วันอังคาร, พฤศจิกายน 5, 2024
Home > New&Trend > สกสว.ดันเครื่องสำอางจากข้าวทับทิมชุมแพ เตรียมขอเครื่องหมายฮาลาลขยายกลุ่มลูกค้า

สกสว.ดันเครื่องสำอางจากข้าวทับทิมชุมแพ เตรียมขอเครื่องหมายฮาลาลขยายกลุ่มลูกค้า

สกสว.จับมือนักวิจัยม.สวนดุสิตหนุนผู้ประกอบการเพิ่มมูลค่าข้าว พัฒนาเครื่องสำอางจากข้าวทับทิมชุมแพที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ไร้แอลกอฮอล์ น้ำหอมและพาราเบน ใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ไม่ใช้สารเคมีและกักเก็บสารที่ยาวนานจากแป้งข้าว เตรียมขอเครื่องหมายฮาลาลเพื่อขยายกลุ่มลูกค้า

นายวีระวัฒน์ บุดดาบุญ ผู้บริหารบริษัท ออไรซ์ เนเชอรัล สกินแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงนวัตกรรมความงามล่าสุด Ruby Rice Essence Sleeping Mask ภายใต้การสนับสนุนของ Innovative house สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จากโครงการวิจัย “การประยุกตใช้สารสกัดรำข้าวทับทิมชุมแพในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิว” ที่มี อ.ฤทธิพันธ์ รุ่งเรือง หลักสูตรวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นหัวหน้าโครงการ ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดสำคัญจากข้าวทับทิมชุมแพ ซึ่งเป็นข้าวสีพันธุ์หนึ่งที่มีความโดดเด่น เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าขาวดอกมะลิ 105 สายพันธุ์กลายกับข้าวเจ้าสังข์หยดพัทลุงที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง

ข้าวทับทิมชุมแพผ่านการขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร และกรมการข้าว ประกาศเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข69 (ทับทิมชุมแพ) ในปี 2559 ข้าวพันธุ์นี้เมื่อหุงสุกจะมีสีแดงใสคล้ายทับทิม และมีลักษณะเด่น คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของข้าวสี โดยมีฟลาโวนอยด์สูงกว่าข้าวสังข์หยดพัทลุงเป็นเท่าตัว มีโอเมกา 3 โอเมกา 6 และโอเมกา 9 สูง มีวิตามินอีที่อยู่ในรูปแอลฟาโทโคฟีรอล และแกมมาออไรซานอล จุดเด่นของข้าวทับทิมชุมแพนี้เองทำให้ผู้ประกอบการต้องการนำมาพัฒนาเป็นเครื่องสำอาง

“จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเกิดจากพื้นเพเราเป็นคนจังหวัดขอนแก่น จึงได้คุยกับนักวิจัยว่าอยากได้งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับขอนแก่นมาทำผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่นำข้าวมาทำผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารกันเยอะแล้ว เลยอยากพลิกแพลงทำอะไรที่แปลกใหม่กว่าอาหาร ทำให้เกิดไอเดียที่จะทำเครื่องสำอาง เพราะยังมีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ได้อีก จึงนำมาสู่การหากระบวนการสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากรำข้าวทับทิมชุมแพที่เหมาะสม แล้วนำสารดังกล่าวมาพัฒนาต่อเป็นมาส์กพอกหน้าชนิดไม่ต้องล้างออก และจะวางจำหน่ายในชื่อทางการตลาดว่า Facial Perfection Soothing Mask”

จุดเด่นของมาส์กที่พัฒนาขึ้นจากงานวิจัย คือ ช่วยให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และแลดูกระจ่างใส โดยสารสกัดอันทรงคุณค่าจากข้าวทับทิมชุมแพมีคุณสมบัติยับยั้งอนุมูลอิสระ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อีลาสเทสและคอลลาจิเนสที่ทำให้เกิดริ้วรอย นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินได้ เมื่อผสมลงในผลิตภัณฑ์พบว่าผลิตภัณฑ์มีความคงตัวดี ไม่มีการแยกชั้น มีค่าพีเอชใกล้เคียงกับผิวหนัง และเพื่อป้องกันการเสื่อมสลายของสารสกัดได้ง่ายจึงเลือกใช้เทคโนโลยีไมโครเอนแคปซูเลชั่นโดยใช้แป้งข้าว นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทุกส่วนของข้าว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยกักเก็บสารสำคัญไว้ให้มีความคงตัวอยู่ได้นานขึ้น เพื่อการบำรุงและปรับสภาพผิวเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบนและน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร

แม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากข้าวออกมามากมาย แต่ผู้บริหารของออไรซ์ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของตนใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ไม่ใช้สารเคมี และยังคงคุณค่าสารสำคัญจากข้าวทับทิมชุมแพที่ช่วยในการบำรุงผิว นอกจากนี้บริษัทยังได้คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เกี่ยวกับข้าว อาทิ เซรั่มบำรุงผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ และโลชั่นน้ำหอม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายทางออนไลน์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเพจ Orryze Thailand หรือไอจี และ Lazada รวมถึงเตรียมยื่นขอเครื่องหมายฮาลาลและผลิตภายใต้โรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มมุสลิมอีกด้วย

ใส่ความเห็น