วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 11, 2025
Home > PR News > JCIE และ ERIA จัดพิธีมอบรางวัล Healthy Aging Prize for Asian Innovation (HAPI) ‘นวัตกรรมแห่งเอเชียเพื่อผู้สูงวัยสุขภาพดี ครั้งที่ 4’

JCIE และ ERIA จัดพิธีมอบรางวัล Healthy Aging Prize for Asian Innovation (HAPI) ‘นวัตกรรมแห่งเอเชียเพื่อผู้สูงวัยสุขภาพดี ครั้งที่ 4’

JCIE และ ERIA จัดพิธีมอบรางวัล Healthy Aging Prize for Asian Innovation (HAPI) ‘นวัตกรรมแห่งเอเชียเพื่อผู้สูงวัยสุขภาพดี ครั้งที่ 4’ ณ กรุงเทพมหานคร เป็นครั้งแรก เชิดชูความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพและโครงการชุมชนเพื่อสังคมสูงวัยสุขภาพดี

 ศูนย์แลกเปลี่ยนระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น Japan Center for International Exchange (JCIE) และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเพื่ออาเซียนและเอเชียตะวันออก Economic Research Institute for ASEAN and East Asia (ERIA) จัดพิธีมอบรางวัล ‘นวัตกรรมแห่งเอเชียเพื่อผู้สูงวัยสุขภาพดี’ Healthy Aging Prize for Asian Innovation (HAPI) ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สร้างสรรค์และเผยแพร่นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไทย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยมอบรางวัลแก่ผลงานอันเป็นเลิศที่ตอบโจทย์ความท้าทายของสังคมสูงวัยในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก

การแข่งขัน HAPI ประจำปี 2567 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ได้รับใบสมัครจาก 12 ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนับเป็นปีที่มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากที่สุด โดยรางวัลเชิดชูเกียรตินวัตกรรมใน 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โครงการเพื่อชุมชน และการส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง

นายอิซาโอะ คาโนะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์แลกเปลี่ยนระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JCIE) กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออกสะท้อนถึงพัฒนาการเชิงบวก และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในภูมิภาค แม้การดูแลประชากรสูงวัยจะมีความท้าทาย แต่การที่จำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงว่าผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตที่มีคุณค่ามากขึ้น

โดยผู้ชนะเลิศรางวัล HAPI ประจำปี 2567 สร้างสรรค์และพัฒนาหลากหลายแนวทางในการส่งเสริมสังคมสูงวัยสุขภาพดี ประกอบด้วย

  • สาขาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ Nurse & Craft ญี่ปุ่น พัฒนาโครงการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อการฟื้นฟูเมือง ‘Home Nursing to Regenerate the Town’ ซึ่งผสมผสานการให้บริการด้านสุขภาพเข้ากับการฟื้นฟูชุมชน
  • สาขาโครงการเพื่อชุมชน ได้แก่ Padyarescue Inc. ฟิลิปปินส์ พัฒนาโครงการ Go Bike Project ในโปรแกรม Ronda Kalusugan นำเสนอนวัตกรรมในการให้บริการด้านสุขภาพชุมชน
  • สาขาการส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ได้แก่ วิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเทศไทย พัฒนา MEDEE โครงการเสริมสร้างทักษะการทำงานสำหรับผู้สูงวัยในยุคดิจิทัล เพื่อตอบสนองความจำเป็นในการส่งเสริมการเข้าถึงดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัย

“การแข่งขันทำให้เราเห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งผู้ชนะเลิศรางวัล HAPI นำเสนอแนวทางในการจัดการกับปัญหาและความท้าทายดังกล่าว ทั้งเรื่องของที่อยู่อาศัยและด้านอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านของตนเองหรือสถานที่ที่พวกเขาเลือกเองได้ ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้างหลักประกันว่าประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงวัยมีความพร้อมในเรื่องของบุคลากรผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี พร้อมทั้งให้การยอมรับความสำคัญในการทำงานของผู้ดูแลแบบไม่เป็นทางการซึ่งก็คือ สมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดจากการที่ประชากรมีอายุมากขึ้น เช่น การป้องกันการแยกตัวจากสังคม และความท้าทายที่เกิดจากการลดลงของประชากร โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท” นายอิซาโอะ คาโนะ กล่าวเพิ่มเติม

ในปีนี้ มีหน่วยงานจากประเทศไทยและฟิลิปปินส์ส่งผลงานเข้าประกวดเพิ่มขึ้น โดยหน่วยงานจากฟิลิปปินส์ได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นครั้งแรก และการแข่งขันในปีนี้ยังมีการนำเสนอแนวคิดที่สำคัญเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองได้

HAPI ให้ความสำคัญกับประเด็นหลากหลายในการรับมือกับสังคมสูงวัย รวมถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยที่ช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตในสถานที่ที่ต้องการ การพัฒนาบุคลากรผู้ดูแลที่มีการฝึกอบรมอย่างดี การสนับสนุนผู้ดูแลแบบไม่เป็นทางการ และการป้องกันการแยกตัวจากสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท โดยตระหนักว่าประชากรสูงวัยเป็นเรื่องของสังคมส่วนรวมที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาคส่วนและระหว่างวัย

“ความสำเร็จของ HAPI เกิดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง JCIE และ ERIA โดย ERIA มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งในอาเซียน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนโครงการ อีกทั้งความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยของ ERIA ยังช่วยสร้างรากฐานทางปัญญาผ่านการศึกษาเกี่ยวกับสังคมสูงวัยในระยะยาว ซึ่งช่วยส่งเสริมการหารือและนวัตกรรมการพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมสูงวัย” นายอิซาโอะ คาโนะ กล่าวสรุป

JCIE และ ERIA ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยตระหนักว่าแต่ละประเทศมีอัตราการเข้าสู่สังคมสูงวัยแตกต่างกันและเผชิญความท้าทายเฉพาะตัว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศแรกที่เข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดในปีพ.ศ. 2549 สามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่บางประเทศที่เผชิญความท้าทายจากการ “แก่ก่อนรวย” กำลังพัฒนาแนวทางนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภูมิภาค

HAPI คือรางวัลที่มอบเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เผยแพร่นวัตกรรมนโยบาย โครงการ การให้บริการ และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายสังคมสูงวัยในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก โดยความร่วมมือระหว่าง JCIE และ ERIA ภายใต้การสนับสนุนจากโครงการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแห่งเอเชีย Asia Health and Wellbeing Initiative (AHWIN) โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ประกอบด้วยรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โครงการเพื่อชุมชน และการส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง

  • สาขาเทคโนโลยีและนวัตกรรม: นำเสนอเทคโนโลยีและเทคนิคใหม่ ๆ ที่ส่งเสริมให้อายุยืนอย่างมีสุขภาพดี พัฒนาวิธีการดูแลผู้สูงอายุ หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และ/หรือความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ดูแล
  • สาขาโครงการเพื่อชุมชน: เป็นการทำงานเพื่อชุมชน ซึ่งรวมถึงการทำงานเพื่อคนต่างวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี กระตือรือร้น มีส่วนร่วม และ/หรือปลอดภัย
  • สาขาการส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง: เป็นวิธีใหม่ ๆ ในการช่วยให้ผู้สูงอายุรักษา ปรับปรุง หรือฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันและการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัยเดิม

รางวัลนี้ เปิดโอกาสให้องค์กรหลากหลายประเภท ทั้งองค์กรชุมชน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สมาคม หน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น ธุรกิจ และอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคสามารถเข้าร่วมและแสดงนวัตกรรมของตนในหลากหลายประเด็นที่เชื่อมโยงกัน HAPI ถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญขณะที่เอเชียกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่ไม่เคยมีมาก่อน ตามข้อมูลของสหประชาชาติ คาดว่าเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปถึง 557 ล้านคนภายในปีพ.ศ.2593 ซึ่งเป็นเกือบสองเท่าของจำนวนในปัจจุบัน