บริษัท ทรูมันนี่ (TrueMoney) ใช้เวลากว่าสิบปีสร้างฐานและขยายบริการ เจาะกลุ่มลูกค้าเพิ่มยอดสมาชิกจากTrueMoney Wallet รุ่น 1.0 ปีแรกได้ 5,000 ราย จนถึงเวอร์ชันล่าสุดพุ่งทะลุ 27 ล้านราย และลุยให้บริการทางการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งกัมพูชา เมียนมาเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
แรกเริ่มเดิมที กลุ่มทรูตั้ง Ascend Money เป็น Business Venture ก่อนแยกออกมาเป็นหนึ่งธุรกิจในแอสเซนด์ กรุ๊ป ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เพราะเห็นโอกาสการทำ Digital Payment เนื่องจากในช่วงเวลานั้นตัวเลือกการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมีน้อยมากและผู้คนส่วนใหญ่พึ่งพาสถาบันการเงินดั้งเดิม เช่น ธนาคาร แต่ยังมีจุดบริการไม่ทั่วถึงและทำธุรกรรมได้ในเวลาจำกัด
Ascend Money จึงพัฒนา Digital Payment Platform โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงเครื่องเดียว สามารถทำธุรกรรมได้หลากหลายและไม่ต้องสัมผัสเงินสด (Cashless Payment) ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet เช่น จ่ายค่าสินค้าและบริการ จ่ายค่าโดยสาร และบิลต่างๆ มีการรับประกันความปลอดภัยผ่านการยืนยันตัวตนเป็น TrueMoney Wallet กระเป๋าเงินออนไลน์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสดได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมมีโปรโมชันส่วนลดและคะแนนสะสมแลกส่วนลดหรือสินค้าพรีเมียมต่างๆ
ปี 2559 เครือซีพีประกาศเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับ Ant Financial Services Group ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอาลีบาบา ประเทศจีน เจ้าของ Alipay แพลตฟอร์มชำระเงินผ่านมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดผู้ใช้งานกว่า 1.3 พันล้านราย และร้านค้ากว่า 80 ล้านราย โดยมีปริมาณการชำระเงินรวมสูงถึง 118 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้ Ascend Money ในฐานะผู้บริหารทรูมันนี่ สามารถเพิ่มพาร์ตเนอร์ผู้ค้าและผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาอยู่ในเครือข่าย รวมถึงร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์กว่า 200,000 จุด
ต้องยอมรับว่า TrueMoney Wallet เติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการผูกบริการกับร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมๆ กับการงัดบริการดีลิเวอรี ซึ่งมีสาขามากกว่า 12,000 กว่าสาขา และยิ่งเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงสถานการณ์โควิด เมื่อผู้คน Work from Home หยุดการเดินทางและหันมาใช้บริการดีลิเวอรีเกือบ 100%
ปัจจุบัน TrueMoney Wallet กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้บริโภค เพราะสามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ทุกอย่าง เพียงแค่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องเดียว ทั้งจ่ายค่าบริการต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต รวมถึงร้านอาหารชั้นนำ และร้านอาหารทั่วไป
ขณะเดียวกัน แตกไลน์บริการมากมาย มีบริการซื้อประกัน สมัคร Netflix ซื้อของบน Google Play store ซื้อของบน Apple Store ซื้อตั๋วหนัง Major Cineplex และซื้อสินค้าที่ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ
บริการเติมเกม เติมแพ็กเกจเน็ต เติมหรือซื้อ Easy Pass เตินเงินมือถือ เติมเงินเข้าทรูมันนี่ ผูกบัตรเครดิต/เดบิต
บริการ Micro Credit ยืมก่อน คืนทีหลัง ผ่านผู้ถือบัตรทรูการ์ด ทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ ทรูแบล็ค ทรูเรด ทรูบลู ทรูกรีน และทรูไวท์ ที่เป็นลูกค้าทรูมูฟเอชแบบรายเดือน และมีประวัติการชำระค่าบริการดี ไม่มียอดคงค้าง โดยจะให้เป็นวงเงินให้ยืมก่อน คืนทีหลัง สามารถนำเงินที่ได้รับการอนุมัติไปใช้จ่ายผ่านแอปฯ ทรูมันนี่วอลเลต วงเงินสูงสุดถึง 4 เท่าของยอดบิลรายเดือน แต่ไม่เกิน 10,000 บาท เลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 3 เดือน โดยใช้บัตรประชาชนติดต่อที่ทรู ช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ รู้ผลอนุมัติทันที
บริการลงทุนกองทุนรวม Start Invest บนแอปฯ TrueMoney Wallet และเปิดบัญชีเพื่อเริ่มลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอป โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที สามารถเปิดพอร์ตการลงทุนและเข้าถึงกองทุนรวมกว่า 600 กองทุน นอกจากนั้น สามารถเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารเกียรตินาคินภัทรผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet จะถอน ฝาก หรือโอนเงินจากบัญชีธนาคารได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งแบบฟรีค่าธรรมเนียม
ล่าสุด ทรูมันนี่เร่งปรับโฉมบัตร TrueMoney WeCard ซึ่งเป็นบัตรประเภท Prepaid Card หรือบัตรเติมเงินที่ผู้ใช้บัตรต้องเติมเงินเข้าบัตร เพื่อใช้บัตรชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่าง ๆ เหมือนการใช้งานบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต โดยเชื่อมต่อเงินใน Wallet เข้ากับระบบของ MasterCard เพื่อให้นำเงินจาก Wallet ไปใช้ตามเครื่องรูดบัตร หรือเว็บไซต์ที่รับบัตรเครดิต
ทั้งนี้ บัตรโฉมใหม่จะผนึกรวมเข้ากับบัตร TrueMoney Mastercard เน้นการให้สิทธิประโยชน์มากขึ้นและขยายเครือข่ายการใช้บริการร้านค้ามากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ ที่รับบัตร Mastercard
ยิ่งไปกว่านั้น ทรูมันนี่เดินหน้าเกมรุกด้านสินเชื่อ ปัจจุบันมีทั้งสินเชื่อวงเงินสะดวกใช้ Pay Next Extra วงเงินพร้อมใช้ สบายเป๋า (TrueMoney 0%) และสินเชื่อที่ร่วมกับพันธมิตร เช่น ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดสินเชื่อ KKP Cash Now ล่าสุดกำลัง Synergy กับห้างค้าปลีกในเครืออย่างโลตัสและแม็คโคร ซึ่งนั่นหมายถึงการเติบโตทั้งกลุ่มลูกค้าและยอดใช้จ่ายอีกหลายเท่าตัวด้วย.
