อสังหาฯ ไทยปีเสือ แนวโน้มปรับราคาขึ้น-รับวัสดุแพง
การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เกิดขึ้นที่ตุรกี กำลังถูกจับตามองจากผู้คนทั่วโลก เมื่อเป็นความหวังครั้งใหม่ท่ามกลางความขัดแย้งของภัยสงคราม จากคราบน้ำตาและความสูญเสีย เพราะหากการเจรจาประสบความสำเร็จและมีผลออกมาเป็นรูปธรรม สถานการณ์คุกรุ่นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในหลายมิติให้เกิดขึ้นทั่วโลกคงถึงเวลาคลี่คลายอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง แม้ความเสียหายเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่ายจะยังไม่สามารถประเมินค่าได้ก็ตาม ผลกระทบทั้งทางตรง ทางอ้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงของราคาขายน้ำมันดิบ การซื้อขายก๊าซธรรมชาติ วัตถุดิบอาหารสัตว์ เพราะทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกหลักเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อาจทำให้หลายประเทศรู้สึกวางใจขึ้นมาบ้าง หากสถานการณ์ในสนามรบสิ้นสุดลง เพราะนั่นอาจหมายถึงมีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์การค้าโลกจะกลับมาเป็นปกติ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ราคาวัตถุดิบตลาดโลกทั้งพลังงาน (น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ) โภคภัณฑ์เกษตรและโลหะอุตสาหกรรม (ข้าวสาลี ข้าวโพด ปุ๋ยเคมี พืชน้ำมัน เหล็ก นิกเกิล อะลูมิเนียม) น่าจะยืนระดับสูงในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2565 จากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อและมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยชาติตะวันตกที่คงจะอยู่ตลอดปี ซึ่งปัจจัยนี้ซ้ำเติมความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในตลาดโลก รวมทั้งทำให้ปัญหาคอขวดห่วงโซ่อุปทานกลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยราคาวัตถุดิบต่างๆ อาจย่อลงได้ในครึ่งปีหลังในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาจนได้ข้อยุติหรือมีสัญญาณบวกเกิดขึ้น แต่ราคาเฉลี่ยทั้งปี 2565 นี้คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2563-2564 ราคาวัตถุดิบต่างๆ ในประเทศจึงมีแนวโน้มปรับขึ้นจากปีก่อนและยืนสูงในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีนี้ สอดคล้องกับราคาตลาดโลก เนื่องจากส่วนใหญ่ไทยพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบต้นน้ำเหล่านี้ และหรือราคาในประเทศมักจะเคลื่อนไหวตามราคาในตลาดโลก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในปี 2565 ราคาวัตถุดิบกลุ่มพลังงานอย่างน้ำมันกลุ่มเบนซิน (แก๊สโซฮอล์
Read More