วันเสาร์, มีนาคม 15, 2025
1:15:56 AM
Home > Cover Story > “ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” เส้นทาง 16 ปี จากตลาดนัด สู่แฟรนไชส์อันดับ 4 ของประเทศ

“ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” เส้นทาง 16 ปี จากตลาดนัด สู่แฟรนไชส์อันดับ 4 ของประเทศ

“อนพ วัฒนกูล” เริ่มต้นธุรกิจลูกชิ้นทอดไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” จากร้านลูกชิ้นทอดเล็กๆ ในตลาดท่าอิฐ ด้วยเงินทุนจากการเออร์ลี่รีไทร์ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ปัจจุบันไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ขยายสาขาไปมากถึง 2,500 สาขาทั่วประเทศ และครองตำแหน่งแฟรนไชส์อันดับ 4 ของเมืองไทย

จุดเริ่มต้นของความสำเร็จและการเดินทางตลอด 16 ปี ของแบรนด์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด เป็นอย่างไร “ผู้จัดการ 360 องศา” จะพาไปทำความรู้จัก

แบรนด์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 โดย “อนพ วัฒนกูล” ที่มีความคิดอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หลังจากที่เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับการเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่ทำงานด้านการขายและการตลาดมานานกว่า 20 ปี เขาใช้ช่วงปีสุดท้ายที่ทำงานให้กับบริษัทเริ่มศึกษาและสำรวจตลาดตามที่ต่างๆ เพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจ โดยยึดหลัก “การตลาดต้องอยู่ในตลาด ไม่ใช่ที่โต๊ะทำงาน”

สิ่งที่เขาทำในช่วงนั้นคือการเดินตลาดในทุกจังหวัดที่มีโอกาสไปทำงาน เพื่อหาสิ่งที่ทุกตลาดมีขายเหมือนกันและสิ่งที่ทุกตลาดขาดไปคล้ายกัน ในตอนแรกเขาเลือกสินค้าขึ้นมาหลายตัวเพื่อจะนำมาขายและสร้างแบรนด์ เช่น กล้วยทอด ขนมไข่นกกระทา ข้าวโพด ปลาหมึกราว ลูกชิ้นปิ้ง และลูกชิ้นทอด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอยู่ในตลาดมาเป็นเวลานาน ไม่ใช่สินค้าแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว แต่ในทางกลับกัน สินค้าเหล่านั้นกลับไม่มีการสร้างแบรนด์และพัฒนาจุดขายให้ดูโดดเด่น รวมถึงไม่มีการทำการตลาดใดๆ ที่จะเป็นการต่อยอดให้ไปได้ไกลกว่าเดิม

ด้วยความที่อยู่ในสายงานการขายและการตลาดมามากกว่า 20 ปี เขามองว่าสินค้าเหล่านี้สามารถนำมาพัฒนา ปรับรูปแบบตัวสินค้า หน้าร้าน และระบบการจัดการให้ดูน่าสนใจและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้นได้

อนพจึงเริ่มศึกษาสินค้า 4-5 รายการข้างต้นอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากขนมไข่นกกระทา เขาใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ ไปเรียนทำขนมไข่นกกระทาที่มติชนสร้างอาชีพ และได้ทดลองทำอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ จึงเปลี่ยนมาลองศึกษาการทำกล้วยทอดควบคู่ไปกับลูกชิ้นทอด ก่อนที่จะนำทั้งกล้วยทอดและลูกชิ้นทอดมาเปรียบเทียบจุดแข็ง จุดอ่อน ตั้งแต่ตัวสินค้า ราคา ช่องทางจำหน่าย การจัดการทางการตลาด เพื่อหาโอกาสในการประสบความสำเร็จ ในที่สุดจึงตัดสินใจเลือก “ลูกชิ้นทอด” มาทำการตลาดก่อน

“ลูกชิ้นไม่ใช่สินค้ากระแส ถ้าเป็นสินค้ากระแสแป๊บเดียวก็เงียบไป แต่ลูกชิ้นอยู่คู่ตลาดมานานซึ่งเราเห็นตั้งแต่เล็กจนโต และสามารถเติบโตได้ เราเพียงแค่หยิบมาทำการตลาดสร้างมาตรฐานเท่านั้น” อนพให้เหตุผล

เขาตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาทอดเจ้าหนึ่งมาทดลองขาย เพื่อศึกษากรรมวิธีและกระบวนการจัดการต่างๆ โดยไปทอดขายเองกับลูกชาย “สารัช วัฒนกุล” ตามตลาดนัดอย่างตลาดท่าอิฐ จ.นนทบุรี ในช่วงเย็นและวันเสาร์-อาทิตย์ แม้จะดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก เพราะทำงานออฟฟิศมาโดยตลอด แต่ร้านลูกชิ้นทอดของเขากลับขายดีเป็นอย่างมาก มีลูกค้ามาเข้าคิวต่อแถวยาวทุกวัน นั่นจึงทำให้เขาเริ่มมองเห็นโอกาสในการต่อยอดจากการขายลูกชิ้นทอดในตลาดนัดสู่การขยายสาขาและสร้างแฟรนไชส์

ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด: อ้วนใหญ่ กรอบนอกนุ่มใน ไม่เหนียว ไม่เหี่ยว ไม่คาว

จากสาขาแรกที่ประสบความสำเร็จ อนพได้เขียนแผนการตลาด “ลูกชิ้นปลาระเบิด” และนำไปเสนอกับโรงงานลูกชิ้นที่มหาชัยเพื่อผลิตลูกชิ้นปลาตามแผนที่เขาวางไว้ แต่กลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่า 10 โรงงานไม่มีที่ไหนสนใจแผนการตลาดลูกชิ้นปลาระเบิดของเขาเลย ด้วยความที่มีเพียงสาขาเดียว จำนวนผลิตไม่สูง โรงงานใหญ่ๆ จึงปฏิเสธที่จะทำให้เพราะไม่มีเวลามาผลิตลูกชิ้นปลาตามสเปกที่เขาต้องการ จนเขาเกือบจะถอดใจ กระทั่งมาเจอโรงงานสุดท้ายที่ตอบตกลงจะผลิตลูกชิ้นตามที่เขาต้องการ แม้จะมีความยุ่งยากกว่าลูกชิ้นที่วางขายในท้องตลาดขณะนั้นก็ตาม เพราะต้องกรอบนอกนุ่มใน อ้วนใหญ่ ทอดขึ้นมาแล้วมีสีเหลืองทอง ไม่เหนียว ไม่เหี่ยว และไม่คาว อันเป็นเอกลักษณ์ของไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด มาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากได้โรงงานที่จะผลิตลูกชิ้นปลาแล้ว อนพตัดสินใจลาออกจากงานประจำทันที ยอมทิ้งเงินเดือน 6 หลัก เพื่อมาขายลูกชิ้นทอด และสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองในชื่อ “ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” ซึ่งชื่อไจแอ้นมาจากความใหญ่ของลูกชิ้นนั่นเอง โดยเขาเดินหน้าสร้างแบรนด์อย่างจริงจังและสร้างระบบแฟรนไชส์ ด้วยการแจกแฟรนไชส์จำนวน 20 สาขาฟรี เพื่อขยายตลาดและสร้างยอดขาย ปรากฏว่าแฟรนไชส์ทั้ง 20 สาขา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนสามารถขยายสาขาได้ถึง 100 สาขาภายในปีเดียว นอกจากนั้น ยังผลักดันมาตรฐานทางการผลิตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้ง อย., GMP, HACCP และฮาลาล รวมถึงออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับแฟรนไชซี (Franchisee)

ไม่เพียงเท่านั้นในปี 2555 ยังลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถเข็น เคาน์เตอร์ และคีออสขึ้นเอง เพื่อให้ลูกค้าได้รับเคาน์เตอร์ รถเข็น และซุ้มในราคาโรงงานและรวดเร็วไม่เกิน 3 วัน ถัดจากนั้นในปี 2557 ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด เดินหน้าบุกห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ทั้ง เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โลตัส และบิ๊กซี ก่อนที่ในปี 2558 จะเริ่มรุกเข้าปั๊มน้ำมัน รวมถึงการออกอีเวนต์คอนเสิร์ตต่างๆ จนสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อย่างเด็กวัยรุ่นที่ได้ลองแล้วติดใจ จนกลายมาเป็นฐานลูกค้าสำคัญ ก่อนที่จะตั้งบริษัท อร่อยระเบิด จำกัด ขึ้นมาดูแลในภายหลัง

ปัจจุบันไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ถือเป็นแฟรนไชส์ที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจาก 7-11, ไก่ห้าดาว และ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ด้วยจำนวนสาขา 2,500 สาขาทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หัวเมืองต่างๆ และล่าสุดกับการเปิดสาขาใน One Bangkok อภิมหาโปรเจกต์ใจกลางกรุง โดยมีทายาทรุ่นสอง “สารัช วัฒนกูล” มาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญอย่างเต็มตัว ซึ่งก่อนที่จะเข้ามารับช่วงต่อสารัชเคยทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านแฟชั่นอย่างยูนิโคล่มาก่อน หลังจากนั้นจึงได้กลับมาช่วยธุรกิจของทางบ้านเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิดกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มเข้ามาทำงานในทุกตำแหน่งของบริษัท

หลังจากนั้น สารัชเริ่มโฟกัสที่แผนกการขายและการตลาด มีการวางระบบการทำงานของทีมขายและการตลาดแบบใหม่ เพราะแต่เดิมบริษัทใช้การตลาดแบบยุคเก่า ทำนิตยสาร ออกบูธตามงานแฟรนไชส์ต่างๆ แต่กลับไม่ได้เน้นทางออนไลน์ เขาจึงเริ่มสร้างทีมการตลาดขึ้นมาจากศูนย์ จนปัจจุบันมีทีมที่คอยทำคอนเทนต์เกือบทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้ง Facebook, Instagram และ TikTok มีการทำการตลาดออนไลน์ผ่านการยิงโฆษณาในหลากหลายช่องทาง นอกจากนั้น ยังทำแคมเปญและโคแบรนด์กับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้แฟรนไชส์และยอดขายของบริษัทเติบโตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เขาเปิดเผยต่อว่า แฟรนไชส์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด เป็น Product Franchise ลูกค้าจ่ายค่าแฟรนไชส์ครั้งเดียวและหลังจากนั้นเพียงซื้อวัตถุดิบของแบรนด์ โดยปัจจุบันมีแพ็กเกจแฟรนไชส์มากกว่า 10 แบบ ตั้งแต่ชุดทดลองขายที่ราคาเพียง 3,990 บาท ประกอบด้วยป้ายไวนิลพร้อมวัตถุดิบพร้อมขาย, ชุดมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง, รถเข็น, เคาน์เตอร์สำหรับห้างสรรพสินค้า, เคาน์เตอร์ตลาดนัดพกพา, เคาน์เตอร์มืออาชีพ และแบบซุ้มที่มีหลากหลายขนาดทั้งแบบมาตรฐาน แบบพรีเมียม ไปจนถึงชุด Giant Plus+ ราคา 149,990 บาท และทุกแพ็กเกจมีของแถมเป็นวัตถุดิบทั้งลูกชิ้น น้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ถ้วย ไม้เสียบลูกชิ้น ถุง ที่สามารถเปิดขายได้เลย ทั้งนี้แฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือแบบ “ซุ้มมาตรฐาน” ราคา 54,990 บาท เหมาะกับทำเลกลางแจ้ง เช่น ปั๊มน้ำมัน หน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าห้างสรรพสินค้า โดยคิดเป็น 40% ของแพ็กเกจแฟรนไชส์ทั้งหมด

“เราขายชุดแฟรนไชส์ถูกมาก เพราะผลิตรถเข็น ซุ้ม คีออส เอง ทุกชุดมีของแถมให้ แค่ขายของแถมหมดบางแพ็กเกจก็เกือบคืนทุนแล้ว ส่วนการติดตั้งเราจัดการให้ มีรถสไลด์ไปส่งให้ลูกค้า เดินน้ำ ไฟ ให้เสร็จสรรพ คอนเซ็ปต์เราคือ ลูกค้าไม่ต้องทำอะไร เดินมาตัวลอยๆ ก็เปิดร้านได้เลย ส่วนวิธีการทอดจะมีการส่งวิดีโอให้ลูกค้าดูก่อนและมีการเข้าไปสอนจริงจนเขาทอดได้ ถ้าทอดไข่ดาวได้ก็ทอดลูกชิ้นได้ เราไม่ได้ขายแค่แฟรนไชส์ แต่ต้องการสร้างอาชีพให้คนไทย ต้องสอนให้เขาทำได้ด้วย”

ทั้งนี้จุดแข็งที่ทำให้แฟรนไชส์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ได้รับความนิยมเพราะมีความยืดหยุ่น ราคาแฟรนไชส์ไม่สูง คุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์ และเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักดี ที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยราวๆ 300 สาขาต่อปี โดยลูกค้ารายแรกที่ซื้อแฟรนไชส์เมื่อ 15 ปีก่อน ปัจจุบันก็ยังคงอยู่และเปิดสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากการซื้อแฟรนไชส์ที่สามารถขยายสาขาต่อไปได้ถึง 40 สาขา เปลี่ยนจากอาชีพเสริมสู่อาชีพหลักที่สร้างรายได้ต่อเดือนให้ไม่น้อย และเรียกได้ว่าเป็น Success Story ของไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิดเลยก็ว่าได้

ล่าสุดไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ยังสร้างโอกาสการขยายแฟรนไชส์ โดยจับมือกับ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” มอบโอกาสให้ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สะดวก รวดเร็ว ผ่านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ด้วยวงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เพื่อช่วยให้คนตัวเล็กสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ โดยตั้งเป้าเพิ่มอีก 100 สาขา จากความร่วมมือครั้งนี้

“มีลูกค้าหลายรายมาปรึกษาเราว่าอยากซื้อแฟรนไชส์แต่ไม่มีเงินทุน การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการช่วยกลุ่มคนเปราะบางเหล่านี้ที่เขาไม่มีเงินทุน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการเริ่มต้นธุรกิจได้ ปัจจุบันเรามีแฟรนไชส์อยู่ประมาณ 2,500 สาขา แต่กับพี่เบิ้ม ถ้าทำให้ถึงสัก 100 สาขา ก็น่าจะดีมาก”

แม้จะมีการเติบโตในอัตราเร่งที่ดี แต่การแข่งขันในตลาดก็รุนแรงไม่แพ้กัน ดังนั้น เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโต ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้หน้าร้าน อีกทั้งยังมีแผนแตกแบรนด์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อสร้าง New S-Curve ให้กับบริษัท และยังมีการคอลแลปส์กับแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเร็วๆ นี้ ได้คอลแลปส์กับ “หมูแอนด์มอร์” แบรนด์หมูปิ้งของจิฟฟี่ โดยจะมีร้านไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด วางจำหน่ายคู่กับหมูแอนด์มอร์ ที่สาขาในจิฟฟี่ โดยคาดว่าจบไตรมาส 1 จะมีครบ 70 สาขา

ที่น่าจับตามากไปกว่านั้น คือแผนในระยะยาวที่ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด หมายมั่นปั้นมือว่า ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทมหาชน ด้วยจำนวนสาขาไม่ต่ำกว่า 5,000 สาขา โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจแฟรนไชส์

“อนาคตมีโปรเจกต์ใหญ่ที่จะได้เห็นในปีนี้ ซึ่งน่าจะเพิ่มยอดขายให้หน้าร้านได้มากเลยทีเดียว แต่ขออุบไว้ก่อน มีโอกาสแตกแบรนด์ใหม่ๆ อาจจะไม่ใช่ลูกชิ้นแล้ว ผมมองว่าอยากจะทำเป็นอาหารจานหลัก แต่ยังยึดมั่นในสตรีทฟูด เพราะเราเป็นคนที่ทำให้สตรีทฟูดมีแบรนด์ขึ้นมา ไม่เกินไตรมาส 3 น่าจะได้เห็น ตอนนี้ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิดมีอยู่ทุกจังหวัดแล้ว ต่อไปเราอยากมีทุกอำเภอ ทุกตำบล ถ้าเป็นทุกตลาดได้ก็จะเป็น Final Goal ของเราเลย” สารัช วัฒนกูล ทายาทรุ่นสองแห่งไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด กล่าวทิ้งท้าย.