนี้คือเม็ดเงินมหาศาล” พร้อมแง้มอีกว่า หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวบริษัทต่างๆ อีกกว่า 15 บริษัทตามมา เน้นลักษณะของ Joint Venture และที่น่าตื่นเต้นคือธุรกิจแฟชั่น ซึ่งทุกคนจะได้เห็นแฟชั่นในแบรนด์ “Miss Universe Fashion” ตามมาอีกอย่างแน่นอน.
