“Macao Wonder” กลับสู่กรุงเทพฯ อีกครั้ง พร้อมการจัดแสดงสุดพิเศษ และแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของมาเก๊า สำนักงานการท่องเที่ยวรัฐบาลมาเก๊า (MGTO) เปิดตัวโรดโชว์ 3 วัน ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “Tourism+” และโอกาสทางธุรกิจ
สำนักงานการท่องเที่ยวมาเก๊า (MGTO) เดินหน้าตอกย้ำความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจกับประเทศไทย ผ่านการจัดโรดโชว์ “Macao Wonder” ขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 6–8 มิถุนายน 2568 เพื่อนำเสนอเสน่ห์อันหลากหลายของประเทศมาเก๊า ยกระดับการท่องเที่ยวที่ผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรม ความบันเทิง และศักยภาพทางธุรกิจอย่างลงตัว พร้อมทั้งเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเก๊าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
งานโรดโชว์ “Macao Wonder” ในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดที่จะสะท้อนความมุ่งมั่นของ MGTO ในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของมาเก๊าหลากหลายมิติให้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเสน่ห์หลายมิติของมาเก๊าอย่างใกล้ชิด โดยมี มร. เฉิง ไว ตง (Mr. Cheng Wai Tong) รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวมาเก๊า เป็นผู้นำคณะผู้แทนจากรีสอร์ตครบวงจรทั้ง 6 แห่ง รวมถึงบริษัทนำเที่ยว และสายการบินพันธมิตรที่สำคัญ อาทิ Air Macau, AirAsia และ Thai Lion Air มาร่วมงานในครั้งนี้
จากความสำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมาในการสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้จุดหมายปลายทางอย่างมาเก๊า โดยเฉพาะในแง่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ MGTO จึงได้ปรับแนวทางการสื่อสารใหม่เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของมาเก๊าในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นดั่งเมืองที่มอบประสบการณ์แท้จริงอันหลากหลาย เติมเต็มความสุขให้ทุกประสาทสัมผัสผ่านย่านต่าง ๆ งานหัตถศิลป์ และการผสมผสานทางวัฒนธรรมแบบตะวันออกและตะวันตก
มร. เฉิง ไว ตง กล่าวว่า ชาวไทยให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม อาหาร และเรื่องราว ซึ่งเป็นสิ่งที่มาเก๊ามีอยู่อย่างลึกซึ้ง โดยในปี 2567 มาเก๊าต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยกว่า 134,658 คน เพิ่มขึ้น 31.8% เมื่อเทียบกับปี 2566ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวไทยยังเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเพิ่มจาก MOP 1,120 ในปี 2562 เป็น MOP 2,598 ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 140% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ตัวเลขการเติบโตที่โดดเด่นนี้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ ด้านการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังมีเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และมาเก๊ามากถึง 54 เที่ยวต่อสัปดาห์ ส่งผลให้ประเทศไทยยังคงติดอันดับหนึ่งในสิบของตลาดนักท่องเที่ยวหลักของมาเก๊าอีกด้วย
มากกว่าการท่องเที่ยว แต่เป็น Tourism+
กลยุทธ์ “Tourism+” ของ MGTO ได้กลายเป็นหัวใจหลักของแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในมาเก๊า โดยเน้นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับองค์ประกอบสำคัญ เช่น อาหาร (Tourism+Gastronomy), การจัดประชุมและนิทรรศการ (Tourism+MICE), นิทรรศการระดับโลก (Tourism+Events), กีฬา (Tourism+Sports) และวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ (Tourism+Culture & Creativity) ผ่านการเลือกสรรจุดแข็งทั้ง 4 แกน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่สำหรับชาวไทยโดยเฉพาะ ได้แก่ สายมู นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากนิยมเดินทางเพื่อสักการะ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมาเก๊า ซึ่งวัดใน มาเก๊ายังได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย สายอาหาร ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มลองความหลากหลายของอาหาร เนื่องจากมาเก๊าเป็นเมืองที่มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออก และตะวันตก ทำให้ถ่ายทอดมาทางด้านความหลากหลายด้านอาหาร ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงภัตตาคารระดับมิชลิน สายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบนิทรรศการระดับโลก การแสดง ตระการตาและชีวิตยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา และสายท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่จะได้สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและมรดกทางวัฒนธรรมอันล่ำค้าของมาเก๊า เช่น สถาปัตยกรรมและสถานที่ประวัติศาสตร์
โรดโชว์ “Macao Wonder” จึงได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์เทรนด์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยประสบการณ์ที่ผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอย่างกลมกลืน เชื่อมโยงทุกประสาทสัมผัสของผู้เข้าร่วมงานไว้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสทุกเอกลักษณ์ของมาเก๊า ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง เรื่องราว อาหารรสเลิศ ตลอดจนวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล
“Macao Wonder” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมเหล่าไอคอนของไทย
บรรยากาศในวันเปิดงานเต็มไปด้วยความคึกคักและได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมอย่างล้นหลาม โดยมีเซเลบริตี้ขวัญใจมหาชนอย่าง อิงฟ้า วราหะ มาร่วมแบ่งปันความประทับใจจากทริปเที่ยวมาเก๊าในวันแรกของงาน ขณะที่ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป PiXXie และนักแสดงหนุ่ม เพิร์ธ–ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร มาร่วมเติมสีสันตลอดสามวันของงาน
โรดโชว์ครั้งนี้ยังประกอบด้วยกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟ “Wonder Touch” ที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของมาเก๊าผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น Grand Prix Plinko Ball, เซียมซี (Macao Chi Chi Stick), เวิร์กช็อป Cobblestone และลิ้มลองอาหารสไตล์มาเก๊าภายในงาน
