ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกมิติ ประกาศความสำเร็จ ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป รวมกว่า 56,000 ตร.ม. ร่วมลดการใช้พลังงานของประเทศ พร้อมสร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม
ดร.สุชาย วัชอภัยกุล กรรมการผู้จัดการร่วม กลุ่มงานบริหารทั่วไป ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และ สเปลล์ กล่าวว่า ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ประกาศความสำเร็จในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ “โซลาร์ รูฟท็อป” รวมพื้นที่กว่า 56,000 ตร.ม. รวมจำนวน 14,658 แผง กำลังการผลิตกว่า 5.41 เมกะวัตต์ โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 7.4 ล้านหน่วย (KWH) ต่อปี ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากถึง 27% ของการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางของศูนย์การค้าฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่ผ่านมา พร้อมตอบโจทย์นโยบายด้านความยั่งยืนในทุกมิติขององค์กร ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการสร้างประโยชน์แก่สังคม ด้วยการพัฒนาองค์กรควบคู่การดำเนินธุรกิจที่สร้างคุณค่าและเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงานและดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นเปิดให้บริการ โดยได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา หรือ “โซลาร์ รูฟท็อป” คิดเป็นพื้นที่กว่า 43,000 ตร.ม. ตั้งแตปี 2561 และล่าสุดได้ขยายการติดตั้ง SOLAR ROOFTOP ที่อาคารบิ๊กซี บนพื้นที่กว่า 13,000 ตร.ม. จำนวนแผง 3,636 แผง กำลังการผลิต 1.999 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุน 52 ล้านบาท
ดร.สุชาย กล่าวว่า นอกจากเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคายังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไปสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 7,779 ตันคาร์บอน พร้อมกันนี้ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มในพื้นที่อาคารจอดรถ 9 ชั้น อีกจำนวน 528 แผง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คิดเป็นกำลังการผลิต 322.4 กิโลวัตต์ โดยใช้งบลงทุนอีก 11 ล้านบาท กำหนดเริ่มโครงการปี 2567 และคาดว่าจะสามารถใช้กระแสไฟได้ในปี 2569
นอกจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานสะอาดแล้ว ทางศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ยังยึดมั่นในการลดการใช้พลังงาน โดยหนึ่งในผลงานแห่งความภาคภูมิใจคือการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ Chiller Optimization การควบคุมและกำหนดการทำงานของระบบการทำความเย็นด้วยน้ำเย็นหมุนเวียนที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบ AI เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงาน โดยสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2566 ได้ถึง 6.49 เมกะวัตต์ต่อปี และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 3,650 ตันต่อปี
“ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลังงานของประเทศ ตามปฏิธานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยส่วนรวมเป็นสำคัญ” ดร.สุชาย กล่าวทิ้งท้าย