ภาพรวมตลาดรถยนต์ก่อนงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Motor Expo 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 สถิติล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 64,618 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เมื่อแยกแต่ละตลาดพบว่า ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือมียอดขายรวม 19,468 คัน เป็นผลจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งลูกค้ายังมีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นทั่วไป
ขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังเติบโตฉลุย 1.4% ยอดการขาย 45,150 คัน ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นภาพสะท้อนการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจไทย ซึ่งในกลุ่มกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ขนาดเล็กมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยมีค่ายซูซูกิเป็นผู้นำ เนื่องจากกระแสฟู้ดทรัคยังมาแรงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นผลิต Suzuki Carry เพื่อเป็นรถบรรทุกขนาดเล็ก หรือดัดแปลงเป็นรถตู้ เมื่อปี 2504 เรียกชื่อว่า Carry FB Suzulight โดยรหัสตัวถัง FB เกิดมาเพื่อเป็นรถขนของที่มีขนาดกะทัดรัด คล่องแคล่ว แต่รองรับงานบรรทุกหนักเกินคาด เพื่อเอาใจผู้ประกอบกิจการส่วนตัว ร้านค้า โรงงานขนาดเล็ก กลุ่มเกษตรกร ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับป่าไม้ และการประมง กลายเป็นรถรุ่นยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
จากนั้น บริษัทได้ปรับโฉมและเครื่องยนต์เพื่อรองการใช้งานอีกหลายรุ่น แต่ยังคงวัตถุประสงค์เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ก่อนตัดสินใจยุติการทำตลาดเมื่อปี 2548 และใช้แบรนด์ Suzuki Every Truck มาทำตลาดแทน
29 สิงหาคม 2556 ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจเปิดตัวกระบะขนาดเล็กรุ่นใหม่ ใช้ชื่อ All New Suzuki Carry และถือเป็นการปัดฝุ่นชื่อ Carry ในตลาดญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยวางขายอย่างเป็นทางการ ราคา 665,000 – 1,135,050 เยน หรือประมาณ 218,000 – 372,000 บาท เน้นจุดเด่นเนื้อที่ห้องโดยสารกว้างขวาง พื้นที่บรรทุกใหญ่ มีพื้นบรรทุกยาวที่สุดและประหยัดน้ำมันสูงสุด
เวลานั้นบริษัทตั้งเป้าจำหน่าย Carry รุ่นใหม่ในญี่ปุ่นปีละ 55,000 คัน ซึ่งสูงกว่าตลาดรถเก๋งหลายรุ่นในญี่ปุ่นด้วย
ขณะเดียวกัน ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นมีการขยายฐานการผลิตและบุกตลาดกระบะแครี่ในหลายประเทศ เช่น ประเทศปากีสถาน บริษัท Pak Suzuki Motors ในเครือ Suzuki Motor Corporation ประกอบและจัดจำหน่ายกระบะแครี่รูปแบบรถตู้คาร์โก้ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะรถพยาบาล รถแท็กซี่ และมีรุ่นปิกอัพเรียกว่า Ravi
ในประเทศอินโดนีเซียเป็นรถมินิบัส Suzuki Carry 1.0 (ST100) ประกอบขึ้นโดย Suzuki Indomobil Motor เมื่อปี 2526 และยังมีให้บริการในรูปแบบมินิแวนด้วย
สำหรับประเทศไทยนั้น บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มจำหน่ายรถบรรทุกอเนกประสงค์ ซูซูกิ แครี่ เมื่อปี 2549 เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายนอกเหนือจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ตั้งแต่การดำเนินชีวิต การท่องเที่ยวและการสร้างอาชีพ โดยเฉพาะการปรับโฉมเป็น “Food Truck” ที่ถือเป็นเทรนด์ใหม่ในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งสามารถปลุกกระแสฟู้ดทรัคฟีเวอร์ขยายวงมากขึ้น
ปี 2562 บริษัทนำ ซูซูกิ แครี่ เจเนอเรชันที่ 2 เข้ามารุกตลาด ทั้งการปรับรูปโฉมทันสมัยขึ้น และเพิ่มสมรรถนะการใช้งาน รวมทั้งการทำราคารองรับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง
ที่สำคัญ การใช้กลยุทธ์ทำราคาไม่สูงมาก ราคาไม่ถึง 4 แสนบาท หากรวมค่าตกแต่งแตะ 5 แสนกว่าๆ และงัดแคมเปญ Suzuki Exclusive Leasing ข้อเสนอพิเศษ เงินดาวน์ 25% ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,777 บาท ส่งผลให้กระบะแครี่กลายเป็นผู้นำตลาดในเวลาต่อมาอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อต้นปี 2565 สร้างยอดขายสะสมรวมแล้วมากกว่า 57,000 คัน เฉพาะปีนี้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 19%
ในงาน Bangkok International Motor Show 2022 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซูซูกิพยายามปลุกเทรนด์ Motor Home เป็นกลยุทธ์พลิกวิกฤตโควิด โดยปรับโฉม ซูซูกิ แครี่ เป็นรถบ้าน เพื่อใช้สำหรับเดินทางท่องเที่ยวในยุค New Normal เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและนำเสนอประสบการณ์ใหม่กับการท่องเที่ยวด้วยรถบ้าน ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ
นอกจากนั้น นำเสนอโมเดลใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ฟู้ดทรัค แต่รวมถึงกิจการประเภทอื่นๆ เช่น ร้านตัดผมเคลื่อนที่ที่มีอุปกรณ์บาร์เบอร์ระดับวีไอพี เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการและการปรับแต่งรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ
ในงาน Motor Expo 2022 ครั้งล่าสุด ค่ายซูซูกิเปิดตัวแครี่รุ่นใหม่และนำเสนอโมเดลการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายการขายระยะยาวมีลุ้นเหยียบแสนคันด้วย.
