อสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มักจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สถานการณ์การเงินการคลัง ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ขณะที่ปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์ผู้ประกอบการอสังหา สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเช่นกัน แน่นอนว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯ จะมีมาตรฐานในการสร้างที่อยู่อาศัยที่เสมือนเป็นพันธกิจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เช่น การสร้างความปลอดภัยในการอยู่อาศัย บ้านประหยัดพลังงาน
นอกจากมาตรฐานที่แต่ละค่ายอสังหาฯ ต้องยึดเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพสำหรับธุรกิจอสังหาฯ คือ รางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards ที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มองว่ารางวัลนี้เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ
รางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards เป็นมาตรฐานระดับสูงของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ไทยมุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นเลิศ
“PropertyGuru Thailand Property Awards ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 นี่ถือเป็น Gold Standard ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 20 ในปีหน้า โดยรางวัลนี้เราจะมอบให้แก่สุดยอดโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งปีที่โดดเด่นด้านที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ซึ่งเราจัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้เราเน้นย้ำถึงความน่าเชื่อถือ ความมั่นคง และความยั่งยืน ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยขยายรางวัลเพื่อยกย่องโครงการพัฒนาต่างๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลาดเกิดใหม่ และในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับบ้านหลังที่สองอีกด้วย ผู้ที่ชนะรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards ได้ทำหน้าที่เป็นแนวหน้าชี้วัดการมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการลงทุน และเป็นผู้ที่รักษาความงดงามโดยธรรมชาติของประเทศเอาไว้”
ตลาดอสังหาฯ ไทยมีการขยายตัวไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวเมืองใหญ่ หรือเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ จูลส์ เคย์ มองว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ท้าทายอย่างมากสำหรับธุรกิจอสังหาฯ ของไทย เรามองเห็นว่าตลาดนี้เติบโตและมีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ เท่านั้นที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ปัจจุบันเมืองท่องเที่ยวบางแห่ง อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา สมุย แน่นอนว่า การขยายตัวไปไม่ใช่แค่โครงการอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่เติบโตไปแบบคู่ขนาน คือ ความเป็นมืออาชีพของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่พร้อมจะพัฒนาโครงการในระดับเวิลด์คลาสด้วย”
แม้จะมีคำถามว่า ในเมื่อผู้พัฒนาอสังหาฯ ล้วนแต่มีมาตรฐานเป็นของตัวเองในการที่จะพัฒนาโครงการที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เน้นคุณภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards จะมีบทบาทอย่างไร
“ต้องบอกว่า งานประกาศรางวัลมีบทบาทสำคัญ 2 ประการในการสนับสนุนอสังหาฯ ของไทยอย่างต่อเนื่อง ประการแรก แม้ว่ารางวัลจะยกย่องในสิ่งที่ดีที่สุด แต่ยังตั้งเป้าที่จะสร้างเกณฑ์มาตรฐานในอสังหาฯ สำหรับทุกคน รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาอสังหาฯ สถาปนิก นักออกแบบตกแต่งภายใน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ที่มุ่งมั่นจะยกระดับมาตรฐานของตนเองต่อไป
ประการที่สอง เราเชื่อว่า รางวัลนี้มีบทบาทสำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการซื้ออสังหาฯ อีกด้วย โดยทำหน้าที่การันตีความน่าเชื่อถือให้แก่โครงการ นักพัฒนา สถาปนิก และยังให้ความรู้สึกมั่นใจแก่ผู้ซื้อและนักลงทุนในอสังหาฯ ในไทยด้วย”
นอกจากนั้น รางวัลเหล่านี้ไม่ใช่แค่การบอกถึงความยอดเยี่ยมของผู้พัฒนาในการด้านออกแบบเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต้องเจอ เช่น วิกฤตการเงินโลก การแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ความท้าทายของเศรษฐกิจไทย สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นการเติบโตอย่างมากสำหรับผู้พัฒนาอสังหาฯ
ที่ผ่านมา The Best Developer เป็นรางวัลที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีหมวดหมู่ที่ขยายเพิ่มคือ รางวัลด้าน ESG ที่ผู้พัฒนาเริ่มยึดเป็นแนวทางหลักในการทำงานเพื่อสังคมและความยั่งยืน ขณะที่ยังมีรางวัลที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น
“PropertyGuru Thailand Property Awards เป็นส่วนหนึ่งของการประกาศรางวัล PropertyGuru Asia Property Awards ซึ่งเป็นเวทีประกาศรางวัลที่ไม่เหมือนใคร เพราะครอบคลุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั่วภูมิภาคให้ได้แสดงศักยภาพทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งตัวแทนของประเทศต่าง ๆ ที่ชนะเลิศระดับภูมิภาค จะมาคว้ารางวัลที่ดีที่สุดในเอเชีย ในงาน PropertyGuru Asia Property Awards Grand Final ที่จัดขึ้นวันที่ 13 ธันวาคมนี้ที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้ชนะที่ได้รับการคัดเลือกจากการแข่งขันชิงรางวัลสุดยอดของระดับภูมิภาคเอเชียจากประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และจีน” จูลส์ เคย์ กล่าวเสริม
แน่นอนว่า ทุกๆ การประกาศรางวัลมักจะมีข้อสงสัยเกิดขึ้นถึงความโปร่งใสในการแจกรางวัล จูลส์ เคย์ ให้ความมั่นใจว่า “รางวัลของเราการันตีได้ถึงความยุติธรรม โปร่งใส น่าเชื่อถือ ซึ่งผู้พัฒนาอสังหาฯ จะต้องผ่านการตัดสินรางวัลโดยคณะกรรมการอิสระ ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ ของวงการอสังหาฯ ไทย โดยกระบวนการตัดสินจะเกิดขึ้นด้วยความเป็นกลาง เป็นธรรม ซึ่งนั่นจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณค่าและความน่าเชื่อถือของรางวัล และเหนืออื่นใด เรามีเป้าหมายสูงสุด คือการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อไปสู่เวทีโลก”.