ทายาทอีกคนของอ้วยอันโอสถ ที่ “ผู้จัดการ 360 องศา” มีโอกาสได้พูดคุย คือ ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ หรือ คุณโม ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยดูแลฝ่ายผลิต ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานโรงงาน ประสานงานด้านกฎหมาย การขึ้นทะเบียนยา และการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด
ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว และหลานชายคนโตของตระกูล คุณโมจึงถูกคาดหวังตั้งแต่ในวัยเยาว์ ว่าจะต้องเข้ามาสืบทอดกิจการของครอบครัว “คุณพ่อคุณแม่ส่งผมไปศึกษาที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 12 โดยเริ่มต้นด้วยการไปเรียนภาษาอังกฤษและจีนที่สิงคโปร์เป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นส่งผมไปศึกษาต่อที่อเมริกาจนจบปริญญาตรี และปริญญาโทด้าน Food Science and Technology เพื่อที่จะนำความรู้มาพัฒนาต่อยอดธุรกิจสมุนไพรให้ทันยุคสมัย” ผู้บริหารหนุ่มบอกเล่าเรื่องราวก่อนเริ่มต้นเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัวในปี 2011 โดยทำหน้าที่ดูแลด้านการควบคุมคุณภาพ มาตรฐานโรงงาน และคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการนำเข้าและส่งออกสินค้า
การถูกคุณสิทธิชัย สมบูรณ์เวชชการ ผู้เป็นบิดาปูเส้นทางไว้ให้เดิน ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้แก่ ชนรรค์ เมื่อชายหนุ่มถูกปลูกฝังให้คุ้นชินกับธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งการให้ช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ของธุรกิจสมุนไพร หรือการท่องเที่ยวยังต่างประเทศที่ยังคงเกี่ยวข้องกับสมุนไพรอยู่เนืองๆ ซึ่งทำให้คุณโมค่อยๆ ซึมซับแนวคิด และสร้างแรงบันดาลใจให้เสมอมา
“คุณปู่และคุณพ่อมีค่านิยมการทำงานและการใช้ชีวิตแบบชาวตะวันออกทั่วไปคือ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และกตัญญรู้คุณ การทุ่มเทชีวิตให้กับงานถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกท่าน และสิ่งที่พวกท่านหวังไว้ก็คือ การส่งมอบค่านิยมเหล่านี้ให้กับทายาทรุ่นต่อๆ ไป
“การได้เห็นคุณปู่ คุณพ่อ ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่ได้สร้างความกดดัน แต่ผมคิดว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกๆ และลูกน้อง เหมือนเป็นการสร้างวัฒนธรรมของทั้งธุรกิจและของครอบครัวว่า ความสำเร็จไม่มีทางที่จะได้มาง่ายๆ แต่มันต้องมีพื้นฐานมาจากความตั้งใจมุ่งมั่นและทุ่มเท”
ทั้งคุณนิชาและคุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ ทายาทของอ้วยอัน ถูกปลูกฝังมาไม่ต่างกัน โดยเฉพาะหลักคิด “ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน” และผู้บริหารทั้งสองไม่ได้รู้สึกกดดันจากการต้องรับผิดชอบภาระที่ยิ่งใหญ่นี้ ทัศนคติในทางบวกดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ต้นตระกูลสมบูรณ์เวชชการแม้จะปูเส้นทางไว้ให้เหล่าทายาท หากแต่ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่แม้แต่น้อย
“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากทั้งคุณปู่และคุณพ่อนั้น ไม่ใช่ความรู้หรือสูตรยาพิเศษ แต่คือท่านทั้งสองมีความสามารถในการปรับตัวในช่วงวิกฤตต่างๆ ผมเชื่อว่าบริษัทอยู่ได้อย่างยั่งยืนมาถึง 76 ปีนั้น เป็นเพราะว่าทั้งสองท่านนั้นมีทักษะการแก้ปัญหา การปรับตัวให้ยืดหยุ่นในระยะสั้น เพื่อที่จะรักษาธุรกิจครอบครัวให้อยู่ได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทายาทอย่างพวกผมควรเอาเป็นตัวอย่าง”
ทั้งนี้ คุณชนรรค์ยังร่วมพัฒนายาใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เช่น ยาสมุนไพรสำหรับเด็กเล็ก ยาสมุนไพรสำหรับนักกีฬา สร้างความแตกต่างให้แก่ตลาดยาสมุนไพร ต่อยอดจากความรู้ที่ถูกถ่ายทอดมาเข้ากับวิทยาการสมัยใหม่ที่ได้เรียนรู้
การรับช่วงต่อทางธุรกิจมักเกิดรอยต่อ และความขัดแย้งระหว่างรุ่น ทั้งแนวความคิดที่แตกต่างกัน ประสบการณ์ที่ได้รับ ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงซึ่งมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ ทว่า ทายาทอ้วยอันไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา
“สำหรับทายาทที่มารับช่วงต่อกิจการ ผมคิดว่าทุกคนอยากจะเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ดีขึ้นทุกคนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าใจธุรกิจในอดีต และปัจจุบันก่อนที่เราจะเริ่มลงมือเพื่อสร้างอนาคตบทใหม่ของธุรกิจ การทำความเข้าใจธุรกิจของเราเองอย่างลึกซึ้งนั้นจะทำให้เราสามารถมองเห็นปัญหา จุดแข็ง และจุดอ่อนของเราเอง
“อีกอย่างที่สำคัญคือการที่ธุรกิจที่รุ่นก่อนๆ สร้างมานั้นอยู่มาได้ 76 ปีแล้ว ก็แสดงว่าข้อดีของเราก็เยอะ เราควรรักษาข้อดีนั้นไว้ เวลาจะปรับเปลี่ยนอะไร เช่นเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคำนึงถึงหลายๆ สิ่ง มองในภาพรวมใหญ่ๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะไปกระทบถึงขั้นตอนอื่นๆ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ถ้าเราวางแผนได้ดีขึ้น ขั้นตอนทุกอย่างก็จะราบรื่น และทำให้ขั้นตอนการทำงานของคนอื่นง่ายขึ้น มีผลตอบรับที่ดี และสร้างกำไรหรือลดต้นทุนของบริษัทได้ นั่นคือว่าเราสำเร็จ”
ในปัจจุบันยาสมุนไพรเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงยาแผนปัจจุบัน และอ้วยอันเป็นหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและอยู่ในระดับท็อป 5 ของแบรนด์ยาสมุนไพรไทย ความสำเร็จของอ้วยอันไม่ได้เกิดจากวางแผนการตลาด และการทำโฆษณาที่ดีเท่านั้น “ปัจจัยความสำเร็จของอ้วยอันโอสถ คือความสามารถในการประยุกต์ความเข้าใจในองค์ความรู้สมุนไพรให้ผสมผสานกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาสารสกัด การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อกลุ่มลูกค้าใหม่ให้ตอบโจทย์กับปัญหาสุขภาพของพวกเขา” คุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ ทิ้งท้าย.