อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีศาสนาประจำชาติคือศาสนาอิสลาม และผู้หญิงมีสิทธิในสังคมน้อยกว่าผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้จึงต้องปฏิบัติตามกฎต่างๆ อย่างเคร่งครัด ยกตัวอย่างเช่นการห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถ ผู้หญิงไม่สามารถออกไปไหนตอนกลางคืนได้ และต้องแต่งตัวให้มิดชิดและเรียบร้อย สิ่งเดียวที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นจากใบหน้าของผู้หญิงได้เมื่ออยู่ในที่สาธารณะคือ ลูกตาของพวกเธอเท่านั้น ในขณะเดียวกันประเทศอินโดนีเซียก็เป็นประเทศที่มีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก แม้ว่ากฎระเบียบและการลงโทษจะไม่เคร่งครัดเท่าประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่หลักปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามนั้นเหมือนกัน อย่างเช่นว่าผู้หญิงไม่สามารถออกไปข้างนอกกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวได้ เป็นต้น การอยู่อาศัยในประเทศทั้งสองนี้จึงมีความแตกต่างกันไม่มากนัก เป็นที่น่าแปลกใจว่ารายได้หลักๆ ของประเทศอินโดนีเซียมาจากการที่ประชากรชาวอินโดนีเซียออกไปทำงานในต่างประเทศแล้วส่งเงินกลับมาให้ทางบ้านใช้เป็นเงินจำนวนมาก เมื่อปี 2555 ชาวอินโดนีเซียที่ไปทำงานต่างประเทศได้ส่งเงินกลับบ้านผ่านธนาคารอินโดนีเซีย เป็นจำนวนมากถึง 7,200 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็มากกว่า 200,000 ล้านบาท อาชีพหนึ่งซึ่งเป็นอาชีพที่คนอินโดนีเซียนิยมไปทำกันมากในต่างประเทศคือ อาชีพแม่บ้าน ปัจจุบันนี้ประเทศอินโดนีเซียมีแรงงานที่ประกอบอาชีพแม่บ้านประมาณ 10.7 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเขตชนบท และจบการศึกษาในระดับประถมศึกษาเท่านั้น ถ้าสังเกตดูจากประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ เราอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเห็นได้ว่าแม่บ้านที่ทำงานอยู่ในประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนอินโดฯ ยกตัวอย่างเช่น ในฮ่องกงมีแม่บ้านประมาณ 300,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดฯ ชาวอินโดนีเซียไม่ได้ทำงานเป็นแม่บ้านเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่พวกเธอยังทำงานเป็นแม่บ้านในหลายๆ ประเทศอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เป็นต้น การทำงานเป็นแม่บ้านในต่างประเทศ แล้วสามารถส่งเงินกลับมาให้ที่บ้านใช้เป็นจำนวนมาก ฟังแล้วดูเหมือนดีเพราะสามารถหาเงินได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองและส่งกลับไปให้ครอบครัวใช้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว
Indonesian Maid Read More