Home > 2016 (Page 7)

ตรัยญา: One Stop Service แห่งสุขภาพและความงาม

  กระแสความใส่ใจในสุขภาพและความงามยังคงมาแรง อีกทั้งยังไม่มีทีท่าจะแผ่วลงง่ายๆ บวกกับศักยภาพของการแพทย์สมัยใหม่ที่พัฒนาและพร้อมตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องต่างพัฒนาตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากที่สุด ดังเช่นสถาบัน “ตรัยญา” ศูนย์สุขภาพและความงามที่เรียกได้ว่าครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่ง สถาบันสุขภาพและความงาม “ตรัยญา” (TRIA) เกิดขึ้นจากการทุ่มงบประมาณกว่า 500 ล้านบาทของโรงพยาบาลปิยะเวท เพื่อเติมเต็มการบริการด้านสุขภาพให้สมบูรณ์ ต่อยอดทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าให้กับโรงพยาบาล พร้อมทั้งวางเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นศูนย์สุขภาพที่ครบวงจร โดยเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2550 เป็นต้นมา  ตรัยญานิยามตนเองว่าเป็นสถาบันการแพทย์ผสมผสานที่มุ่งส่งเสริมสุขภาพดีแบบองค์รวม (Integrative Wellness) ซึ่งเชื่อว่าวิถีแห่งการมีสุขภาพที่สมบูรณ์ต้องมาจากความสมดุลของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยยึดหลักปรัชญาในการดูแลสุขภาพและความงามบนพื้นฐานทั้ง 3 ประการ คือ Elemental Health สุขภาพของระบบชีวเคมีในร่างกาย เน้นวิเคราะห์พื้นฐานการทำงานในระดับเซลล์ Structural Health สุขภาพของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ในด้านของความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการเผาผลาญออกซิเจน Emotional Health สุขภาพของอารมณ์ เน้นการจัดการกับความเครียดและสิ่งกระตุ้น ดังนั้นในทุกๆ บริการของตรัยญาจึงถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สุขภาพแบบองค์รวม เป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยใช้วิธีการบำบัดและรักษาแบบผสมผสานทั้งศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่และแพทย์ทางเลือก การออกกำลังกาย โภชนาการบำบัด รวมถึงการรักษาด้วยวิถีทางธรรมชาติโดยวารีบำบัด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของตรัยญา บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ย่านถนนพระราม 9 อันเป็นที่ตั้งของตรัยญา ความโอ่โถ่งของพื้นที่ถูกจัดสรรเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นสัดเป็นส่วน และแฝงไปด้วยความรู้สึกผ่อนคลายสบายตาจากการตกแต่งภายในตัวอาคาร เริ่มตั้งแต่โซน

Read More

ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับสถานรับดูแลเด็กเล็กในประเทศอเมริกา

  Column: Women in Wonderland  ช่วงนี้เรียกว่าช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศอเมริกา ทำให้แต่ละพรรคการเมืองต่างก็งัดเอานโยบายต่างๆ ออกมาหาเสียง เพื่อให้ประชาชนสนใจและลงคะแนนเสียงให้ตัวเอง นโยบายหนึ่งที่นางฮิลลารี คลินตัน ได้หยิบยกมาพูดถึงคือนโยบายการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก คนแก่ ผู้พิการ และคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในตอนกลางวันที่มีราคาในการใช้บริการที่ค่อนข้างสูง และทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถจ่ายเงินสำหรับใช้บริการเหล่านี้ได้ ที่ประเทศอเมริกาผู้คนส่วนใหญ่จะพบเจอกับปัญหาที่ว่า รายได้ของพวกเขาไม่เพียงพอต่อความต้องการของครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หลังจากคลอดลูกผู้หญิงส่วนใหญ่อาจจะลางานได้  3–6 เดือนในการดูแลลูกหลังคลอดตามกฎหมาย และหลังจากหมดวันลาคลอดแล้วก็จะนำลูกไปฝากไว้ที่สถานรับดูแลเด็กเล็ก (Child Care) ในเวลาที่ตัวเองต้องออกไปทำงาน  ในต่างประเทศสถานรับดูแลเด็กเล็กนั้นสามารถพบเห็นได้เยอะมาก ในมหาวิทยาลัยหรือที่ทำงานบางแห่งจะมีสถานรับดูแลเด็กเล็กอยู่ในที่ทำงานเลย เพื่อให้ผู้หญิงสามารถออกมาทำงานข้างนอกได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับลูกและยังสามารถไปและกลับจากที่ทำงานพร้อมลูกได้เลย สถานรับเลี้ยงเด็กในต่างประเทศนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเป็นชั่วโมงสำหรับผู้ปกครองที่ทำงานพาร์ตไทม์และไม่ได้ทำงานทุกวัน หรือจ่ายเป็นสัปดาห์สำหรับผู้ปกครองที่ทำงานเต็มเวลาทุกวัน  แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ รายได้ที่เข้ามาในครอบครัวจากทั้งผู้ชายและผู้หญิงยังคงไม่เพียงพอในการส่งลูกไปอยู่ที่สถานรับดูแลเด็กเล็ก ดังนั้นเมื่อรายได้ที่เข้ามาไม่เพียงพอ ผู้หญิงจึงต้องตัดสินใจว่าจะขอลาหยุดงานต่อเพื่อเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้านหรือจะต้องเอาลูกไปฝากไว้กับพ่อแม่ แล้วตัวเองออกไปทำงาน  ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าในวัฒนธรรมของฝรั่งนั้นไม่เหมือนกับบ้านเรา ที่ต่างประเทศเมื่อเริ่มทำงานแล้ว คนหนุ่มสาวจะแยกตัวออกมาอยู่เอง และจะกลับไปบ้านพ่อแม่ก็ต่อเมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาสหรือวันอีสเตอร์เท่านั้น ดังนั้นการที่จะให้เอาลูกไปฝากพ่อแม่เลี้ยงในตอนกลางวันจึงเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกัน การที่ต้องตัดสินใจว่าจะหยุดทำงานต่อและทำให้ครอบครัวมีรายได้น้อยลงในขณะที่รายจ่ายจะเพิ่มขึ้นจากการที่มีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นหรือจะต้องเอาลูกไปฝากพ่อแม่เลี้ยงนั้นจึงเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษมีราคาที่สูงเกินไปนั้นเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และยังคงหาทางแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ นางฮิลลารี คลินตัน มองเห็นปัญหานี้ และได้คิดที่สานนโยบายนี้ต่อหลังจากที่นโยบายแก้ไขปัญหานี้ไม่เดินหน้าเท่าที่ควรในรัฐบาลชุดนี้ สาเหตุที่นางคลินตันเห็นความสำคัญของปัญหานี้ก็เพราะในปี 2532 นางคลินตันซึ่งในขณะนั้นยังคงทำงานเป็นทนายความและประธานของกองทุนปกป้องเด็ก (Children’s Defense

Read More

ร่างกายประท้วงอะไรบ้างเมื่อคุณกินมากไป

 Column: Well – Being เราทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว คือปล่อยให้ความเย้ายวนของอาหารเข้าครอบงำจิตใจ จนเผลอกินมากเกินไป จึงรู้สึกไม่สบายตัวหลังจากนั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง เมื่อคุณเผลอกินมากเกินไป นิตยสาร GoodHealth ไขข้อข้องใจดังนี้ คุณรู้สึกอิ่มมากและไม่สบายตัว เพราะก่อนกินอาหาร กระเพาะอาหารของคุณมีขนาดเท่ากำปั้นขนาดใหญ่โดยประมาณ เมื่อกินอาหารเข้าไป ตัวรับความรู้สึกที่รับรู้การเหยียด (stretch receptors) ในผนังกระเพาะอาหารถูกกระตุ้น จึงส่งสัญญาณไปยังสมอง เพื่อบอกว่าคุณอิ่มแล้ว “กลไกนี้เริ่มทำงานเมื่อคุณกินอาหารปริมาณเทียบเท่าหนึ่งลิตร แต่กระเพาะอาหารสามารถขยายตัวเพื่อรับอาหารได้มากถึงสี่ลิตร” ดร. เคน หว่อง ศัลยแพทย์การผ่าตัดรักษาโรคอ้วนอธิบาย ซึ่งเท่ากับอาหาร 16 ถ้วยโดยประมาณ ดร. หว่องแนะนำว่า “การลุกขึ้นและเดินไปมา หรือลองกินน้ำมันเปปเปอร์มินต์ชนิดแคปซูล จะช่วยลดความรู้สึกอึดอัดจากความอิ่มมากได้” คุณรู้สึกแสบร้อนกลางอกหรือลำคอ ปกติแล้วน้ำย่อยในกระเพาะอาหารจะอยู่ในที่ในทาง ไม่ไหลย้อนออกมา เพราะมีวาล์วคอยกั้นเอาไว้ แต่เวลาที่กระเพาะอาหารมีอาหารเต็มมาก ทำให้เกิดแรงดันที่สามารถทำให้วาล์วนี้เปิดออก น้ำย่อยจึงไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร ก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก วิธีแก้ไขคือ ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะน้ำลายมีฤทธิ์เป็นด่าง เมื่อไปรวมตัวกับน้ำย่อยที่ไหลย้อนขึ้นมาซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด จึงช่วยให้เกิดภาวะเป็นกลางขึ้น ผลการศึกษาโดยโรงพยาบาลเซนต์โธมัสแห่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า หลังกินอาหารอิ่ม หากเคี้ยวหมากฝรั่งปลอดน้ำตาลนาน 30 นาที

Read More

ผ้าไทย เทรนด์สวยร่วมสมัย คุณค่าแห่งการถักทอ

  “สมัยก่อนไม่มีร้านขายผ้าไหม ต้องไปดูตามหมู่บ้าน หรือร้านขายข้าวสารเพราะชาวบ้านมักจะนำผ้าไปแลกเป็นข้าวสาร” เรื่องเล่าจากการจัดเสวนา “เปิดกรุ ทะลุตู้ ดูผ้ามัดหมี่แสนรัก แสนหวง” ที่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าโบราณ และนักสะสมผ้ามัดหมี่ร่วมพูดคุย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ “มัดหมี่” สายสัมพันธ์แห่งเอเชีย ที่จัดขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม - 25 กันยายน 2559 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เทรนด์การนุ่งผ้าไทยในชีวิตประจำวันกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างดี ซึ่งเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองร่วมรณรงค์ “แต่งผ้าไทยใส่ผ้าซิ่น” เพื่อสนับสนุนให้เป็นต้นแบบในการแต่งกายด้วยผ้าไทยกันอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ผ้าซิ่นนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของหญิงไทยในสมัยโบราณ การทอผ้าเป็นงานในบ้าน ลูกผู้หญิงซึ่งมีหน้าที่ทอผ้าได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้เป็นแม่จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งการทอผ้านั้นจะใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานบวช หรืองานบุญประเพณีต่างๆ การนุ่งผ้าซิ่นของผู้หญิงจึงเป็นเสมือนการแสดงฝีมือของตนให้ปรากฏ นอกจากนี้ ผ้าซิ่นของไทยมักจะแบ่งได้เป็นสองลักษณะ 1. ผ้าซิ่นสำหรับใช้งานทั่วไป มักจะไม่มีลวดลายมากนัก ทอด้วยผ้าฝ้ายหรือด้ายโรงงาน (ในสมัยหลัง) อาจใส่ลวดลายบ้างเล็กน้อยในเนื้อผ้า 2. ผ้าซิ่นสำหรับใช้ในโอกาสพิเศษมักจะทอด้วยความประณีตเป็นพิเศษ มีการใส่ลวดลาย สีสันงดงาม และใช้เวลาทอนานนับแรมเดือน ขนาดและลักษณะของผ้าซิ่นนั้นขึ้นอยู่กับฝีมือ รสนิยม

Read More

ซีเอ็มโอ กรุ๊ป จับมือไร้ท์แมน ลุย CLMV ตลาดใหม่ของนักลงทุน

  ในแต่ละวันประเทศไทยมีงานอีเว้นท์กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้การเกิดใหม่ของผู้ประกอบการธุรกิจประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดอีเว้นท์ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงในมือของผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่มีเครดิตเป็นการจัดงานระดับชาติหรือระดับโลกเฉกเช่นเดิมอีกต่อไป กระนั้นทางเลือกที่มีมากขึ้น นับเป็นเรื่องดีต่อเหล่านักการตลาดและเจ้าของธุรกิจในการที่มีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการจัดอีเว้นท์สักหนึ่งครั้ง และนั่นเองที่ทำให้รายได้กระจายไปสู่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ระลอกคลื่นดังกล่าวส่งผลอย่างชัดเจนต่อผู้ประกอบการอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาด ภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยที่ยังขาดความคงเส้นคงวา ตัวเลข GDP ที่ถูกปรับขึ้นเพียงไม่กี่จุด กำลังซื้อลดลง เงื่อนไขของผู้บริโภคมีมากขึ้น การมองหาตลาดใหม่เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่พอจะหมายมั่นปั้นมือได้ หากพิจารณาอย่างรอบด้านในห้วงเวลาที่ทุกฝ่ายต่างต้องการอนาคตที่ดีขึ้น และรวมไปถึงผลกำไรที่มากขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็ให้ห่างไกลจากการขาดทุน  ตลาดอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่าภูมิประเทศแถบนั้นกำลังส่งกลิ่นหอมหวนราวกับทุ่งดอกไม้ ที่หลายธุรกิจหลากนักลงทุนกำลังให้ความสนใจ และมองหาจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถจะสร้างชื่อเสียงรวมไปถึงการดึงความสนใจจากผู้ร่วมทุนรายอื่นๆ ด้วย บริษัท CMO จำกัด (มหาชน) นับได้ว่าเป็นผู้นำธุรกิจครีเอทีฟอีเว้นท์ครบวงจรแห่งอาเซียน ซึ่งลักษณะของธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการอีเว้นท์และสื่อสารการตลาด บริการงานด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์และไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงงานด้านธุรกิจท่องเที่ยว กระนั้นงานที่ดูจะเป็นลายเซ็นของ CMO คือ ธุรกิจ Event Supply เช่น ระบบภาพ แสง เสียง และมัลติมีเดีย ที่มีพร้อมสำหรับตอบสนองความต้องการของโชว์และอีเว้นท์ทุกรูปแบบ  ขณะที่ฟากฝั่งของบริษัท Right Man จำกัด ที่ดูจะเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการอีเว้นท์และเอ็กซิบิชั่นแบบครบวงจร มีความโดดเด่นในการสร้างสรรค์งานด้านการออกแบบที่ผสมผสานกับนวัตกรรมได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้านงานพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือการที่สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีเว้นท์ จับมือลงนามเซ็นสัญญาเพื่อเป็นพันธมิตร โดยมีเป้าประสงค์ในการรุกตลาดอาเซียน

Read More

จากเด็กชายฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส สู่ผู้คิดค้นสูตรไก่ทอดต้นตำรับเคเอฟซีที่ครองใจคนทั่วโลก

  วันที่ 9 เดือน 9 นอกจากจะเป็นวันดี เพราะตรงกับเลขมงคลแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญของเคเอฟซีเลยก็ว่าได้ เพราะตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ “ผู้พันแซนเดอร์ส” คุณลุงหน้าตายิ้มแย้มผู้คิดค้นไก่ทอดสูตรต้นตำรับที่รสชาติอร่อยไม่เหมือนใครและยากที่จะเลียนแบบที่สุด ซึ่งถ้าไม่มีเขา เราก็คงไม่มีเคเอฟซีทุกวันนี้! แฟนๆ เคเอฟซีคงรู้จักคุณลุงผู้พันดีกันอยู่แล้ว แต่ใครจะรู้เบื้องหลังว่ากว่าจะมาเป็นแบรนด์ไก่ทอดที่ทุกคนชื่นชอบในรสชาติ คุณลุงต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากแค่ไหน และเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดคุณลุงผู้พันทั้งที เรามาทำความรู้จักกับคุณลุงให้มากขึ้นสักหน่อยดีกว่า   ชื่อเต็มของคุณลุงคือ ฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอร์ส และตอนที่ยังเป็นเพียงเด็กชายฮาร์แลนด์ อายุเพียง 5 ขวบ คุณพ่อของคุณลุงก็เสียชีวิต ในฐานะพี่คนโต จึงต้องอาศัยอยู่กับแม่และดูแลน้องๆ มาตลอด ชีวิตคุณลุงเรียกได้ว่าฝ่าฟันมรสุมมามากทีเดียว เพราะต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้น ก็ได้ทำงานสารพัดอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคนขายประกัน พนักงานดับเพลิง ทหาร คนขับเรือกลไฟ แต่ก็ล้มเหลวไปเสียทุกครั้ง จนกระทั่งได้รับโอกาสให้ทำงานในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง และค้นพบความสามารถในการทำอาหารของตนเอง จนได้คิดค้นสูตรไก่ทอดแสนอร่อยจนสำเร็จ ซึ่งคุณลุงต้องตระเวนขายไก่ทอดและถูกปฏิเสธถึง 1,009 ครั้ง  ก่อนจะพัฒนาสูตรและก่อตั้งบริษัทไก่ทอดเมื่ออายุได้ 65 ปี

Read More

อาการผิดปกติในเวลาเดียวกันของทุกวันบ่งบอกอะไร

 Column: Well – Being คุณเคยมีอาการอย่างนี้บ้างไหม ปวดศีรษะหรือเจ็บตามข้อในเวลาเดียวกันของทุกวัน ให้เอาใจใส่และสังเกตเมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เพราะอาจช่วยให้คุณรู้สาเหตุได้ มีอาการผิดปกติทางร่างกายมากมายที่มักสัมพันธ์กับการทำกิจกรรมบางอย่าง หรือสัมพันธ์กับช่วงเวลาหนึ่งช่วงเวลาใดของวัน สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นเบาะแสที่จำเป็นสำหรับการไขปริศนาปัญหาสุขภาพของคุณ คุณคุ้นเคยกับอาการต่อไปนี้ที่นิตยสาร GoodHealth นำเสนอหรือไม่ ไอหลังรับประทานอาหาร อาจมีสาเหตุจากอาการกรดไหลย้อน ศาสตราจารย์อัลวิน อิงก์ แห่ง Sydney Adventist Hospital Clinical College อธิบายว่า ขณะที่คนจำนวนมากคุ้นเคยกับอาการแสบร้อนกลางอกที่มีสาเหตุจากกรดไหลย้อน กลับมีบางคนเท่านั้นที่มีอาการไอ “จริงๆ แล้วกรดไหลย้อนเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักสามประการที่ก่อให้เกิดอาการไอเรื้อรัง” อาการไอเกิดขึ้นเมื่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร หรือเข้าไปในปอดโดยตรง ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเส้นประสาท การวินิจฉัยว่า อาการไอของคุณสัมพันธ์กับโรคกรดไหลย้อนหรือไม่นั้น ทำได้ไม่ง่ายนัก และอาจสับสนกับโรคหืดหอบด้วย ถ้าไม่แน่ใจแพทย์อาจสั่งจ่ายยาลดกรดให้ เพื่อดูว่าอาการไอจะหายไปหรือไม่ ไอกลางดึกอาจเป็นสัญญาณของโรคหืดหอบ ดร.บาสเตียน เซเดล แห่งคณะกรรมการโรคหืดหอบแห่งชาติ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า “ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคหืดหอบ มักไอเวลากลางคืน” สาเหตุเพราะเมื่อถึงเวลากลางคืน ร่างกายเผชิญกับความแปรปรวนที่เกิดขึ้นกับฮอร์โมน เซลล์ที่มีอาการอักเสบ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระบบทางเดินหายใจ จึงกระตุ้นให้ไอ อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคหืดหอบยังรวมถึงการหายใจมีเสียงวี้ด และมีเสมหะในลำคอ ถ้าคุณต้องทุกข์ทรมานจากอาการเหล่านี้

Read More

เซ็นทรัลเร่งเครื่องมิกซ์ยูส เปิดศึกชิงตลาดคอนโด

   บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เริ่มเดินเครื่องเต็มสูบขยายโครงการ “มิกซ์ยูส” ตามยุทธศาสตร์ใหม่ เพื่อสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ และไม่ใช่แค่ Retail Developer แต่สยายปีกสู่ตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมผ่านบริษัทลูกที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ “ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์” ภายใต้สูตรธุรกิจ “บ้าน+ห้าง คือ ซีพีเอ็น”  ต้องยอมรับว่า ช่วงเวลากว่า 36 ปี ซีพีเอ็นเริ่มต้นธุรกิจจากแนวคิดของ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ที่จะทำศูนย์การค้าแบบครบวงจร รวมศูนย์อาหาร สถาบันความงาม ศูนย์สุขภาพ โรงภาพยนตร์ และห้างสรรพสินค้า  โดยเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขาลาดพร้าว เป็นแห่งแรก และใช้เวลาบุกโครงการในทำเลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  ปัจจุบัน ซีพีเอ็นบริหารศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล ทั้งสิ้น 30 โครงการ อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13 โครงการ ต่างจังหวัด 17

Read More

อาหารประจำชาติ

   กระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าด้วย พริกแกง ดูจะเป็นไปอย่างคึกคักหนักหน่วงอย่างยิ่งไม่เฉพาะในโลกโซเชียลมีเดีย หากแต่ดูเหมือนบรรดานักวิจารณ์ภาพยนตร์จำนวนไม่น้อยต่างก็แสดงทัศนะด้านลบต่อภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอย่างเผ็ดร้อนไปตามชื่อเรื่อง ความเป็นไปของวัฒนธรรมอาหารในด้านหนึ่งคือความลื่นไหลของทั้งประสบการณ์และการแลกเปลี่ยนสัมพันธ์ที่สามารถไล่เรียงตั้งแต่ระดับปัจเจกชนไปถึงระดับชุมชนหมู่บ้าน กระทั่งก่อรูปเป็นกระแสสำนึกในระดับประเทศชาติ ให้เก็บรับกลายเป็นวัฒนธรรมอาหารและการบริโภคไปโดยปริยาย ความพยายามที่จะผูกขาดยึดโยงแบบเหมารวมทั้งในมิติของวิธีการปรุงก็ดีหรือแม้กระทั่งเครื่องเคราวัตถุดิบในการปรุงอย่างกำหนดตายตัวในเมนูอาหารหลากหลายจึงเป็นเรื่องที่สวนทางกับข้อเท็จจริงของวัฒนธรรมอาหาร  ยิ่งเมื่อผูกสานผสมรวมเข้ากับวิถีคิดแบบชาตินิยมคับแคบยิ่งทำให้คำว่า อาหารประจำชาติ กลายเป็นเพียงเรื่องขบขันที่น่าเสียดาย ชนิดที่หัวเราะไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้ และอาจทำให้เมนูอาหารประจำชาติที่ว่าถูกทิ้งร้างให้จมปลักอยู่ในเงามืดของมุมห้องครัว และปรากฏเหลือเพียงชื่อให้ได้กล่าวถึงแต่ไร้สรรพรสที่จะหยิบยื่นให้สัมผัส หากสำหรับครัวศรีลังกาซึ่งวิวัฒน์ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมหลากหลายทั้งจากการที่เป็นสถานีการค้าสำคัญตั้งแต่ครั้งอดีต หรือแม้กระทั่งการเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ทำให้อาหารพื้นถิ่นของศรีลังกาอุดมด้วยเรื่องราวและรากฐานทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ที่ผสานเข้ากับภูมิปัญญาและวัตถุดิบประจำถิ่นที่กอปรส่วนเข้ามาเป็นอาหารของศรีลังกาในปัจจุบัน แม้ว่าอาหารจานหลักของศรีลังกาจะอยู่บนพื้นฐานที่มีข้าว มะพร้าวและเครื่องเทศหลากหลายเป็นองค์ประกอบหลัก โดยเฉพาะเครื่องเทศที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวพันกับศรีลังกาทั้งในฐานะผู้ผลิตสำคัญและการเป็นสถานีการค้าที่มีเครื่องเทศจากทุกภูมิภาคของโลกเคลื่อนตัวผ่าน ทำให้อาหารของศรีลังกาเต็มไปด้วยสีสันและรสชาติที่หลากหลายตามแต่จะปรับเข้าหารสนิยมของผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นถิ่นด้วย สำรับอาหารของศรีลังกานอกจากจะมีข้าวสวยที่ผ่านการหุงสุกประกอบส่วนด้วยเครื่องแกง ที่ถือเป็นสำรับอาหารที่มีต้นทางและเป็นประหนึ่งวัฒนธรรมร่วมอยู่ในอนุภูมิภาคเอเชียใต้ หากมีความหลากหลายทั้งในมิติของรสชาติที่ไล่ระดับความเผ็ดร้อน หรือแม้กระทั่งเนื้อสัตว์แหล่งโปรตีนที่จะเติมเต็มคุณค่าสารอาหาร ทั้งปลา ปู กุ้ง หมู ไก่ หรือแม้กระทั่งเนื้อแพะ วัฒนธรรมอาหารที่ลื่นไหลและอบอวลคละคลุ้งในลักษณะเช่นว่านี้ ทำให้ศรีลังกายากที่จะระบุให้อาหารสำรับใดหรือจานใดจานหนึ่งเป็นอาหารประจำชาติของศรีลังกาแต่โดยลำพัง หากเมื่อกล่าวถึงอาหารยอดนิยมของศรีลังกาแล้วล่ะก็ คงได้ลิสต์รายชื่อออกมาเป็นหางว่าวอย่างแน่นอน ยังไม่นับรวมการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เป็นมรดกจากยุคอาณานิคมเช่น Lamprais หรือข้าวห่อใบตองซึ่งมีต้นทางมาจากวัฒนธรรมอาหารของพวก Dutch Burgher ที่มีลักษณะเฉพาะด้วยการนำข้าวหุงสุกคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศและเครื่องแกงควบคู่ด้วยเนื้อสัตว์ ก่อนจะห่อด้วยใบตองแล้วนำไปอบ ซึ่งก็คือการหุงปรุงรอบที่สอง มรดกของอาหารสำรับดังกล่าวนี้ อาจกล่าวได้ว่า Lamprais เป็นประหนึ่งต้นทางของการห่อข้าวให้เป็น Lunch Packett สำหรับวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการย่อส่วนโดยตัดใบตองและการอบครั้งที่สองออกไปให้เหลือเพียงข้าวกับเครื่องแกงและเครื่องเคียงที่อุดมด้วยสารอาหารและความสะดวกในการพกพา ขณะเดียวกัน การนำข้าวมาแปรรูปเป็นแป้งข้าวเจ้าผสมเข้ากับกะทิมะพร้าวและเครื่องเทศ ก่อนจะนำไปหมักเพื่อให้เกิดเป็น Hoppers หรือแป้งทอดในกระทะเพื่อให้เกิดเป็นรูปทรงคล้ายแพนเค้กที่มีขอบสูงก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกสำหรับการเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต หรือเพิ่มรสชาติด้วยการทำเป็น Egg

Read More

40 ปี ดอยคำ ผลิตภัณฑ์แห่งคุณค่า

  เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาภาพยนตร์โฆษณาชุด “ดอยคำขอโทษ” ที่ถูกเผยแพร่อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น Viral Clip ที่ใครต่อใครต้องแชร์ ส่งต่อ และกล่าวถึง เพราะเนื้อหาสาระที่ดอยคำสื่อสารออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจ ในเรื่องรสชาติของสดของแท้จากผลไม้ชนิดนั้นจริงๆ ที่ดีต่อผู้บริโภค ราคา สินค้าไม่เท่ากัน บางผลิตภัณฑ์มีราคาสูง แตกต่างกันออกไปตามวัตถุดิบ และความหลากหลายของรสชาติ ดอยคำไม่มีให้เลือกมาก เนื่องจากผลไม้ส่วนใหญ่ปลูกในเมืองไทย นอกจากจุดประสงค์ของโฆษณาที่ต้องการแสดงความจริงใจ จริงจัง และความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคแล้ว ยังแฝงไปด้วยความนอบน้อมซึ่งมักไม่ค่อยปรากฏในสินค้าแบรนด์ที่เป็นเจ้าตลาด พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา ผู้ที่ให้คำจำกัดความของตำแหน่งตัวเองใน บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ว่า “ถูกอุปโลกน์ขึ้นให้มานั่งตำแหน่งนี้” ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า 40 ปี ดอยคำมีการเติบโตมาแบบช้าๆ เป็นการค่อยๆ โต ด้วยพระราชวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความทุกข์ยากของราษฎร ทั้งการแก้ปัญหาการปลูกฝิ่น และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จึงพระราชทานแนวพระราชดำริให้จัดตั้ง “โครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา” เพื่อแก้ปัญหาการปลูกฝิ่น การทำไร่เลื่อนลอย ส่งเสริมการปลูกพืชผัก ผลไม้ แต่เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับการส่งเสริมอยู่ห่างไกลตัวเมืองและแหล่งรับซื้อ จึงเกิดปัญหาการถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ประกอบกับในบางช่วงฤดูจะมีผลผลิตที่ล้นตลาด หรือบางครั้งอาจไม่ได้ขนาดที่เหมาะสำหรับจำหน่ายผลสด  ในปี 2515

Read More