ในแต่ละปี มีเด็กผู้หญิงอย่างน้อย 10 ล้านคน ที่ต้องแต่งงานก่อนที่พวกเธอจะมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในทวีปแอฟริกาเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นอยู่ทุกๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกา หรือแม้กระทั่งในยุโรป เท่ากับว่าในหนึ่งวันจะมีเด็กผู้หญิงประมาณ 25,000 คนที่ถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่พวกเธอยังเป็นเด็กอยู่ส่วนใหญ่แล้วผู้คนไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะเรื่องนี้ดูผิวเผินแล้วเหมือนจะเป็นปัญหาทางครอบครัว หรือวัฒนธรรมในแต่ละประเทศที่มีมานาน แต่การเป็นเจ้าสาวตั้งแต่ยังเด็กนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเราทุกคนควรหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้ประเทศแซมเบียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา มีประธานาธิบดีเป็นผู้บริหารและปกครองประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกัน และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการประจำชาติ ผู้คนส่วนใหญ่ 75% นับถือศาสนาคริสต์ และอีก 25% นับถือศาสนาอิสลามและฮินดู ประเทศแซมเบียเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มองเห็นความสำคัญเรื่องการแต่งงานกับเด็กผู้หญิง ผู้นำแซมเบียมีความเชื่อว่า ในการพัฒนาประเทศของตัวเอง การหยุดยั้งการแต่งงานตั้งแต่ยังเด็กเป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมากในการที่จะพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นๆผู้นำประเทศแซมเบียได้ตัดสินใจให้มีการรณรงค์ยุติการแต่งงานกับเด็ก ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังให้สตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศหรือภรรยาของท่านที่ชื่อ Christine Kaseba มาเป็นผู้ช่วยในการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้กับประชาชนมากขึ้นเกี่ยวกับโครงการนี้หลังจากที่โครงการนี้ได้เริ่มมาเกือบ 5 เดือนแล้ว ก็มีบุคคลสำคัญต่างๆ รวมไปถึงผู้นำทางศาสนาในแซมเบียที่ออกมาสนับสนุนโครงการนี้ และต้องการให้วัฒนธรรมการแต่งงานกับเด็กผู้หญิงหมดไปจากประเทศแซมเบีย ผู้นำทางศาสนายังเรียกร้องให้รัฐบาลจับตัวผู้ที่ต้องการแต่งงานกับเด็กผู้หญิง หรือผู้ที่บังคับเด็กผู้หญิงให้แต่งงานไปเข้าคุกอีกด้วย เพราะถือว่าทำความผิดทางกฎหมายกฎหมายของประเทศแซมเบียระบุไว้ว่า ผู้หญิงจะแต่งงานได้ก็ต่อเมื่อมีอายุอย่างน้อย 21 ปีบริบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว
Zambia Read More