Home > Vanida Toonpirom (Page 6)

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ทุ่มงบกว่า 840 ลบ. เปิดตัว “แลนซีโอ คริป เทพารักษ์ – บางปลา” เจาะตลาดสมุทรปราการ

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ทุ่มงบกว่า 840 ลบ. เปิดตัวโครงการใหม่ “แลนซีโอ คริป เทพารักษ์ – บางปลา” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ฝรั่งเศส ใกล้เมกา บางนา เมืองใหม่บางพลี สะดวกในการเดินทางด้วยทางด่วนบูรพาวิถี และวงแหวนกาญจนาภิเษก ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.89 ล้านบาท เทพารักษ์ทำเลศักยภาพ นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) เปิดเผยว่า เทพารักษ์ถือเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยมด้านฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก เพราะโดดเด่นด้วยศักยภาพของระบบคมนาคมทั้งทางด่วนและใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเหลืองและสายสีเขียว ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกด้านการเดินทางและการขนส่ง ที่สำคัญยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่ภาครัฐวางแผนพัฒนาเมกกะโปรเจคต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชนที่ต่างขานรับในแผนพัฒนาเมือง เร่งผุดโปรเจคใหม่เพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในทำเลดังกล่าวจำนวนมาก ทั้งห้างสรรพสินค้า ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ และคอมมูนิตี้มอลล์ สมุทรปราการถือเป็นจังหวัดที่มีประชากรอยู่อาศัยมากเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพฯ มีประชากรอยู่ราวๆ 5,471,588 คน หนาแน่น 3,488 คน/ตร.กม.

Read More

กูลิโกะ ป๊อกกี้ 5 ทศวรรษ ตำนานความอร่อย

ถ้าพูดถึงบิสกิตแท่งเคลือบช็อกโกแลตแบรนด์ “ป๊อกกี้” (Pocky) เชื่อว่าต้องเป็นขนมสุดโปรดของใครหลายๆ คน และสำหรับบางคนอาจเรียกได้ว่าโตมากับป๊อกกี้เลยทีเดียว เพราะป๊อกกี้ยืนหนึ่งในตลาดบิสกิตของไทยมานานถึง 52 ปี และที่สำคัญยังไม่หยุดสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาด ล่าสุดส่ง “ป๊อกกี้ ครัช” บุกตลาดพรีเมียม พร้อมเปิดตัว Glico Friend ดึง “ซี & นุนิว” มาช่วยสื่อสารแบรนด์ป๊อกกี้ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ประวัติศาสตร์ความอร่อยของป๊อกกี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2462 เมื่อนายริอิจิ เอซากิ ได้ค้นพบสารไกลโคเจนจากน้ำซุปที่ต้มหอยนางรมซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงเริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารที่นำสารไกลโคเจนมาใช้ จนได้ออกมาเป็น “Glico Caramel” (กูลิโกะ คาราเมล) ขนมเสริมสุขภาพกล่องสีแดงขึ้นมา และเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2465 ที่ห้างสรรพสินค้ามิทสึโคชิ ซึ่งเป็นห้างเก่าแก่ในโอซากา และในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกันนั้นเอง ก็ได้ก่อตั้ง “บริษัท เอซากิ กูลิโกะ จำกัด” (Ezaki Glico CO., LTD.)

Read More

“กิ่งก้านใบ” จากสถาปนิกสู่นักจัดสวนมือฉมัง

ธุรกิจรับออกแบบจัดสวนถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์และทำให้ผู้คนหันมาใช้ชีวิตที่บ้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ความต้องการด้านการออกแบบและจัดสวนขยายตัวตามไปด้วย สำหรับในเมืองไทยก็นับว่ามีบริษัทรับออกแบบจัดสวนมากมายและหลากหลายสไตล์ให้บริการอยู่ในท้องตลาด แต่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและถือเป็นผู้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการจัดสวนคงต้องยกให้กับ “บริษัท กิ่งก้านใบ จำกัด” บริษัทออกแบบจัดสวนที่ก่อตั้งโดย บอย-ธวัชชัย ศักดิกุล และ พลอย-พลอยทับทิม สุขแสง สองเพื่อนซี้ที่ผันตัวเองจากอาชีพสถาปนิกมาเป็นนักออกแบบจัดสวนมือฉมังที่ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในประเทศ แต่ยังไปสร้างชื่อและฝากฝีไม้ลายมือถึงระดับโลก จุดตั้งต้นของกิ่งก้านใบเริ่มจากที่ทั้ง 2 คน ต่างสนใจด้านศิลปะและการออกแบบเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเข้าศึกษาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาตรี ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโตในสายวิชาชีพสถาปนิกหลังจบการศึกษา แต่ทำได้สักพักใหญ่ๆ เริ่มรู้สึกว่าสวนที่มาอยู่ในอาคารที่พวกเขาออกแบบยังไม่ตอบโจทย์ เพราะเชื่อว่าความเป็น “สวน” ต้องให้อะไรได้มากกว่าเพียงแค่มองเฉยๆ ประกอบกับสมัยเรียนทั้งคู่ต่างเป็นสายประกวดที่มักส่งผลงานการออกแบบเข้าประกวดอยู่เสมอๆ จึงเริ่มคันไม้คันมือและอยากคิดเองทำเอง กระทั่งในปี 2549 จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และมาเปิดบริษัทออกแบบจัดสวนในชื่อ “บริษัท กิ่งก้านใบ จำกัด” (GingGaanBai) ในที่สุด   ธวัชชัย ศักดิกุล สถาปนิก นักออกแบบและผู้ก่อตั้ง บริษัท กิ่งก้านใบ จำกัด ย้อนจุดตั้งต้นของกิ่งก้านใบให้ “ผู้จัดการ 360 องศา” ฟังว่า “การเป็นสถาปนิกออกแบบอาคารใหญ่ๆ ต้องใช้เวลาหลายปี มันรอนานมากกว่าที่คนจะเห็นผลงานและมีความสุขกับงานของเรา

Read More

จาก The Deck สู่ The Gate Grand Palace ย้อนเรื่องราวธุรกิจร้านอาหารย่านท่าเตียน

“ท่าเตียน” ถือเป็นอีกหนึ่งย่านสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  ทั้งในบริบทของความเป็นย่านการค้าเก่าที่แวดล้อมด้วย วัด วัง และชุมชน รวมถึงในบริบทของการเป็นแหล่งแฮงก์เอาต์กลางกรุงที่แวดล้อมไปด้วยร้านอาหารและที่พักหลากหลายแบบ โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาและฉากของวัดอรุณราชวรารามเป็นไฮไลต์  และถ้าพูดถึงร้านอาหารและที่พักย่านท่าเตียนที่ปัจจุบันกำลังผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว คงต้องพูดถึง “The Deck by the river” (เดอะ เด็ค บายเดอะริเวอร์) ในฐานะร้านอาหารแรกๆ ที่เข้ามาปักหมุดในย่านท่าเตียนเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน และถือเป็นผู้จุดกระแสให้ท่าเตียนเป็นที่รู้จักในบริบทใหม่ จากย่านการค้าสู่แหล่งแฮงก์เอาต์กลางกรุง พญ.ปิยะนุช รักพาณิชย์ หรือ หมอนุช ผู้อำนวยการแพทย์สวนสุขภาพอรุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและการแพทย์ผสมผสาน และในอีกหนึ่งบทบาทคือการเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “อรุณเรสซิเด้นท์ กรุ๊ป” (Arunresidence group) ผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารและที่พักย่านท่าเตียน อย่างเดอะ เด็ค บายเดอะริเวอร์, ศาลาอรุณ และโรงแรมอรุณ เรสซิเดนท์ เล่าถึงที่มาของการเริ่มธุรกิจร้านอาหารในย่านท่าเตียน โดยมีเดอะ เด็ค บายเดอะริเวอร์ เป็นร้านแรกให้ “ผู้จัดการ 360 องศา”

Read More

“สัมมากร” จากที่ดินผืนแรก สู่ปีที่ 54 ในตลาดอสังหาฯ เมืองไทย

“สัมมากร” หรือ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดมานาน จากที่ดินผืนแรกจำนวน 200 ไร่ในละแวกสุขาภิบาล 3 สู่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่อยู่ในตลาดมานานถึง 54 ปี และส่งมอบบ้านให้ผู้อยู่อาศัยไปแล้วมากกว่า 6,000 หน่วย สัมมากรก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2513 โดยสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อประกอบกิจการจัดสรรที่ดิน พัฒนาที่ดินแบ่งเป็นแปลงย่อย พร้อมปลูกสร้างบ้านขายให้แก่ประชาชนที่มีรายได้ตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป โดยเริ่มดำเนินโครงการแรกในปี 2516 กับโครงการ “สัมมากร บางกะปิ” ที่เริ่มต้นจากที่ดินจำนวน 200 ไร่ ในละแวกสุขาภิบาล 3 ก่อนที่จะขยายเป็น 1,200 ไร่ ในระยะต่อมา ซึ่งทำให้สัมมากรขึ้นแท่นผู้บุกเบิกอสังหาริมทรัพย์ในละแวกดังกล่าว 3 กุมภาพันธ์ 2537 บริษัทจดทะเบียนในนามสัมมากรเติบโตและแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในลักษณะของหมู่บ้านจัดสรร พร้อมทั้งการให้บริการบำรุงรักษาโครงการภายหลังการขาย ภายใต้สัญลักษณ์ “บ้านสัมมากร” อีกทั้งยังขยายขอบเขตออกไปทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งมีนบุรี

Read More

“ณพน เจนธรรมนุกูล” เลือดใหม่สัมมากร สานต่อความเก๋า เติมความทันสมัย

“สัมมากร” ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 54 ปีเต็ม และเติบโตแบบเงียบๆ มาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมามักไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวออกมาให้เห็นมากนัก กระทั่งระยะหลังมานี้ชื่อของสัมมากรกลับมาปรากฏบนหน้าสื่ออีกครั้ง และที่สำคัญยังมาพร้อมกับชื่อของ “ณพน เจนธรรมนุกูล” ผู้บริหารเจนฯ ใหม่ ที่กำลังเข้ามาปรับภาพลักษณ์ของสัมมากรจากองค์กรที่อยู่นิ่งมานานสู่การเป็นองค์กรที่ทันสมัย และเพิ่มพอร์ตโฟลิโอด้วยการกระโดดเข้าสู่ตลาดบ้านระดับไฮเอนด์ เพื่อแข่งกับคู่แข่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด “ผู้จัดการ 360 องศา” มีโอกาสได้สนทนากับ “ณพน เจนธรรมนุกูล” ซึ่งปัจจุบันรั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ณ “Park Heritage” โครงการบ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชัวรีใหม่ล่าสุด ที่นอกจากจะทำให้เราได้รู้จักบทบาทและตัวตนของณพนมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราเห็นภาพความเป็นสัมมากรที่เปลี่ยนไปได้ชัดเจนขึ้นด้วยเช่นกัน ณพน เจนธรรมนุกูล หรือ คุณปอย เป็นทายาทของ “สัจจา เจนธรรมนุกูล” ประธานกรรมการ บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ราวๆ 49%

Read More

“อัญชลี ตันติวงษากิจ” เจ้าแม่พลัสไซซ์ ดันกรุงทองพลาซา สู่ศูนย์กลางของเอเชีย

ย่านประตูน้ำเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กที่เป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะศูนย์รวมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายทั้งแบบขายส่งและขายปลีกในราคาที่สุดแสนจะเป็นมิตร แม้ที่ผ่านมาจะมีการปรับเปลี่ยนทั้งรูปแบบและผู้ประกอบการที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามบริบทของเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ห้างกรุงทองพลาซา” ศูนย์รวมเสื้อผ้าพลัสไซซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้การนำของผู้บริหารคนเก่งอย่าง “อัญชลี ตันติวงษากิจ” ที่ยืนระยะมาได้นานถึง 23 ปีเต็ม รวมอยู่ด้วยเช่นกัน “ก่อนที่จะมาทำห้างกรุงทองพลาซา ทางครอบครัวทำธุรกิจนำเข้านาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์และญี่ปุ่นอย่างแบรนด์ titoni และ Orient มาก่อนในชื่อบริษัท สหกรุงทอง เทรดดิ้ง จำกัด แต่เราเล็งเห็นว่าที่ตรงนี้มันเป็นฮับของประตูน้ำที่เด่นเรื่องธุรกิจเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เลยตัดสินใจย้ายกรุงทองที่เป็นบริษัทนำเข้านาฬิกาไปอยู่ตรงซอยเพชรบุรี 15 แล้วตรงนี้เราก็ซื้อที่ด้านหลังเพิ่ม ตอนนั้นซื้อประมาณ 300 ล้านบาท ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งพอดี แล้วก่อสร้างอาคารอีกประมาณ 150 ล้าน รวมๆ เกือบ 500 ล้าน เพื่อสร้างห้างกรุงทองพลาซาขึ้น” อัญชลีเล่าถึงที่มาในการเข้าสู่ธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในย่านประตูน้ำ ห้างกรุงทองพลาซาเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 16 มกราคม 2544 โดยเริ่มจากการเป็นศูนย์รวมเครื่องแต่งกายที่เน้นขายปลีกเป็นหลัก ก่อนจะพัฒนามาสู่ค้าส่งในเวลาต่อมา ซึ่งอัญชลีเล่าว่า ณ เวลานั้น ประตูน้ำมีห้างสรรพสินค้าเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ

Read More

อินโดรามา เวนเจอร์ส จากธุรกิจรีไซเคิล สู่ Sustainable Fashion

อุตสาหกรรมแฟชั่นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อโลกในลำดับต้นๆ เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรเป็นปริมาณมาก และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกกว่า 10% หรือมากกว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศและการขนส่งรวมกัน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รับรู้ ในขณะที่เมกะเทรนด์ทั่วโลกต่างมุ่งสู่ความยั่งยืนและตระหนักถึงความจำเป็นของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้ผู้อยู่ในแวดวงแฟชั่นต่างหันมาให้ความสำคัญในการสร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยั่งยืนและลดผลกระทบเชิงลบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนั่นรวมไปถึง “อินโดรามา เวนเจอร์ส” ที่แม้จะเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเคมีภัณฑ์ แต่ก็กำลังสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นเช่นกัน โดยขับเคลื่อนผ่านทางโครงการที่ชื่อว่า “RECO” ที่ดำเนินมานานถึง 10 ปีเต็ม อินโดรามา เวนเจอร์ส (Indorama Ventures) หรือที่หลายคนอาจรู้จักกันในชื่อ IVL เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีชั้นนำ และยังเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET อันดับ 1 ของโลก โดยเริ่มต้นธุรกิจในปี 2537 จากการเป็นผู้ผลิตเส้นใยขนสัตว์รายแรกของประเทศไทย ก่อนจะก้าวสู่ธุรกิจเคมีภัณฑ์และประสบความสำเร็จในฐานะผู้ผลิต PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ กระทั่งปี 2554 จึงได้เข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิล โดยมีโรงงานแปรรูปขวด PET ที่ใช้แล้วเป็นเกล็ดเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET) และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล โดยในแต่ละปี อินโดรามา เวนเจอร์ส นำขวดพลาสติก PET ใช้แล้วมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติกและเส้นใยสังเคราะห์รีไซเคิลในปริมาณมากถึง 3.3 แสนตันต่อปี

Read More

KOKO ตำนานความอร่อยแห่งสยามสแควร์ กับการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 27 ปี

ถ้าใครแวะเวียนไปย่านสยามสแควร์น่าจะคุ้นเคยกับร้านอาหารไทย KOKO ที่ตั้งอยู่สยามสแควร์ ซอย 3 กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นร้านอาหารไทยเก่าแก่ที่อยู่คู่สยามสแควร์มานานถึง 27 ปี แต่หลังจากเดินทางมานานร่วม 3 ทศวรรษ ตำนานความอร่อยแห่งนี้กำลังถูกปรับโฉมครั้งใหญ่ สู่การเป็นร้านอาหารไทยไอคอนิกแห่งสยามสแควร์ ภายใต้การนำของ “ก้องภพ เอื้อศิริทรัพย์” นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้ก่อตั้งนับเงิน กรุ๊ป เจ้าของซาลอนพรีเมียมอย่าง “กีกี้ บิวตี้ สเปซ” “ในสยามสแควร์ตอนนี้แทบไม่มีร้านอาหารไทยเลย เพราะโดนกลบไปหมดด้วยความเป็นต่างประเทศ ซึ่งอาหารไทยหลากหลายรสชาติไม่แพ้ประเทศอื่น กินได้ไม่เบื่อ แต่ทำไมกลุ่มคนโดยเฉพาะวัยรุ่นถึงมองข้ามสิ่งที่มันโดดเด่นของความเป็นไทย เราอยากทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่รู้สึกภูมิใจกับความเป็นไทยผ่านอาหาร เลยตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหาร และทำให้อาหารไทยเป็นอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ของไทย” ก้องภพเกริ่นถึงที่มาในการเข้าซื้อกิจการของ KOKO ร้านอาหารเก่าแก่แห่งสยามสแควร์ พร้อมเล่าเพิ่มเติมให้ “ผู้จัดการ 360 องศา” ฟังว่า ร้าน KOKO (โคโค่) เป็นร้านอาหารไทยที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2539 เดิมทีเน้นเป็นอาหารจานเดียวและมังสวิรัติ แต่หลังจากเปิดมานานเจ้าของร้านเดิมมีอายุมากขึ้นและมีปัญหาสุขภาพ ทำร้านต่อไปไม่ไหวและไม่มีคนสานต่อ ด้วยความที่เห็นความสำคัญของอาหารไทยและศักยภาพทางธุรกิจ ทำให้ก้องภพตัดสินใจเข้ามาซื้อกิจการร้าน KOKO พร้อมรีแบรนด์จาก

Read More

เปิดแผนธุรกิจ “นับเงิน กรุ๊ป” กับผู้บริหารรุ่นใหม่ “ก้องภพ เอื้อศิริทรัพย์”

เรียกว่าเข้ามาสร้างปรากฏการณ์และความแปลกใหม่ให้กับสยามสแควร์ย่านวัยรุ่นสุดฮิตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “นับเงิน กรุ๊ป” กลุ่มธุรกิจของผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง “ก้องภพ เอื้อศิริทรัพย์” ที่กำลังเดินตามรอยความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง “รวยไม่หยุด กรุ๊ป” เจ้าของร้านอาหารดังมากมายไม่ว่าจะเป็น nice to Meat u, Fire Tiger หรือ Mil Toast House ที่ยึดพื้นที่แถบสยามสแควร์และสร้างความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ แต่ “นับเงิน กรุ๊ป” ขอเล่นฉีก ด้วยการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจความงามอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังมาแรง กับการเปิดร้านซาลอนพรีเมียม “KIKI Beauty Space” โดยปักธงสาขาแรกที่สยามสแควร์ซอย 3 ไปเมื่อ 3 ปีก่อน สร้างทั้งชื่อเสียงและรายได้หลักร้อยล้านในเวลาไม่นาน และล่าสุดยังเติมพอร์ตโฟลิโอให้กับบริษัทฯ ซื้อกิจการ “KOKO” ตำนานความอร่อยที่อยู่คู่สยามมากว่า 30 ปี รีแบรนด์สู่ร้านอาหารไทยไอคอนิก เพื่อสร้างให้สยามสแควร์เป็น “World Food Destination” ร่วมกับเครือรวยไม่หยุด กรุ๊ป “ก้องภพ เอื้อศิริทรัพย์”

Read More