วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
Home > Cover Story > ทรุ้มพ์ฟ เดินหน้าสู่อนาคต ปักหมุดสร้างโชว์รูมในไทย

ทรุ้มพ์ฟ เดินหน้าสู่อนาคต ปักหมุดสร้างโชว์รูมในไทย

อุตสาหกรรมเหล็กในปีที่ผ่านมาการบริโภคเหล็กประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในงานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน ในปี 2567 มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเหล็กจะมีแนวโน้มเติบโต ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

วิจัยกรุงศรีประเมินว่าในช่วงปี 2567-2569 ภาครัฐมีแนวโน้มเร่งรัดการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเครือข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยปี 2566-2570 ในส่วนของกระทรวงคมนาคมถูกกำหนดไว้ 112 โครงการวงเงินลงทุน 9.8 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นจากค่ายรถยนต์ต่างชาติที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ทั้งหมดน่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กในไทยขยายตัวขึ้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ หรือยอดการบริโภคเหล็กทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 17 ล้านตัน ซึ่งเป็นการคาดการณ์ของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมเหล็กจำเป็นต้องผูกโยงอยู่กับอุตสาหกรรมหรือธุรกิจอื่นๆ ซึ่งหากจะมองว่าอุตสาหกรรมเหล็กแปรรูป คืออุตสาหกรรมปลายน้ำก็คงจะไม่ผิดนัก

แม้การเติบโตของอุตสาหกรรมยังต้องอาศัยการขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมอื่น ทว่า ทรุ้มพ์ฟ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการขึ้นรูป โลหะแผ่น ยังมุ่งมั่นที่จะขยายตัวกรุยทางเพื่อการเติบโตโดยเฉพาะในไทย

ทรุ้มพ์ฟ ดำเนินธุรกิจมา 100 ปีในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรเพื่อการแปรรูปโลหะแผ่น เทคโนโลยีเลเซอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าส่วนใหญ่ของทรุ้มพ์ฟมีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม

แต่การเติบโตที่ผ่านมาของทรุ้มพ์ฟดูจะไม่เพียงพอ การปักหมุดเลือกไทยเป็นโชว์รูมแห่งแรก สร้าง Customer Center ในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบโดยทรุ้มพ์ฟ มีเหตุผลด้านศักยภาพที่ตั้งของประเทศไทย เพื่อหวังสร้างฐานลูกค้าในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น

ฟิลิป เมเยอร์ ผู้บริหารบริษัท ทรุ้มพ์ฟ จำกัด ประจำภาคพื้นเอเชีย ให้ข้อมูลว่า จากการที่อุตสาหกรรมโลหการในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการพัฒนาภาคการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ “ทรุ้มพ์ฟ” (TRUMPF) ในฐานะผู้นำนวัตกรรมที่นำเสนอโซลูชันด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับเครื่องจักรเพื่อการแปรรูปโลหะแผ่น เทคโนโลยีเลเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรม 4.0

เรามีความภูมิใจที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมที่ผลักดันเทคโนโลยีสู่โลกอนาคต เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ผลักดันอุตสาหกรรมไปข้างหน้าในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้เป็นจริง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย และกำลังเป็นที่จับตามอง ได้แก่ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ควอนตัมเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อโลกเข้ากับมนุษย์ และเทคโนโลยีโรงงานอัจฉริยะที่มีความยั่งยืน หรือ Smart Factory

ในวาระพิเศษครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท ทรุ้มพ์ฟ ผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องจักรงานแปรรูปโลหะแผ่นและท่อโลหะ พัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่เหมาะกับยุคสมัยในปัจจุบัน และอนาคตอย่างหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

ทรุ้มพ์ฟ เริ่มเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2017 มี เดชา เลิศวิไลศักดิ์ นั่งตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ทรุ้มพ์ฟ ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ โดยปักหมุดตั้งโชว์รูมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อพิจารณาด้านศักยภาพการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม

“ทรุ้มพ์ฟ บริษัทแม่จากเยอรมนีมองว่าไทยมีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง เราจึงเป็นโชว์รูมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เลือกเปิดให้บริการขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่สำคัญในภูมิภาคนี้

Customer Center แห่งแรกในอาเซียนนี้ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมเครื่องจักรที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น รองรับความต้องการของผู้ประกอบการได้หลากหลายอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันมีเครื่องจักรอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทที่จัดแสดงที่ Customer Center นี้ เช่น เครื่องตัดเลเซอร์สำหรับโลหะแผ่น, เครื่องพับแผ่นโลหะ, เครื่องเจาะโลหะ, เครื่องเชื่อมโลหะ, และโซลูชัน Smart Factory ทั้งนี้ ด้วยแนวคิดของทรุ้มพ์ฟ เราเล็งเห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันทรุ้มพ์ฟคิดค้นและสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อขยายฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น โดยมีกลุ่มเครื่องจักรชนิดเริ่มต้น New Entry Level Machines สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดปานกลางที่ต้องการนำเทคโนโลยีขั้นสูงไปใช้กับอุตสาหกรรมของตน”

Customer Center ทำหน้าที่เป็นโชว์รูมให้ลูกค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใกล้ๆ สามารถเข้ามาศึกษาดูรายละเอียดเครื่องจักรของทรุ้มพ์ฟ แต่การส่งออกเป็นหน้าที่ของบริษัทแม่

“เราไม่ได้ส่งออกไปยังต่างประเทศ เพราะฐานการผลิตเครื่องจักรอยู่ที่เยอรมนีและจีน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่รับจ้างผลิต หรือโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับใช้ในธุรกิจของตัวเอง โดยผลประกอบการในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท”

ปีนี้ เดชาตั้งเป้าการเติบโตของทรุ้มพ์ฟ ประเทศไทยไว้ที่ตัวเลขสองหลัก เมื่อเห็นว่าอุตสาหกรรมไทยยังมีทิศทางการขยายตัวที่ดี หากพิจารณาจากปัจจัยรอบด้าน

“เราตั้งเป้าว่าในปีนี้เราจะเติบโต 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากมองภาพรวมของจีดีพีไทยในปัจจุบันยังไม่สูงมากนัก แม้ว่าในภาคอุตสาหกรรมไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการที่มีนักลงทุนเริ่มเข้ามา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ถ้าภาครัฐมีการสนับสนุนการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงประเด็นเรื่องค่าแรงที่นักลงทุนอาจจะยังมีความกังวลพอสมควร ทั้งนี้ หากภาคอุตสาหกรรมไม่มีปัจจัยลบที่เข้ามากระทบหรือแทรกแซง เราน่าจะเข้าใกล้เป้าหมายที่เราตั้งไว้”

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้มีคู่แข่งอยู่ในตลาดไม่น้อย และทรุ้มพ์ฟเองอาจเสียเปรียบในด้านราคาที่สูงกว่าคู่แข่งรายอื่นในตลาด แต่เดชามองว่า “ทรุ้มพ์ฟคงไม่ลงไปเล่นในราคาตลาด เพราะนั่นไม่ใช่จุดยืนและนโยบายของเรา ที่มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนา โดยเฉพาะด้านนวัตกรรมที่เรามีการพัฒนาต่อเนื่อง ลูกค้าจะเห็นได้ถึงความแตกต่างของชิ้นงานที่ผ่านเครื่องจักรของเรา ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้าในการผลิตชิ้นงานป้อนโรงงานอุตสาหกรรมแน่นอน”

ล่าสุด เดชา เปิดเผยถึงนวัตกรรมโซลูชันสำหรับเครื่องจักรรุ่นใหม่ล่าสุด 24kW Laser ว่าเป็นนวัตกรรมเครื่องตัดเลเซอร์ ขนาด 24 กิโลวัตต์ เครื่องตัดเลเซอร์ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เร็วขึ้น 3 เท่า และมั่นใจว่าทรุ้มพ์ฟจะได้รับการตอบรับจากภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี และจะสามารถสร้างยอดจำหน่ายในไทยได้สูงไม่แพ้ที่ผ่านมา.