Home > Cover Story (Page 149)

นมถั่วเหลืองหมื่นล้านระอุ ยักษ์ใหญ่รุกเซกเมนต์ใหม่

  แม้ “เอฟแอนด์เอ็น” ในเครือไทยเบฟเวอเรจ รอจังหวะภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนรุกตลาดสินค้าแบรนด์ใหม่ หลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ 100 Plus แต่ตามแผนผลักดันแบรนด์สินค้าในกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ เพื่อยึดตลาดอาเซียนภายใต้โรดแมพ “Vision 2020” มีการกำหนดแบรนด์เป้าหมายทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ เอส, โออิชิ, 100 PLUS และเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองนูทริซอย (NutriSoy) ซึ่งถือเป็นสินค้าแชมเปี้ยนแบรนด์ของเอฟแอนด์เอ็น  ช่วงเวลานี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นก่อนส่งนูทริซอยบุกสมรภูมิช่วงชิงเม็ดเงินในตลาดเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองที่มีมูลค่ามากกว่า 18,500 ล้านบาท เพราะตั้งเป้ากินส่วนแบ่งและผลักดันแบรนด์ติดอันดับ 1-3 ให้ได้ภายใน 3 ปี  ขณะที่เจ้าตลาดอย่าง “แลคตาซอย” มีฐานลูกค้าและยึดกุมแชมป์ติดต่อกันยาวนาน มีส่วนแบ่งสูงถึง 55% ตามด้วย “ดีน่า” ในเครือดัชมิลล์มีส่วนแบ่ง 25% และไวตามิลค์ 18%เฉพาะ 3 เจ้ากวาดส่วนแบ่ง 98%  ทั้งนี้ ข้อมูลการวิจัยของยูโรมอนิเตอร์ระบุว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่บริโภคถั่วเหลืองเป็นอันดับ 3 ของโลก อัตราการบริโภคเฉลี่ย 12 ลิตรต่อคนต่อปี รองจากฮ่องกงและสิงคโปร์

Read More

ยุทธศาสตร์ “C asean” ต่อยอด-แตกไลน์ธุรกิจ

 ศูนย์ C asean เปิดตัวและกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ “ไทยเบฟเวอเรจ” ภายใต้แผน Vision 2020 ซึ่งฐาปน สิริวัฒนภักดี ประกาศเป้าหมายการก้าวขึ้นเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดและมีผลกำไรสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุดวางแผนต่อยอดรุกธุรกิจใหม่ “FOOD of ASIA” ดึง “อัตลักษณ์” ของทุกชนชาติในอาเซียน สร้าง “จุดต่าง” จากคู่แข่งและ “กลยุทธ์” ต่อยอดจากตลาดไทย  เป็นเกมที่ฐาปนต้องการขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารและไม่ได้เจาะเฉพาะกลุ่มเออีซีที่มีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน แต่วางแผนระยะยาวสยายปีกสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วย  สำหรับบริษัท Food of ASIA (FOA) ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2558 โดยดึงมือมาร์เก็ตติ้งด้านตลาดคิวเอสอาร์ หรือร้านอาหารบริการด่วน “นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” อดีตผู้บริหารทีมสร้างแบรนด์ “พิซซ่าฮัท” ให้บริษัท ยัม เรสเทอรองต์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ทำงานอยู่กับยัมฯ นานเกือบ 10 ปี ก่อนหน้านั้นยังเคยร่วมงานกับ “แมคโดนัลด์”

Read More

“ไทยเบฟ” เปิดศึก Food Street ชน “ซีพี”

 ฐาปน สิริวัฒนภักดี เปิดเกมรุกครั้งใหม่ ตั้งบริษัท FOOD of ASIA (FOA) ขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ที่ปลุกปั้นขึ้นเอง ที่สำคัญเตรียมโมเดลฟู้ดรีเทลบุกตลาดทุกช่องทาง เจาะทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและทุกเวลา ตามวิชั่น “ไทยเบฟเวอเรจ Always with you” ซึ่งทายาทคนสำคัญของเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือเป็น “คีย์” สู่การเป็นบริษัทที่มีผลกำไรสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แน่นอนว่า จากบริษัทเครื่องดื่มครบวงจร แม้มีพอร์ตธุรกิจอาหารแบรนด์ “โออิชิ” อยู่ในเครือ แต่เป็นกิจการที่ซื้อต่อจาก “ตัน ภาสกรนที” ในยุคแบรนด์ติดตลาดและค่อนข้างประสบความสำเร็จ ทำให้ฐาปนให้เวลาศึกษาและเน้นรายละเอียดของธุรกิจอาหารตัวใหม่รอบด้าน เพราะคู่แข่งล้วน “ทุนยักษ์ใหญ่” และเล่นอยู่ในตลาดยาวนาน นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท FOA เปิดเผย “ผู้จัดการ 360  ํ” ว่า FOOD of ASIA เกิดขึ้นจากวิชั่นของฐาปน ที่ต้องการสร้างธุรกิจอาหารที่สื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นอาเซียน รวมถึงเอเชีย โดยรวบรวมทีมงานและกำหนดโมเดลร้านอาหารที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าอย่างโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง ทุกระดับราคาและทุกช่วงเวลาของผู้บริโภค

Read More

“สี” ชิงพื้นที่สื่อโหมโฆษณา หวังดันยอดขายช่วงปลายปี

 บรรยากาศปลายฝนต้นหนาวกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการช่วงชิงพื้นที่สื่อของผู้ประกอบการสี เหตุเพราะทุกค่ายต่างเร่งระดมสรรพกำลังหวังดันยอดจำหน่ายให้กระเตื้องขึ้น หลังได้รับผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว ทีโอเอเปิดฉากใหม่ด้วยนวัตกรรมล่าสุด ขณะที่โจตันเน้นมาตรฐานระดับสากลมาสร้างความแตกต่าง ด้านดูลักซ์ไม่น้อยหน้าออก 9 โทนสีใหม่สู้ ความเป็นไปในตลาดสีทาอาคารโดยภาพรวมนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกจนถึงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ดูจะดำเนินไปในทิศทางที่ไม่ปรากฏการขยายตัวมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนักส่งผลต่อความเชื่อมั่น ที่ก่อให้เกิดภาวะชะลอตัวต่อเนื่องไปอีก ซึ่งสีทาอาคารในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบไปด้วย เหตุปัจจัยด้านลบดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสีต่างต้องดำเนินความพยายามรักษาส่วนแบ่งฐานลูกค้าและกระตุ้นยอดจำหน่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างหนักหน่วง และส่งผลให้อุตสาหกรรมสีเป็นอีกสังเวียนหนึ่งที่มีแนวโน้มแข่งขันทางการตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อหนักหน่วงไม่น้อยเลย โดยผู้นำตลาดอย่างทีโอเอปลุกตลาดด้วยการส่งสี “โน้ต แอนด์ คลีน สีเขียนได้ ลบได้” ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก พัฒนาด้วยเทคโนโลยีนาโนคริสตัลกลาสจากประเทศเยอรมนี เข้าสู่ตลาด พร้อมกับโหมโฆษณาในสื่อทุกช่องทาง จุดเน้นของสีทีโอเอโน้ตแอนด์คลีน อยู่ที่การระบุคุณสมบัติว่าสามารถกันคราบสกปรกและลบทำความสะอาดได้ ไม่ต่างจากการมีกระดานไวท์บอร์ด แต่ราคาถูกกว่าถึง 4 เท่า ซึ่งเหมาะสำหรับห้องประชุมหรือโรงเรียน ในลักษณะที่สามารถทดแทนกระดานดำได้เลย “TOA มีบริการเสริม ออกแบบสีบ้าน ฟรี โดยทีมมัณฑนากรมืออาชีพจากทีโอเอ ซึ่งทีโอเอ โน้ตแอนด์ คลีนจะเปลี่ยนผนังบ้านเดิมๆ ให้เป็นผนังไวท์บอร์ด สามารถขีดเขียน จดบันทึกต่างๆ ทำให้หมดกังวลเรื่องผนังบ้านเลอะเทอะจากปัญหาเด็กๆ ที่ชอบขีดเขียนผนังด้วย” พงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์

Read More

ถอดรหัสเลือกตั้งเมียนมา “ประชาธิปไตยแบบมีวินัย”

 โฉมหน้าทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านทางทิศตะวันตกของไทย ในนามเมียนมา กำลังเข้าสู่ห้วงเวลาที่น่าสนใจติดตาม ซึ่งอาจเป็นการกำหนดบทบาทและทิศทางการขับเคลื่อนประเทศบนหนทางประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่ง การเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ได้รับความสนใจและเป็นที่จับตามองจากประชาคมนานาชาติว่าจะดำเนินไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรมและเป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด ซึ่งความคาดหวังเหล่านี้อาจเป็นเพียงแนวคิดอุดมคติ เพราะในความเป็นจริงที่ปรากฏในปัจจุบัน กระบวนการเปลี่ยนผ่านตาม Roadmap to Discipline-flourishing Democracy ของเมียนมาที่ประกาศไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2003 ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคและความไม่แน่นอนอยู่พอสมควร เงื่อนไขสำคัญอีกประการหนึ่งที่เป็นเสมือนเครื่องหมายของการกระชับอำนาจของฝ่ายทหารในการรักษาอำนาจไว้ก็คือ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ระบุให้มีการแต่งตั้งสมาชิกรัฐสภาในสัดส่วนที่มากถึงหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกที่พึงมี โดยสมาชิกแต่งตั้งเหล่านี้มีสิทธิที่จะยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายทหารเป็นผู้ยกร่างอีกด้วย แม้ความเป็นไปในบทบัญญัตินี้จะได้การวิพากษ์และท้วงติงจากประชาคมประชาธิปไตย แต่ฝ่ายกุมอำนาจในเมียนมา ระบุว่านี่คือการสร้างประชาธิปไตยแบบมีวินัย หรือ Discipline-flourishing Democracy ซึ่งทำให้ผลการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น นอกจากจะได้รับการประเมินในมิติของความโปร่งใสและสะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนเมียนมาเพียงใดแล้ว ยังต้องประเมินต่อไปอีกว่าจะสามารถมีนัยความหมายมากพอที่จะสร้างกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน ท่ามกลางพรรคการเมืองจำนวนมากถึง 91 พรรค พรรค NLD (National League for Democracy) ที่นำโดยออง ซาน ซู จี (Aung San Suu Kyi) ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญ ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น แต่นั่นก็เป็นการคาดการณ์จากผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นในปี 1990 ที่

Read More

TOA ดันนวัตกรรมปลุกตลาดสี มุ่งเป้ารุกอาเซียนเพิ่มรายได้

 ตลาดสีทาบ้านเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีการแข่งขันกันอย่างอย่างรุนแรงและดุเดือด ท่ามกลางแรงซื้อในตลาดที่ค่อนข้างหดตัว จากภาวะหนี้สินครัวเรือนที่ขยับขึ้นสูง และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและยังไม่มีสัญญาณบวก และทำให้บริษัทผู้ประกอบการต่างต้องเร่งส่งเสริมการขายช่วงท้ายปีอย่างหนักหน่วง TOA ดูจะเป็นตัวอย่างของกรณีดังกล่าวได้ดี และเริ่มกลยุทธ์การตลาดด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ TOA Note and Clean ที่เชื่อว่าจะเป็นนวัตกรรมที่นำตลาดสีให้เกิดความแปลกแตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่นๆ ไปมากทีเดียว ภายใต้สโลแกน “Note & Clean เขียนได้ ลบได้” ทีโอเอ ประเมินว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเป็นการสร้างสีให้เป็นมากกว่าสี ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะประเด็นว่าด้วยความสวยงามหรือทนทานแบบเดิม แต่กำลังจะสร้างผนังทาสีที่ต่อเติมจินตนาการของผู้คนอีกด้วย “ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน TOA Note and Clean กำลังสร้างให้เกิดพื้นที่เชื่อมโยงและเป็นพื้นที่สื่อสารของคนได้ TOA Note and Clean จะเป็นส่วนหนึ่งของเวทีแสดงความคิดและความสร้างสรรค์ เป็นประสบการณ์ beyond expectation” พงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ มุมมองของ TOA เชื่อว่า “ทีโอเอ

Read More

RC Cola ในมือชาคริต อัศววศิน

 การเปิดตัวเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายใต้แบรนด์ RC Cola บนหน้าจอโทรทัศน์ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน 2558 นับเป็นการทำการตลาดในรอบ 48 ปีของแบรนด์น้ำดำที่ใครหลายคนมองว่าเป็นตำนาน  เมื่อ RC Cola ปัดฝุ่นตัวเองอีกครั้งและปล่อยสโลแกนเดิม “จิบเดียว จับใจ” ไว้เบื้องหลัง แล้วหวังสร้าง Loyalty ด้วยคำว่า “ความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เคยเปลี่ยน” พร้อมกับปล่อยสปอตโฆษณาที่เสมือนการฟื้นความหลังของกลุ่มคนวัย 30 บวก  ข้อสงสัยที่ว่าทำไม RC Cola ถึงกลับมาทำการตลาดใหม่ ก่อนหน้านี้หายไปไหน และอีกหลายประเด็นทำให้ “ผู้จัดการ 360  ํ” ต้องหาคำตอบกับแบรนด์น้ำอัดลมในตำนานอย่าง RC Cola และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับมาในครั้งนี้มี “มือปืนรับจ้าง” ฉายาที่สื่อหลายสำนักเรียกขานผู้อยู่เบื้องหลังอย่าง ชาคริต อัศววศิน ที่ปรึกษาการตลาดอาวุโส “มีการเปลี่ยนแปลงในองค์กรเป็นจุดเริ่มต้น และเรามีดี มีของดีก็ควรกลับมา” ชาคริตขยายความต่ออีกว่า แบรนด์ RC Cola ไม่เคยหายไปไหน เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่ช่องทาง Traditional Trade มากกว่า

Read More

เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของ RC Cola อเมริกันดีเอ็นเอ 110 ปี

 ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังซบเซาและชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในไตรมาส 3/2558 ว่าอาจขยายตัวเพียง 2.8% แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแล้วก็ตาม หากแต่ตัวแปรสำคัญที่จะชี้วัดความอยู่รอดของเศรษฐกิจไทยคือการส่งออก ที่มีแนวโน้มหดตัวและติดลบอย่างต่อเนื่อง กระนั้นแม้สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยโดยรวมจะไม่สู้ดีนัก หากแต่การแข่งขันของสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศยังคุกรุ่นและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีคู่แข่งทั้งหน้าเก่าและใหม่ลงสนามประลองกำลัง ที่มีความพร้อมในด้านงบประมาณการตลาด และชั้นเชิงทางกลยุทธ์ที่สร้างขึ้นเพื่อจูงใจผู้บริโภค และหนึ่งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่เนืองๆ นั้น คงหนีไม่พ้นตลาดเครื่องดื่ม โดยเฉพาะตลาดน้ำดำซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองจากตลาดเครื่องดื่มประเภทนม แน่นอนว่าความหอมหวานของมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดและการแทรกตัวของคู่แข่งหน้าใหม่ที่คืบคลานเข้ามาในตลาดอย่างช้าๆ ที่อาจทำให้ผลประโยชน์ในระดับภูมิภาคถูกเบียดบังและลดทอนลง นับเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดในเวลานี้ ที่ปลุก RC Cola แบรนด์น้ำอัดลมที่เว้นวรรคจากการทำตลาดมานานถึง 48 ปีให้ตื่นจากการจำศีล แม้ว่าที่ผ่านมา RC Cola จะไม่ได้หายหรือหยุดกระบวนการผลิตและจำหน่ายอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่ RC โฟกัสเพียงตลาดในระดับภูมิภาคหรือพื้นที่รอบนอกเท่านั้น และถึงตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง เมื่อตลาดน้ำดื่มประเภทโคล่ามีมูลค่าการตลาดปี 2557 สูงถึง 44,000 ล้านบาท โดยที่อันดับหนึ่งยังคงเป็นโค้ก ที่ได้ส่วนแบ่งการตลาดไปสูงถึง 50% เป๊ปซี่ 30% เอส 12% บิ๊กโคล่า 6% และน้องใหม่อย่าง RC Cola ที่เพิ่งเดินเกมรุกในตลาดพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ส่วนแบ่งการตลาดไปเพียง

Read More

“เอฟวายไอ” จุดพลุ ทีซีซีเร่งปลุก “พระราม 4”

 ทันทีที่โครงการอาคารสำนักงาน “เอฟวายไอ เซ็นเตอร์” จิ๊กซอว์ใหม่ชิ้นแรกตามแผนปลุกย่านพระราม 4 ของ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” เปิดตัวในไตรมาสแรก หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินกลางปี 2559 การโหมโรงเปิดเกมขยายอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ชุดใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น พร้อมๆ กับการเดินหน้าเชื่อมต่อบิ๊กโปรเจ็กต์บริเวณหัวมุมถนนพระรามสี่ตัดกับถนนวิทยุ เนื้อที่อีกกว่า 92 ไร่ ตามแผนเบื้องต้น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในฐานะเจ้าของที่ดิน กำหนดผังพัฒนาโครงการ 92 ไร่ เป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยอาคารที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า ศูนย์การศึกษา ศูนย์สุขภาพ และศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งปณต สิริวัฒนภักดี ลูกชายคนเล็กของเจริญ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโปรเจ็กต์ เคยระบุว่า บริษัทวางแนวทางพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ต้นแบบสำหรับคุณภาพชีวิตคนเมืองครบวงจรและเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ พื้นที่รวม 62 ไร่  ส่วนอีก 30 ไร่ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง โครงสร้างพื้นฐาน และพื้นที่สีเขียว รวมทั้งสองส่วนใช้เงินลงทุนหลายหมื่นล้านบาท  สำหรับเอฟวายไอเซ็นเตอร์ หรือ

Read More

พระราม 4 บูม “อสังหา-รีเทล” พรึ่บ

 แลนด์ลอร์ดรายใหญ่อย่าง “เครืออรรถกระวี” ประกาศปัดฝุ่นที่ดินของตระกูล ผุดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “สวนเพลิน มาร์เก็ต” แม้เหตุผลข้อหนึ่งเกิดจากเงื่อนไขใหม่ในกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่มากไปกว่านั้น ทำเลย่านพระราม 4 มีการพัฒนาศักยภาพมากขึ้นและสามารถยกระดับเป็นเขตธุรกิจใจกลางเมือง (Central Business District: CBD) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ  โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ “มิกซ์ยูส” รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบนถนนพระราม 4 จะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่กลางปี 2559 เริ่มจากโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center) ของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริเวณสี่แยกถนนรัชดาภิเษกตัดพระราม 4 จะมีทั้งอาคารสำนักงานสูง 12 ชั้น และโรงแรมขนาด 239 ห้อง มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนโครงการ 92 ไร่ หัวมุมถนนพระราม 4 ตัดถนนวิทยุ หรือที่ดิน ร.ร.เตรียมทหารเดิม

Read More