ระยะเวลากว่า 2 ปี หลัง สราวุฒิ อยู่วิทยา ประกาศยกเครื่องโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2561-2565) เม็ดเงินกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะปีนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเกมรุกสมรภูมิเครื่องดื่มทุกแบรนด์ เร่งขยายพอร์ตโฟลิโอกว้างขวางและหลากหลาย เพื่อกวาดกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยและคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดเพื่อผลักดันรายได้แตะ 100,000 ล้านบาท ทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น House of Brand ผลิตสินค้าและสร้างแบรนด์ที่ทรงพลังมากที่สุด
จะว่าไปแล้ว ธุรกิจกลุ่มกระทิงแดงจากยุคนายเฉลียว อยู่วิทยา สู่ยุคเจเนอเรชันใหม่ มีความพยายามขยายไลน์สินค้าตั้งแต่ปี 2552 เริ่มจากการเปิดตัวเครื่องดื่มให้พลังงาน “เรดดี้” เจาะตลาดพรีเมียมมากขึ้น โดยชูจุดขายส่วนผสมเสริมสร้างบุคลิกภาพ ทั้งรูปแบบขวด สี และมีหลากหลายรสชาติ พร้อมๆ กับชิมลางรุกธุรกิจอาหาร ส่ง “ซันสแนค” เมล็ดทานตะวันเคลือบธัญพืช อบกรอบ เจาะตลาดสแน็ก
ปี 2555 เปิดตัวเครื่องดื่มชาผสมสมุนไพร “เพียวริคุ” และฉีกตลาดฟังก์ชันนัลดริงค์ด้วยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชายรายแรกของประเทศไทย “แมนซั่ม” จนกลายเป็น Case study ในวงการตลาด
ปี 2558 เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังอัดลมผสมวิตามิน Ready ZAA และกระทิงแดง จีทู ผสมสารสกัดจินเซนโนไซด์จากโสมเอเชีย
ปี 2559 เปิดตัวกระทิงแดง จีทรี ผสมเคอร์คูมิน สารสกัดจากขมิ้นชันธรรมชาติ และเครื่องดื่มผสมโสมเกาหลี “โสมพลัส”
ปี 2560 ต่อยอดแบรนด์แมนซั่ม ส่งสูตรน้ำตาลน้อยตามกระแสรักสุขภาพและแมนซั่ม ฟรุตโซดา รวมถึงเปิดตัวเครื่องดื่มอัดลมผสมวิตามิน “ไลฟ์ บาย สปอนเซอร์” เพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่
จนกระทั่งมีการปรับโครงสร้างรวม 4 บริษัทในเครือ คือ บริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ดูแลด้านการผลิตสินค้าเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ดูแลด้านการทำตลาดและจำหน่ายบริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด บริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ และบริษัท เดอเบล ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และรับจ้างจัดจำหน่ายให้แบรนด์อื่นๆ ภายใต้ชื่อใหม่ “กลุ่มธุรกิจ TCP” ซึ่ง สราวุฒิ อยู่วิทยา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องเร่งต่อยอดสินค้าทุกตัว โดยเฉพาะการปลุกภาพลักษณ์ ขยายฐานตลาดและกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นแนวรบที่มีการแข่งขันดุเดือดมาก และกลุ่มผู้เล่นทุกรายล้วนมีทั้งเงินทุน เครือข่าย และแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งนายฐาปน สิริวัฒนภักดี ยังเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าเครื่องดื่มและอาหารอย่างครบวงจร หรือกลุ่มโอสถสภา ซึ่งนำบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถระดมทุนต่อยอดธุรกิจได้อีกหลายเท่า
โจทย์ของสราวุฒิและกลุ่ม TCP แม้ไม่ยากสำหรับยักษ์ใหญ่ “กระทิงแดง” แต่ไม่ง่ายเช่นกัน เนื่องจากสินค้าทุกกลุ่มมีแบรนด์คู่แข่งจ้องช่วงชิงส่วนแบ่งอย่างเข้มข้น ทั้งกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ และกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงค์ บวกกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว เกิดวิกฤตกำลังซื้อ ทำให้กลุ่มลูกค้าประหยัดและเลือกแบรนด์สินค้ามากขึ้น
ขณะที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นภาษีความหวานอัตราใหม่ ซึ่งเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งในตลาดเครื่องดื่ม ทั้งในแง่สูตรการผลิตและราคา
ทั้งนี้ หลังจากจัดการลงทุนตามแผน 5 ปี เร่งลงทุนสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มชูกำลังแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า และเปิดสำนักงานแห่งใหม่ โดยตั้งเป้าหมายผุดโรงงานแห่งใหม่อย่างน้อยปีละ 1 แห่งใน 1 ประเทศ
ปี 2562 กลุ่ม TCP เปิดฉากอัดฉีดงบปลุกตลาดเครื่องดื่ม” “เรดดี้ โกจิเบอรี่” ในฐานะที่ “เรดดี้” เป็นแบรนด์เครื่องดื่มให้พลังงานระดับพรีเมียมเพียงรายเดียวที่มียอดขายอันดับ 1 ต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี และมียอดขายในปี 2561 โตสวนกระแส คือ 960 ล้านบาท สูงขึ้นจากยอดขายปี 2560 ถึง 15% เทียบกับตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานระดับพรีเมียมโตขึ้นเพียง 10% และมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 62% จากมูลค่าตลาดรวม 1,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้าผลักดันยอดขายในปี 2562 เติบโตขึ้น 16%
ปัจจุบัน แบรนด์เรดดี้ยังมีสูตรรสชาติอื่นๆ ทั้ง เรดดี้ บู้ท สูตรน้ำตาลน้อย เรดดี้ พิงค์ กลิ่นลิ้นจี่เลมอน สูตรน้ำตาลน้อยลง 40% เรดดี้ แบล็ค กลิ่นฮันนี่เลมอน สูตรน้ำตาลน้อยลง 40% เครื่องดื่มเรดดี้ พิงค์ สูตรน้ำตาลน้อยลง 40% และเมื่อเร็วๆ นี้ เปิดตัว “เรดดี้ เลมอน ซี” ผสมน้ำเลมอน สูตรน้ำตาลน้อย เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นจนถึงวัยทำงานตอนต้น อายุระหว่าง 18-29 ปี เน้นจุดขายราคาเพียงขวดละ 15 บาท
ขณะเดียวกัน บริษัทลุยเกมรุกต่อเนื่อง พลิกโฉม ‘กระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า’ ทั้งรสชาติสูตรใหม่ที่มีการวิจัยว่าถูกใจคนไทยมากขึ้น ปรับโฉมฉลากดีไซน์ใหม่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อเจาะคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่วัยนักศึกษาจนถึงกลุ่มคนทำงานทั่วไป อายุ 18-35 ปี ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์ตร้า มีกิจกรรมหลากหลายใน 1 วัน เช่น เตรียมอ่านหนังสือสอบ ไปปาร์ตี้กับเพื่อน ท่องโลกออนไลน์ โดยตั้งเป้าหมายผลักดันยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มกระทิงแดงเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 12%
ล่าสุด ปลุกตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ พัฒนาสปอร์ตดริ้งค์ 3 สูตรใหม่ สปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์ เพื่อกระตุ้นการดื่มที่ไม่จำกัดเฉพาะกิจกรรมการเล่นกีฬา เน้นประโยชน์หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ สปอนเซอร์ แอคทีฟ วิตามินซีสูง 200% สปอนเซอร์ แอคทีฟ ซิงค์ และสปอนเซอร์ แอคทีฟ แมกนีเซียม
ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจทีซีพี (TCP) กล่าวว่า “ตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์มีมูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมตลาดเติบโตน้อย โดยเฉพาะปี 2561 เติบโตเพียง 3-4% จากอดีตที่เคยเติบโตมากถึง 7% หรือ 10% สาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีและอัตราการบริโภคต่อคนต่อปีไม่เพิ่มขึ้นมากในกลุ่มตลาดเดิมที่เป็นผู้เล่นกีฬาและผู้เสียเหงื่อเป็นหลัก
แม้สปอนเซอร์ยังมีอัตราเติบโตสูงถึง 17% จากช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2562 มากกว่าตลาดรวมที่เติบโต 15% และยังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งมากถึง 90% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการแย่งตลาดจากผู้ประกอบการรายเดิมที่ไม่เน้นทำตลาด ทำให้บริษัทต้องหากลยุทธ์ปลุกการบริโภค โดยสูตรใหม่ปรับลดระดับน้ำตาลความหวานลงมาเหลือ 6% จากเดิม 10% และไม่มีการปรับขึ้นราคา ส่วนสปอนเซอร์ออริจินัลเดิมยังคงจำหน่ายอยู่ด้วยความหวาน 10% เช่นเดิม”
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มพอร์ตสินค้าเพียงด้านเดียวไม่ใช่คำตอบทั้งหมด สราวุฒิตัดสินใจปรับระบบโลจิสติกส์ โดยใช้เม็ดเงิน 2,000 ล้านบาท อัปเกรด “เดอเบล” ลงทุนเทคโนโลยีทั้งในด้านการขาย ด้านข้อมูลการตลาด ด้านโลจิสติกส์ และคลังสินค้า เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและครบวงจร
การขยายสาขา เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าและทีมขาย เพื่อรองรับจำนวนคู่ค้าและประเภทสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และเปิดช่องทางการขายใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ หรือ Vending Machine ให้ครอบคลุมร้านค้าและเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงโอกาสทางธุรกิจจากคู่ค้าต่างประเทศผ่านเครือข่ายของกลุ่ม โดยงานนี้ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนสินค้าของคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP เป็น 60%
ณ วันนี้ เดอเบล มีร้านค้าคู่ค้า 140,000 ร้านค้า ทั้งร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และโมเดิร์นเทรด ทั่วประเทศ มีสาขารวม 24 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าย่อยทั่วประเทศ มีรถขนส่งสินค้ากว่า 300 คัน และทีมรถขาย 600 ทีม พนักงานขายและทีมงานสนับสนุนอีก 2,200 คน
ที่สำคัญ บริษัทยังปรับโฉมองค์กรสู่การทำงานบนแพลตฟอร์มดิจิทัลตามแผนธุรกิจ 5 ปี ภายใต้แนวคิด 3C เริ่มจาก C1 เปลี่ยนรูปแบบสำนักงานใหม่ เน้นสร้างนวัตกรรม ลงทุน 740 ล้านบาท สร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่รองรับพนักงานใหม่ 250 คน เนื้อที่ 6 ไร่ เริ่มก่อสร้างปี 2562 คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564
ส่วนสำนักงานปัจจุบันจะปรับปรุงใหม่เป็น Open Office และเป็นพื้นที่ส่วนกลางระหว่างแผนกเพื่อใช้เป็นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความคิด ติดตั้งระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย เชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์ของพนักงานทั้งในสำนักงานใหญ่ สาขาในต่างจังหวัด และสาขาต่างประเทศในประเทศเวียดนามกับเมียนมา
C2 เปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ ให้พนักงานมี Virtual Office ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่สำนักงาน พนักงานอาจทำงานที่บ้าน หรือที่ co-working space และ C3 เปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ ทั้ง Internet of Things, Virtual Reality, AI, Cloud Computing หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ จัดตั้งทีมงาน ‘Incubator’ สนับสนุนการเรียนรู้ ทดลอง และทดสอบไอเดียใหม่ๆ สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการต้นแบบ (Prototype) ซึ่งขณะนี้มีการคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บ้างแล้ว
การปรับโฉมองค์กรบนดิจิทัลแพลตฟอร์มจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2565 ซึ่งสราวุฒิในฐานะแกนนำกลุ่มเจเนอเรชั่น 2 ต้องการปลุกปั้น TCP ขึ้นชั้นเป็นบริษัทธุรกิจเครื่องดื่มข้ามชาติ ไม่ใช่เฉพาะชื่อเสียงอันโด่งดังของ “กระทิงแดง” แต่หมายถึงการยกทัพทุกแบรนด์และเมื่อถึงเวลา เป้าหมายรายได้แสนล้านไม่ใช่เรื่องยากเลย
เปิดพอร์ตสินค้ากลุ่ม TCP
ตระกูล “อยู่วิทยา” ยึดครองตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานมาอย่างยาวนาน มีการปรับโครงสร้างตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP และเร่งขยายไลน์สินค้าใหม่ๆ จนปัจจุบันจัดจำหน่ายสินค้าในเครือรวม 4 กลุ่มหลัก
1. กลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน
๐ กระทิงแดง-เรดบลู
๐ เครื่องดื่มชูกำลังผสมน้ำผลไม้ เรดดี้
๐ เครื่องดื่มบำรุงกำลังผสมโสมเกาหลี 100% โสมพลัส
๐ Warrior Lemon ผสมวิตามินซี
2. กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่
๐ สปอนเซอร์
๐ เครื่องดื่มอัดลมผสมวิตามิน ไลฟ์ บาย สปอนเซอร์
3. กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล
๐ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชาย แมนซั่ม
๐ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชาย แมนซั่ม ฟรุตโซดา
๐ ชาขาวพร้อมดื่ม เพียวริคุ
๐ น้ำผลไม้ ริคุ
4. กลุ่มขนมขบเคี้ยว
๐ เมล็ดทานตะวันเคลือบธัญพืช อบกรอบ ซันสแนค
๐ เมล็ดทานตะวันเคลือบธัญพืชผสมขนมปังอบกรอบและปลาแผ่นกรอบ ซันสแนค แซ่บ