การรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรและข้อดีของโคเวิร์กกิ้งสเปซ
ด้วยสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ กำลังพบเจอกับความท้าทายในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ ซึ่งจากผลสำรวจค่าตอบแทนประจำปีของเมอร์เซอร์ (Mercers' Total Remuneration Survey) พบว่าประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอัตราการลาออกของพนักงานโดยสมัครใจที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023 เทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ยิ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการหากลยุทธ์สำคัญในการจัดการกับประเด็นดังกล่าวในประเทศอย่างเร่งด่วน หากบริษัทต่างๆ ต้องการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพในองค์กร และดึงดูดพนักงานใหม่ๆ ที่มีทักษะความสามารถ บริษัทจะต้องปรับตัวพร้อมรับแนวทางการทำงานแบบใหม่ ที่สอดรับกับความต้องการของพนักงานในปัจจุบัน จากรายงานแนวโน้มตลาดแรงงานที่มีทักษะศักยภาพสูงทั่วโลกในปี 2566 ซึ่งจัดทำโดยเมอร์เซอร์ (Global Talent Trends (GTT) Study 2023 by Mercer) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลจำนวนถึง 2,500 คนทั่วโลก พบว่าหนึ่งในเทรนด์สำคัญคือ ความคาดหวังให้บริษัทหรือผู้ว่าจ้าง เปิดรับต่อแนวทางการทำงานแบบใหม่สำหรับพนักงาน ออฟฟิศรูปแบบเดิมอาจไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานได้อีกต่อไป โดยพื้นที่การทำงานที่มีความยืดหยุ่นและมีชีวิตชีวา ที่ช่วยดึงดูดให้คนทำงาน รวมถึงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการสร้างความสุข ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี และเกิดแรงกระตุ้นในการทำงาน ซึ่งโคเวิร์คกิ้งสเปซได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว โคเวิร์คกิ้งสเปซ มีข้อดีต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ที่สวยงามและมีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ ไปจนถึงการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี
Read More