คลายล็อกระยะสอง โอกาสฟื้นตัวของธุรกิจ
ความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจมีต้นเหตุปัจจัยมาจากหลายด้าน ทั้งสงครามการค้า ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ Digital Disruption และการแพร่ระบาดของโรคร้าย ทั้งหมดทั้งมวลกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างความพร้อมที่ไม่ใช่แค่เพียงการตั้งรับกับความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่เป็นความพร้อมในการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคที่จะส่งผลกระทบและอาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจด้วย สงครามการค้า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หรือ Digital Disruption เสมือนด่านหน้าที่เข้ามาปะทะกับผู้ประกอบการธุรกิจ และเหมือนเป็นบททดสอบความแข็งแกร่ง รวมไปถึงศักยภาพที่จะต่อกรกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คล้ายจะเป็นตัวร้ายในด่านสุดท้ายของการประลองสรรพกำลังของผู้ประกอบการธุรกิจ ว่าจะสามารถยืนหยัดต่อสู้และผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่ เมื่อความแตกต่างของอุปสรรคในครั้งนี้ส่งผลให้ธุรกิจจำต้องหยุดดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราวในช่วงที่มีการระบาด ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในไทยอยู่ในหลักหน่วยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน ทำให้ภาครัฐตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการหลายด้านเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตในวิถีใหม่ได้ รวมไปถึงเศรษฐกิจในระดับฐานรากค่อยๆ ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วย รัฐบาลประกาศคลายล็อกในระยะที่สอง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผลให้ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หลายกิจการและกิจกรรมสามารถเปิดดำเนินการได้ ภายใต้กรอบความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นที่ตั้ง นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากหลายสถาบันเริ่มประเมินสถานการณ์ว่า หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงแล้ว ธุรกิจที่ถูกฟรีซไว้ในช่วงล็อกดาวน์ จะใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัว ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ประเมินการฟื้นของธุรกิจหลังปลดล็อกโควิด-19 ออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก ฟื้นแบบ V-Shape กลุ่มสินค้าจำเป็นและพึ่งพิงตลาดในประเทศ กลุ่มสอง ฟื้นแบบ U-Shape กลุ่มที่ได้รับผลดีจากการทยอยปลดล็อกดาวน์ตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ซึ่งธุรกิจที่ฟื้นตัวแบบ V และ U
Read More