วันอังคาร, ตุลาคม 8, 2024
Home > Cover Story > แกรมมี่ X อาร์เอส การซินเนอร์จีของอุตสาหกรรมเพลง

แกรมมี่ X อาร์เอส การซินเนอร์จีของอุตสาหกรรมเพลง

เรียกว่าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเพลงในเมืองไทยกันเลยทีเดียว เมื่อ 2 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ อย่าง “GRAMMY” (แกรมมี่) และ “RS” (อาร์เอส) ประกาศตั้ง JV ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตใหญ่ข้ามค่าย ข้ามแนวเพลง ข้ามวง และข้ามทุกขีดจำกัด

‘GMM MUSIC’ (จีเอ็มเอ็มมิวสิค) และ ‘RS MUSIC’ (อาร์เอสมิวสิค) สร้างปรากฏการณ์ระดับประเทศ ภายใต้ความร่วมมือในการจัดตั้งกิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัด Trilogy Series Concert (ซีรีส์คอนเสิร์ต) ครั้งประวัติศาสตร์ ที่รวบรวมศิลปินตั้งแต่ยุค 90 และยุค 2000 ของทั้ง 2 ค่ายมารวมตัวกันอย่างอัดเเน่น

นำโดย ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, มอส ปฏิภาณ, ทาทา ยัง, เต๋า สมชาย, นุ๊ก สุทธิดา, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, 2002 ราตรี, ไชน่าดอลส์, แคทรียา อิงลิช, ญาญ่าญิ๋ง, เป๊ก ผลิตโชค, แดน-บีม, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์, ไอซ์ ศรัณยู,  ดัง พันกร, ปาน ธนพร, แหม่ม พัชริดา, โบ สุนิตา, ฟลุ๊ค ไอน้ำ, อ๊อฟ ปองศักดิ์, นิว-จิ๋ว, โจ๊ก โซคูล, แอม เสาวลักษณ์ และศิลปินอีกมากมาย

ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือการจัดคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ โดยทั้ง 2 บริษัท ลงนามตกลงความร่วมมือในการหยิบจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท ร่วมลงทุน ร่วมลงความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ยักษ์ต่อเนื่องแบบ 3 ปี โดยจะมีการกำหนดหน้าหนังการแสดงเป็นปีต่อปี

 

ประเดิมปี 2566 ด้วย 3 คอนเสิร์ตใหญ่ 29-30 กรกฎาคม, 9-10 กันยายน และ 28-29 ตุลาคม ณ IMPACT Arena เมืองทองธานี ราคาตั๋วที่ประเมินไว้อยู่ที่ 2,000 – 6,000 บาท โดยรายละเอียดของแต่ละคอนเสิร์ตจะมีการโปรโมทเป็นระยะๆ

สำหรับโปรเจ็กต์ร่วมทุนครั้งนี้ ทั้งแกรมมี่และอาร์เอสใช้เวลาในการเจรจากว่า 5 ปี จึงบรรลุผลสำเร็จ โดยแต่ละฝ่ายจะร่วมลงทุนฝ่ายละเท่าๆ กัน แบบ 50:50 ทั้งเงินลงทุนและรายได้ที่จะเกิดขึ้น ภายใน 3 ปี จะใช้เงินลงทุนปีละ 220 ล้านบาท คาดผลกำไรที่ปีละ 100 ล้านบาท และหลังจากนั้นจะพิจารณาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจต่อไป

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดที่ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นได้ ผมขอขอบคุณ และมีความสุขมากที่บุคคลากรที่มีคุณภาพ ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง จากทั้ง 2 ฝ่าย จะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เพื่อมอบความสุขที่พิเศษ และยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับเเฟนเพลงชาวไทยทุกคน เราจะใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อทำให้คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นที่น่าจดจำ และเป็นกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์อย่างไม่ลืมเลือน สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทีมงานอาร์เอสมิวสิคทุกท่าน ที่ร่วมกันผลักดัน และสร้างปรากฎการณ์ระดับประเทศในครั้งนี้ให้เกิดขึ้น”

ด้านนายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการ กิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส ซึ่งเป็นผู้ดูแลโปรเจกต์นี้ของทาง อาร์เอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า “อาร์เอส และ แกรมมี่ เป็นเพื่อนร่วมสร้างอุตสาหกรรมเพลงของไทยมาด้วยกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษมาก ๆ ที่เราได้มารวมตัวกันเพื่อสร้างปรากฏการณ์ความสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้กับแฟน ๆ รวมถึงมอบความสุขให้กับศิลปินทั้ง 2 บริษัท ได้ร้องเพลง และเต้นกันแบบเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในมุมของธุรกิจ ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือในรูปแบบ JV เพื่อการจัดคอนเสิร์ต GRAMMY RS โดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายลงทุนเท่ากัน ช่วย Support กันในทุกด้านของการทำงาน ในขณะเดียวกัน เราก็คาดหวังให้แฟนคลับ ศิลปิน ทีมงานทุก ๆ คน มีความสุขจากการเข้าร่วม และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของคอนเสิร์ต GRAMMY RS ไปด้วยกัน”

การผนึกกำลังครั้งนี้ของ ‘GMM MUSIC’ (จีเอ็มเอ็มมิวสิค) และ ‘RS MUSIC’ (อาร์เอส มิวสิค) ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ช่วยเพิ่มสีสัน และสร้างความแปลกใหม่ให้กับทั้งวงการเพลงไทย และวงการการตลาด กระแสความแรง ความพิเศษ และความสนุกที่จะเกิดขึ้นจาก 3 คอนเสิร์ตจากศิลปินกว่า 100 ชีวิต ในปีแรกนี้คงเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด เพราะคำว่า SOLD OUT ในพริบตา คงเป็นสิ่งที่คาดการณ์ และพิสูจน์ได้ว่าปรากฏการณ์ระดับประเทศในครั้งนี้จะจบลงด้วยความสำเร็จอย่างแน่นอน และคาดว่าน่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 220 ล้านบาทขึ้นไป

ปัจจุบัน อาร์เอสมีคลังเพลงรวมกว่า 10,000 เพลง ในขณะที่แกรมมี่มีคลังเพลงกว่า 50,000 เพลง จาก 300 ศิลปิน