การเผยโฉม “ลอว์สันคาเฟ่” แห่งแรกในร้านลอว์สัน 108 สาขาตลาดนัดเมืองไทยภัทร โดยตั้งใจให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ เน้นภาพลักษณ์หรูหรารับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่การปลุกแนวรบคอนวีเนียนสโตร์ให้ร้อนเดือด แต่ยังเป็นการประชันจุดขายใหม่ “คอฟฟี่คาเฟ่” ของ 3 ค่ายยักษ์คอนวีเนียนสโตร์ที่ซุ่มปลุกปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ เพื่อสร้างแม็กเน็ตแย่งชิงกลุ่มลูกค้าในสถานการณ์ที่ร้านสะดวกซื้อต่างค่ายต่างแบรนด์ต่างเปิดสาขาแทบจะชนกันในทุกพื้นที่
หากวัดจำนวนสาขาล่าสุดของแต่ละฝ่าย เซเว่นอีเลฟเว่นนำโด่งปูพรมสาขาครบแล้ว 10,000 แห่ง และบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ยังวางแผนผุดเพิ่มอย่างน้อยอีก 700 สาขาในปี 2561 เพื่อสกัดคู่แข่งชนิด 360 องศา
ขณะที่เบอร์ 2 แฟมิลี่มาร์ท มีจำนวนสาขารวม 1,139 แห่ง และตั้งเป้าหมายเปิดครบ 3,000 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า
ส่วนลอว์สัน108 หลังเปิดสาขาตลาดนัดเมืองไทยภัทร ร้านแห่งที่ 100 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทสหลอว์สัน เตรียมขยายเพิ่ม 20 สาขา ทั้งร้านแบรนด์ LAWSON 108 และ 108 Shop โดยเน้นเปิดสาขาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหาทำเลในเมือง และเน้นการสร้างแบรนด์มากขึ้น หลังเจอบทเรียนและต้องปรับกลยุทธ์ต่างๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าปี 2562 จะมีร้านรวม 158 สาขา และปี 2563 เพิ่มเป็น 208 สาขา
ทั้งนี้ จำนวนสาขาที่แตกต่างกันมากทำให้แฟมิลี่มาร์ทและลอว์สัน 108 ต้องเร่งสร้างจุดแข็งในตัวร้าน สินค้าและบริการ โดยเฉพาะแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งพยายามปรับรูปแบบโมเดลต่างๆ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ประเดิมด้วยการปรับโฉมร้านแฟมิลี่มาร์ท สุขุมวิท 33 เป็นโมเดลต้นแบบสไตล์มินิมอลล์ คอนเซ็ปต์ Fresh Fun and Friendly และ One Stop Shopping Destination รูปแบบร้าน 2 ชั้น
ชั้น 1 แบ่งโซนสินค้าหลักๆ ได้แก่ กลุ่มผลไม้และดอกไม้สด กลุ่มของที่ระลึก เช่น สบู่ผลไม้ ผลไม้อบแห้ง กระเป๋าลายผ้าไทย กลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน เช่น ไก่ทอด Fami Chicken สลัดผัก แซนด์วิช เมนูจานเด็ดจากครัวมลิวัลย์ และสีฟ้า เรสเตอรองต์ ปรุงสดทุกวัน โอเด้งสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่น กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มเบเกอรี่และกาแฟสด กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม กลุ่มสินค้านำเข้า อาทิ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม กลุ่มหนังสือและนิตยสาร
ชั้น 2 เป็น โซน Open Space พื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นร้านสะดวกซื้อรายแรกที่เปิดให้บริการ co-working space แบบฟรี ไม่มีค่าเช่าใช้พื้นที่ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. มีตู้ไข่หมุน กาชาปองเป็นของเล่นพักเบรกให้ลูกค้าขณะทำงานในโอเพ่นสเปซ
ต้องถือว่าร้านพรีเมียมโฉมใหม่ของแฟมิลี่มาร์ทสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มคนทำงาน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กลุ่มครอบครัว นักเรียน-นักศึกษา ซึ่งบริษัทวางแผนเปิดสาขาร้านพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง เน้นแหล่งธุรกิจใจกลางเมืองและเมืองท่องเที่ยว อย่างสาขาป่าตองบีช ซึ่งเปิดเมื่อปลายปี 2560 เป็นสาขารูปแบบใหม่แห่งที่ 4 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Convenience Store On The Beach เป็นทั้งร้านสะดวกซื้อและจุดแฮงก์เอาต์ริมหาดป่าตอง
บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด ระบุว่า บริษัทพยายามสรรหาแม็กเน็ตและสร้างจุดขาย เลือกสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่และแตกต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะ “กาแฟสด Coffee Arigato” ถือเป็นหนึ่งแม็กเน็ตใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา และโดนใจกลุ่มลูกค้าอย่างมาก เนื่องจากเป็นแบรนด์กาแฟนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รสชาติดี และราคาไม่แพง
เช่น เมนูกาแฟร้อน อเมริกาโน่ เอ็กซ์เพรสโซ่ มอคค่า ลาเต้ อยู่ที่แก้วละ 25 บาท ถ้าเป็นเมนูกาแฟเย็นอยู่ที่แก้วละ 35 บาท นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องดื่มตามเทศกาลต่างๆ เช่น เมนูใหม่ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ มัทฉะสตรอว์เบอร์รี เป็นการผสมผสานกันระหว่างน้ำสตรอว์เบอร์รีและอุจิมัทฉะ รสชาติเปรี้ยวหวาน
ขณะเดียวกัน บริษัททดลองดึงแบรนด์ร้านกาแฟอิตาเลียน Segafredo จากเครือเซ็นทรัล เข้ามาเปิดจุดจำหน่ายในร้านแฟมิลี่มาร์ท สุขุมวิท 33 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมย่านสุขุมวิทด้วย
ด้าน “ลอว์สัน108” ประเดิมเปิดตัว Lawson Café ต้นแบบร้านกาแฟแห่งแรกของ LAWSON 108 ราคาเฉลี่ยต่อแก้ว เมนูร้อน 25-30 บาท ส่วนเมนูกาแฟเย็น 30-40 บาท และพ่วงด้วย LAWSON 108 SNOW DRINK เครื่องดื่มเกล็ดหิมะอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟก่อนเขย่าแล้วดื่ม 4 รสชาติ คือ Coffee Latte, Blue Paradise, Strawberry Green Tea, Taiwan Milk Tea ในราคา 39 บาท ทุกรสชาติ
โคอิชิ ฮิโรเซะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหลอว์สัน จำกัด ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “ลอว์สัน 108” กล่าวว่า บริษัทมีแผนสร้างแบรนด์ “ลอว์สัน 108” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ เพื่อขยายฐานตลาด ทั้งการเลือกสินค้าและบริการ เช่น ใช้กลยุทธ์เปิดบริการ Lawson Café แห่งแรก และจะขยายต่อเนื่องตามความเหมาะสมของแต่ละสาขา เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ นำศิลปินจากวง BNK 48 มาช่วยโปรโมตสินค้าใหม่ๆ เช่น ลอว์สัน 108 เบอร์เกอร์ แซนด์วิช ข้าวกล่องหรือเบนโตะ ปลุกแบรนด์ ลอว์สัน 108 ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นและดึงแฟนคลับของ BNK 48 ส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การหันมารุกกลยุทธ์ “คอฟฟี่คาเฟ่” ของแฟมิลี่มาร์ทและลอว์สัน แม้เป็นการเพิ่มความหลากหลายตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้า แต่ถือเป็นเกมยากในการเขย่าบัลลังก์เจ้าตลาด “เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่มีสาขานับหมื่นแห่ง และซีพีออลล์ยังซุ่มแตกแบรนด์ร้านกาแฟมากถึง 6 แบรนด์ แยกกระจายเจาะตลาดตามช่องทางจำหน่ายต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งชุมชน ร้านสะดวกซื้อ
ไม่ว่าจะเป็นกาแฟมวลชน, เบลลินี เบค แอนด์ บรู, จังเกิ้ล คาเฟ่, อาราบิเทีย คาเฟ่, ออลล์ คาเฟ่ และคัดสรร โดยมี 2 แบรนด์หลัก คือ ออลล์คาเฟ่และคัดสรร ที่เน้นเจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปัจจุบันเปิดจุดขายมากกว่า 2,000 สาขาในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
ที่สำคัญ ซีพีออลล์พยายามสร้างจุดขายของตัวกาแฟในแง่ตัวเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่รับซื้อจากกลุ่มชาวไทยภูเขาบนดอยช้าง พร้อมกับชูเมนูซิกเนเจอร์ เพื่อสร้างความแตกต่าง เช่น เอสเปรซโซ่ซิกเนเจอร์ มีจุดเด่น คือ ด้านล่างเป็นช็อตกาแฟเข้มข้น ด้านบนเป็นกาแฟนมปั่น เย็นสดชื่น เสิร์ฟเป็น 2 เลเยอร์ รวมทั้งมีวิธีดื่มเฉพาะ 2 แบบ คือ คนให้เข้ากันเพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อม หรือดื่ม Espresso ที่เข้มข้นจากด้านล่างขึ้นบน
สำหรับราคาเฉลี่ยต่อแก้วของออลล์คาเฟ่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง เมนูร้อนเฉลี่ยแก้วละ 25 บาท เมนูเย็น 30 บาท และเมนูปั่น 35 บาท นอกจากนี้มีเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น ชาเขียว นมสด ช็อกโกแลต ชานม และเครื่องดื่มรับเทศกาลต่างๆ อย่างเทศกาลวาเลนไทน์มีเมนูเครื่องดื่มลิ้นจี่โรสโยเกิร์ตปั่น สตรอว์เบอร์รีปั่น สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตปั่น สตรอว์เบอร์รีบานานาสมูทตี้ปั่น และสตรอว์เบอร์รีโซดา
มากไปกว่านั้น ซีพีไม่ได้มองแค่ธุรกิจร้านกาแฟในคอนวีเนียนสโตร์ แต่ต้องการรุกตลาดรวมที่มีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ต่างจาก “แฟมิลี่มาร์ท” ของเครือเซ็นทรัล ที่มีแบรนด์กาแฟตุนอยู่ในมือและเน้นตลาดระดับพรีเมียมมากกว่า
เทียบหมัดต่อหมัด สงครามกาแฟของ 3 ค่ายยักษ์คอนวีเนียนสโตร์ มีกลยุทธ์ให้ติดตามอีกหลายช็อตแน่