วันอาทิตย์, เมษายน 27, 2025
Home > Cover Story > ตลาดคอนโดฯ แพนิก รื้อมาตรฐานก่อสร้าง Pet Lover ต้องมา

ตลาดคอนโดฯ แพนิก รื้อมาตรฐานก่อสร้าง Pet Lover ต้องมา

กรณีเหตุแผ่นดินไหวศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร ช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย 57 จังหวัด และร้ายแรงที่สุด คือ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงอาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ เกิดรอยแตกร้าว ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าจะพลิกฟื้นดีขึ้น

โดยเฉพาะยอดการร้องเรียนความเสียหายคอนโดฯ และบ้านร้าว เพียง 3 วันแรกหลังเกิดเหตุ ยอดสะสมพุ่งไปมากกว่าเกือบ 1 หมื่นราย และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายคนยังกล้าๆ กลัวๆ กับการกลับเข้าห้องพัก กลับเข้าทำงานในอาคาร แม้มีการยืนยันจากภาครัฐและบริษัทอสังหาริมทรัพย์

อย่างเช่น นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารสูงทุกอาคารในประเทศไทยหลังปี 2550 ต้องก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ทำให้อาคารสูงทั้งคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานไม่พังลง เกิดความเสียหายในวงจำกัด ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบกรณีแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในประเทศไทย

แน่นอนว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่อมต้องรีบพลิกฟื้นความเชื่อมั่นอย่างเร่งด่วน หลังพยายามเพิ่มแรงส่งกระตุ้นตลาดทุกวิถีทางเข้าใกล้เป้าหมาย ดูจากผลการจัดงาน 4 วัน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 เมื่อวันที่ 20-23 มีนาคมที่ผ่านมา สามารถทุบทุกสถิติ ตั้งแต่ยอดลงทะเบียนล่วงหน้าทะลุ 10,000 คนก่อนเปิดงาน ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นถึง 30% และยอดจองทะลุ 12,000 ล้านบาท โดยกลุ่มคอนโดมิเนียมครองแชมป์ยอดจองสูงสุด คิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับสูง

นอกจากนั้น กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan-to-Value) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน ถือเป็นสัญญาณบวกที่สามารถกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งภาพรวมอุปทานการเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ปรับตัวดีขึ้นชัดเจนอยู่ที่ 5,509 ยูนิต ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 67.54% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 23,850 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดถือเป็นปัจจัยลบสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาพรวมตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ปีนี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีอุปทานรอการขายในตลาดสูงกว่า 458,390 ล้านบาท การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจะส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความมั่นคงของโครงสร้างอาคาร โดยเฉพาะอาคารสูงที่มีโครงสร้างซับซ้อนและต้องรับมือกับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว จะสร้างความไม่มั่นใจในคุณภาพการก่อสร้างและความปลอดภัยในอนาคต    ลูกค้าบางกลุ่มที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดฯ อาจชะลอการตัดสินใจ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์และความถี่ของแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ในทางตรงกันข้ามจะมีคนจำนวนไม่น้อยเร่งทยอยขายคอนโดฯ จะกดให้ราคาลดต่ำลงอย่างมาก ผู้คนจะหันมาซื้อบ้านแนวราบมากขึ้น

ที่สำคัญ สงครามการแข่งขันจะวัดกันที่มาตรฐานการก่อสร้างและความแข็งแรง ไม่ใช่แค่ทำเลแนวรถไฟฟ้า รวมถึงการสร้างจุดขาย Pet Family ตอบโจทย์บรรดา Pet Lover ตามไลฟ์สไตล์ใหม่ ซึ่งเห็นชัดเจนถึงดีมานด์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สะท้อนภาพจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม เมื่อพบว่า ลูกบ้านของโครงการคอนโดมิเนียมเกือบทุกแห่งมากกว่าครึ่งต่างเป็นทาสแมวทาสหมา แอบเลี้ยงในห้องพักมากกว่า 1-3 ตัว บางคนเลี้ยงมากถึง 10 ตัว ทุกคนต่างคว้าเพื่อนรักสี่ขาเป็นอย่างแรกเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว

ที่ผ่านมา ค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่ถือเป็นผู้นำร่องคอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ คือ กลุ่มเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งแต่ช่วง 3-4 ปีก่อน โดยสร้างมาตรฐานใหม่ภายใต้แนวคิด MAJOR Pet Family Residences เป็นแบรนด์แรกและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกบ้าน มีสัดส่วนสูงถึง 45-50% และปัจจุบันคอนโดฯ ทุกโครงการของเมเจอร์สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จำนวนมากกว่า 50 โครงการ เช่น เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว, มาร์ควิส พญาไท, มิลฟอร์ด ลาดพร้าว-รามคำแหง, เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย, เมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9-รามคำแหง, เอ็ม จตุจักร

หลังจากนั้นบรรดาบิ๊กแบรนด์ต่างนำเสนอโมเดล Pet Lover Condo ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  มีพอร์ตพัฒนาคอนโดฯ ตอบโจทย์ Pet Lover ไม่ต่ำกว่า 16 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท และตั้ง “RED Team By Origin-Research for Excellent Development Team” ศึกษาวิจัย Insight ของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์เลี้ยงอย่างตรงจุดและสร้างสรรค์

ส่วนค่าย MQDC นำเสนอโครงการแบรนด์ Whizdom The Forestias Petopia ทั้งตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 400 ไร่ มีพื้นที่สีเขียว 56% มีผืนป่าขนาด 30 ไร่ และมีอาคาร Petopia พื้นที่ส่วนกลางที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ พร้อมพื้นที่วิ่งเล่นและบริการรับฝากสัตว์เลี้ยงระหว่างวัน

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ออกแบรนด์ “โนเบิล ครีเอท” ทำเลเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ห้องชุดไฮไรส์ รวม 6 อาคาร สูง 25-33 ชั้น โดยแบ่ง 1 อาคารเป็นคอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ สูง 29 ชั้น จำนวน 208 ยูนิต

ทั้งนี้ หากดูภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเมื่อปี 2567 มีมูลค่าราว 75,000 ล้านบาท เติบโต 12.4% โดยตลาดผู้เลี้ยงหมาและแมวมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน นอกจากนั้น ประเทศไทยมีประชากรผู้เลี้ยงแมวมากเป็นอันดับ 8 ของโลก จังหวัดที่มีการเลี้ยงแมวสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพฯ และสมุทรสงคราม เมื่อเจาะเฉพาะจำนวนประชากรแมวในประเทศไทยอยู่ที่ 3,337,458 ตัว สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก

ที่แน่ๆ คือ ทาสแมวทาสหมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและให้ความสำคัญกับมาตรฐานการอยู่อาศัยมากขึ้นด้วย.