วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > Cover Story > Pet Shop โตหมื่นล้าน เติมเต็ม “มนุด” ยุคโควิด

Pet Shop โตหมื่นล้าน เติมเต็ม “มนุด” ยุคโควิด

Pet Shop หนึ่งในธุรกิจที่เติบโตฝ่ามรสุมโควิด สามารถสร้างเม็ดเงินในตลาดมากกว่าหมื่นล้านบาท ล่าสุดกำลังเปิดสงครามแข่งขันแย่งชิงกลุ่มลูกค้า เหล่า “มนุดทาส” ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในยุค New Normal ที่ผู้คนต้องหยุดกิจกรรมบันเทิง หยุดเชื้ออยู่บ้าน หยุดการเดินทาง และ Work from Home ทำให้เจ้าสัตว์เลี้ยงกลายเป็นสิ่งเติมเต็มความสุขที่ขาดหายไป

ขณะเดียวกัน เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนจากพฤติกรรมแบบ Pet Lover รักสัตว์แบบเดิมๆ เป็น Pet Parent รักและผูกพันเหมือนสมาชิกในครอบครัว เหมือนลูกหลาน ต้องการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ บริการอาบน้ำ ที่พักโรงแรม คลินิกสัตวแพทย์ ยิ่งต่อยอดให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

กระแสความสำคัญของสัตว์เลี้ยงทำให้นึกถึงกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 (ปปส. ภาค 2) ตัดสินใจเปิดประมูลแมวของกลางเครือข่าย “กุ๊ก ระยอง” ณ ศาลาประชาคมอำเภอแกลง จ.ระยอง ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังกลุ่มคนรักแมวต่างเรียกร้องขอรับเลี้ยงของกลางทั้ง 6 ตัว

การประมูลครั้งนั้นประกอบด้วย แมวเพศผู้ สายพันธุ์เบงกอล ชื่อ จัสติน กำหนดราคาเริ่มต้น 23,000 บาท แมวเพศเมีย สายพันธุ์สก๊อตติช ชื่อ ซาวี่ ราคาเริ่มต้น 20,000 บาท แมวเพศเมีย สายพันธุ์สก๊อตติช ชื่อ ซาโบ้ ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท แมวเพศเมีย สายพันธุ์สก๊อตติช ชื่อ ลูฟี่ ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท แมวเพศผู้ สายพันธุ์สก๊อตติช ชื่อ โชค ราคาเริ่มต้น 10,000 บาท และแมวเพศผู้ สายพันธุ์สก๊อตติช ชื่อ โซโล ราคาเริ่มต้น 13,000 บาท ประมูลขายรวม 3 รายการ (6 ตัว) ราคาเริ่มต้น 90,000 บาท

ปรากฏว่า มีผู้ร่วมประมูล 9 คน และใช้เวลาประมูลเพียง 7 นาที ได้ผู้ชนะ คือ น.ส.นัชญ์ ประสพสิน เจ้าของเพจ “ทูนหัวของบ่าว” ทุ่มเงินประมูลรวด 6 ตัว ราคา 1 แสนบาท

นอกจากนั้น ยักษ์ใหญ่ “อาร์เอสกรุ๊ป” ประกาศรุกเข้าสู่สมรภูมิธุรกิจสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifestar เนื่องจากเห็นศักยภาพตลาดที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 40,000 ล้านบาท อัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปี ปีละ 10% โดยเร่งแผนเปิดตัวและวางจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงกลางปีนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ RS Mall และพันธมิตร

ทั้งนี้ เคยมีการประเมินตัวเลขตลาดสัตว์เลี้ยงช่วงปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดมีมูลค่า 35,000-36,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 45% ธุรกิจการให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาล คลินิก สถานบริการรับฝากเลี้ยง โรงแรมที่พัก สปา 32% และธุรกิจสินค้าอุปกรณ์ดูแลสัตว์เลี้ยงอีก 23%

อย่างไรก็ตาม ปี 2563-2564 เกิดวิกฤตโควิดแพร่ระบาดจากระลอกที่ 1 จนถึงระลอก 3 โดยเฉพาะระลอก 3 ส่งผลกระทบวงกว้าง เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในระดับหลักพันราย และกระจายเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ร้านเพ็ทช็อปซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าในประเทศหลายแห่งต้องปิดชั่วคราว เพราะเจอกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ ประกอบกับกลุ่มลูกค้าต้องประหยัดค่าใช้จ่ายจากปัญหาการขาดรายได้และปัญหาหนี้ครัวเรือน

ภรภัทร หมอยา กรรมการผู้จัดการธุรกิจ เพ็ทมาร์ท ร้านดีเด่น อาหารสัตว์ กล่าวว่า ในมุมผู้ประกอบการตั้งแต่โควิดรอบแรก มีทั้งคนอยู่ คนไป และคนที่เติบโต ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งในภาพรวมธุรกิจร้านอาหารสัตว์คาดว่าปีนี้น่าจะเติบโตไม่เกิน 3% แต่ดีกว่าธุรกิจอื่น เพราะได้ปัจจัยบวกจากผู้คนที่อยู่บ้านมากขึ้น เวิร์กฟอร์มโฮม เหงา และอยากหาสัตว์เลี้ยง ทั้งแมว หมา กระต่าย แม้กระทั่งนก ปลา และสัตว์ Exotic ทุกกลุ่มต่างเติบโตเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการหลายรายมีการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

สำหรับร้านดีเด่นมีอัตราเติบโตตามการขยายสาขาและผลประกอบการปีที่ผ่านมายังเติบโต โดยช่วงโควิดระลอก 1-2 เติบโตอัตรา 2 หลัก ส่วนรอบ 3 ช่วงไตรมาสแรกอาจทรงตัวจากการจับจ่ายของลูกค้าที่ประหยัดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพ็ทช็อปยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าธุรกิจอื่น แม้มนุษย์เงินเดือนเจอหนี้ครัวเรือนมากขึ้น แต่จะไม่ยอมให้หมาแมวอด เหมือนเป็นคนในครอบครัว และที่น่าสนใจ คือโครงการช่วยเหลือของภาครัฐ ทั้งคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน มีลูกค้าใช้เงินส่วนนี้กับสัตว์เลี้ยงสูงมาก ยอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าทุกสาขา และได้ฐานลูกค้าใหม่ด้วย

นั่นทำให้ร้านดีเด่นไม่ชะลอการลงทุนและเตรียมเดินหน้าขยายสาขาอีก 3 แห่งตามแผน ทั้งสาขาในย่านหนามแดง แพรกษา และหนองจอก โดยเฉพาะสาขาหนองจอกจะเป็นการรุกเข้าสู่คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ “Harajuku Thailand” ซึ่งเป็นโครงการตลาดท่องเที่ยวสไตล์ญี่ปุ่นย่านสุวินทวงศ์ หลังจากทดลองเปิดร้านในคอมมูนิตี้มอลล์ เจ้าคุณวิลล่าและสวัสดีการ์เด้น มีลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ดังนั้น ต้องยอมรับว่า การเติบโตของ “ร้านดีเด่น อาหารสัตว์” สามารถชี้ศักยภาพของธุรกิจสัตว์เลี้ยง เพราะภรภัทรใช้เวลาเพียง 6 ปีสามารถสร้างเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากทุนก้อนแรกเพียง 1 ล้านบาท และปูพรมสาขายึดครองกลุ่มลูกค้าประจำได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะการสร้าง Signature มัดใจเหล่า “มนุดทาส” ทั้งลูกค้าทั่วไป ลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูงและกลุ่มซูเปอร์สตาร์ ชนิดที่ ดุ๊ก-ภาณุเดช วัฒนสุชาติ ตัดสินใจนำผลิตภัณฑ์แชมพู ducoco ไอเทมใหม่และยกขบวนหมาพันธุ์แสตนดาร์ดพุดเดิ้ล พี่โคโค และน้องฮิวโก้ มาแนะนำสินค้าด้วยตัวเอง

เมื่อเร็วๆ นี้ยังมีไอดอล เอ็ดเวิร์ด แมวเซเลบที่บรรดาทาสแมวหลายคนรู้จักกันอย่างดี มาจัดกิจกรรมเดินสายโชว์ความน่ารักในร้านดีเด่นทุกสาขา

ทว่า เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ภรภัทรกล่าวกับ “ผู้จัดการ 360” ว่า “ดวงค่ะ” เพราะต้นตอที่มาที่ไป เกิดจากการเลี้ยงหมา 2 ตัว และมีปัญหาซื้ออาหารสัตว์ยาก จนเห็นความต้องการและศักยภาพของทำเลใกล้บ้าน บวกกับเริ่มอิ่มกับการเป็นพนักงานประจำ เธอกับสามีจึงตัดสินใจเปิดร้านดีเด่นสาขาแรกย่านนิมิตใหม่ เมื่อปี 2558 ทั้งที่ไม่เคยอยู่ในวงการธุรกิจอาหารสัตว์ แต่อาศัยประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทเอกชน ติดต่อหาซัปพลายเออร์ และเลือกสินค้าจากข้อมูลความต้องการของลูกค้า

ปัจจุบัน ดีเด่น เพ็ทมาร์ท เปิดร้าน 9 สาขา ได้แก่ สาขานวมินทร์ 157 (ปากซอย) สาขาหทัยราษฎร์ คลองสามวา สาขาเจ้าคุณวิลล่า ถนนเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง สาขาตลาดมารวย หทัยราษฎร์ 54 บึงคำพร้อย ลำลูกกา สาขารังสิต คลองสี่ ธัญบุรี สาขานิมิตใหม่ มีนบุรี ในโครงการสวัสดีการ์เด้น สาขาประชาร่วมใจในสถานีบริการเอสโซ่ สาขาร่มเกล้า สาขาสุวรรณภูมิ วัดศรีวารีน้อย ในสถานีบริการเชลล์ และถ้ารวมอีก 3 สาขาใหม่ ปีนี้จะเปิดครบ 12 สาขา

ภรภัทรย้ำด้วยว่า ไอเดียสำคัญที่ทำให้ร้านแห่งนี้มีเสน่ห์เหนือคู่แข่ง คือ บรรดาน้องแมวที่อวดความน่ารักมากกว่าสิบตัวในร้านทุกสาขา

“แมวตัวแรกมาแบบดวงต้องกัน เราขายของอยู่ดีๆ นางเดินเข้ามาในร้าน เราสงสารให้กินข้าว นางหาที่นอน สักพักร้องออก อยู่อย่างนี้เป็นเดือน และมารู้ว่าเป็นแมวมีเจ้าของ แต่ไม่ยอมไปอยู่กับเจ้าของ นางรอหน้าร้านทุกวันจนเจ้าของต้องยอมยกให้ดีเด่น ปรากฏว่านางชวนเพื่อนมาด้วยและภัทรชอบช่วยแมวจร เห็นที่ไหนช่วยหมด รักษาพยาบาล และหาบ้าน ตอนเปิดร้านแรกขอสามีเลี้ยง 8 ตัวในร้าน จนตอนนี้มีเกือบร้อยตัว และกลายเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าในร้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ”

ส่วนเป้าหมายในอนาคตนั้น เธอบอกว่า ธุรกิจเพ็ทช็อปยังมีศักยภาพสูงมาก แต่แข่งขันสูงเช่นกัน ซึ่งร้านดีเด่นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง การพัฒนาการบริการที่ไม่ต้องการเน้นขายของ แต่เน้นบริการลูกค้า โดยเฉพาะข้อมูลสินค้าที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงและเพิ่มทางเลือกการจับจ่าย จัดเซกเมนต์สินค้าและราคาที่หลากหลาย รวมถึงวางแผนเปิดระบบสมาชิก เพื่อสร้างฐานข้อมูลและขยายสาขาใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าในทำเลต่างๆ

เหนือสิ่งอื่นใด Passion ลึกๆ ของครอบครัวดีเด่น หากแผนทั้งหมดบรรลุเป้าหมาย ธุรกิจเพ็ทช็อปรายย่อยที่เติบโตจากงบก้อนแรกเพียง 1 ล้านบาท จะเดินหน้าเติบใหญ่และจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ลุยขยายธุรกิจไม่แพ้ค่ายยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนเต็มหน้าตักเช่นกัน

ใส่ความเห็น