วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
Home > Cover Story > จากอากงห้างทอง “จูเจียบเซ้ง” สู่ทายาทรุ่น 3 อินเตอร์โกลด์

จากอากงห้างทอง “จูเจียบเซ้ง” สู่ทายาทรุ่น 3 อินเตอร์โกลด์

“อากงเคยบอกกับลูกค้าคนหนึ่งให้เก็บทองคำไว้ อีกหลายๆ ปีจะมีมูลค่ามหาศาล พูดในสมัยทองราคาสองสามร้อยบาท วันนั้นไม่มีใครเชื่อ วันนี้ขึ้นไปเป็นหลักหมื่น อากงเห็นเทรนด์ตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ”

ธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด เล่าถึงอากง นายเจียบ แซ่จู ผู้ก่อตั้งห้างเพชรทอง จูเจียบเซ้ง บนถนนเยาวราชเมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว ก่อนสืบทอดขยายกิจการมาถึงทายาทรุ่นที่ 3

เขาเล่าว่า อากงเป็นรุ่นลูกชาวจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบ ใช้ชีวิตลำบาก ไม่ได้มีเงินทุนเปิดร้านทองทันที แต่เริ่มต้นแบบคนรุ่น 70 กว่าปีก่อน ทำกิจการค้าขายทุกอย่าง ตั้งแต่ซ่อมรองเท้า ขายของตามคลองถม สำเพ็ง และนิสัยคนจีนสมัยก่อนประหยัดเก็บออม อากงคงเห็นแนวโน้มราคาทองเพิ่มสูงขึ้น จึงซื้อสะสมเรื่อยๆ ซึ่งสมัยนั้นราคาทองถูกมาก บาทละหลักสิบหลักร้อย จนสามารถเปิดร้านทองได้

ปี 2499 อากงเจียบเปิดห้างทอง จูเจียบเซ้ง เป็นร้านทองร้านแรกๆ ของประเทศในย่านเยาวราช แต่เป็นกิจการขายส่งให้ร้านทองตามต่างจังหวัด โดยถือเป็นร้านค้าส่งรุ่นแรกๆ ของประเทศไทย สามารถคุมตลาดขายส่งทองเกือบทั้งประเทศ ซึ่งอากงเจียบยังเป็นหนึ่งในกลุ่มคนกำหนดราคาซื้อขายของสมาคมค้าทองคำรุ่นแรกๆ ด้วย

“จูเจียบเซ้งเติบโตต่อเนื่อง แต่คนภายนอกที่ไม่ใช่คนในวงการทองจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ เพราะเป็นการทำธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) ร้านทองขายให้ร้านทอง เพื่อนำไปขายต่อให้ลูกค้ารายย่อย เราไม่ได้รับลูกค้าร้านปลีก ณ ตอนนั้น และคุณพ่อผมมารับช่วงต่อจนมาถึงรุ่นผม”

อย่างไรก็ตาม ธีรรัฐไม่ได้เข้ามาทำกิจการค้าทองคำทันที พอเรียนจบคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน  ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นขอหาประสบการณ์การทำงานก่อน โดยเริ่มงานแรกที่บริษัท ทีเอ ออเรนจ์ ก่อนออกจากบริษัท ออเรนจ์ ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นบริษัท ทรูมูฟ ย้ายไปอยู่บริษัท ยูนิลีเวอร์ ดูแลแบรนด์ไอศกรีมวอลล์ จนถึงปี 2551 จึงตัดสินใจมาช่วยธุรกิจครอบครัวที่ห้างทองจูเจียบเซ้ง

เวลานั้นเองที่เขาเริ่มเห็นโอกาสการทำธุรกิจทองคำเพื่อการลงทุน

“เมื่อก่อน ผมทำงานบริษัท คอนซูเมอร์โปรดักส์ พอออกมาช่วยงานร้านทองจูเจียบเซ้ง ซึ่งเป็นร้านขายส่งทองรูปพรรณ สร้อย แหวน ผมรู้สึกว่า คนใส่ทองรูปพรรณน้อยลงเรื่อยๆ คุยกับเพื่อนฝูงไม่ค่อยมีเพื่อนใส่กัน แต่หลายคนหันมาใช้ทองในการลงทุนและเก็งกำไรมากขึ้น ผมทดลองทำทองแท่งในร้านจูเจียบเซ้ง ปรากฏว่า ลูกค้าตอบรับดีมาก เพราะคุณสมบัติของทองแท่งดีกว่าทองรูปพรรณ ตรงที่เวลาซื้อขายไม่มีค่ากำเหน็จ ซื้อตามราคาประกาศของสมาคมฯ ต่างกับทองรูปพรรณถูกคิดค่ากำเหน็จทั้งเวลาซื้อและขายคืน ส่วนการขายทองแท่งไม่โดนหัก หรือถ้าหักจะน้อยมาก”

สมมุติลูกค้าซื้อทองรูปพรรณ ตอนซื้อโดนคิดค่ากำเหน็จ 1,000 บาท ตอนขายโดนหักอีก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท การซื้อทองรูปพรรณจึงได้กำไรยาก เช่น เวลานี้ ราคาทองคำเฉลี่ยประมาณ 34,000 บาท ถ้าซื้อทองรูปพรรณต้องซื้อประมาณ 35,000 บาท เวลาขายกลับได้แค่ 33,000 บาท เพราะถูกหักค่าหลอมหรือค่ากำเหน็จ แต่ทองคำแท่งซื้อ 34,000 บาท ขายคืนได้ราคา 34,000 บาท อาจลดไปเพียง 50 หรือ 100 บาทแล้วแต่ร้าน ซึ่งเหมาะสมกับการทำกำไร

ขณะที่การหวังผลกำไรจากทองรูปพรรณ ลูกค้าต้องถือเก็บไว้นานหลายปีกว่าราคาจะขึ้น 1,000-2,000 บาท แต่ทองคำแท่งอาจเป็นสัปดาห์หน้าหรือเดือนหน้า ทำกำไรได้แล้ว

“เวลานั้นยังไม่มีใครทำ ผมเริ่มทำ แต่ยังเป็นการขายแบบ B2B ขายให้ร้านทอง ขายดีมาก ทำยอดขายเกือบแซงยอดขายทองรูปพรรณ ผมเลยออกมาทำจริงจัง เปิดบริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด ปี 2554 ลุยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากก่อนหน้าต้องซื้อวัตถุดิบจากซัปพลายเออร์ในประเทศ เปลี่ยนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศเอง จากสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และส่งออกเองด้วย เวลาลูกค้าขายเยอะ บริษัทจะส่งออกไปเหมืองในสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย”

ในช่วงแรก บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด ยังเน้นจับกลุ่มลูกค้า B2B เพราะถนัดทำธุรกิจกับลูกค้าร้านทองตั้งแต่อยู่กับจูเจียบเซ้ง ผลตอบรับดี ยอดขายเติบโตทุกปี 30-50% บางปีเติบโตก้าวกระโดด 100%

กระทั่งเกิดสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด มีลูกค้ารายย่อยเดินเข้ามาหาบริษัทจำนวนมาก ให้เปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง แต่อินเตอร์โกลด์ฯ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าหลักหมื่นหลักแสนคน แต่เน้น B2B รองรับลูกค้าร้านทองทั่วประเทศหลักพันบริษัทเท่านั้น แต่วอลุ่มเยอะ ต่างจากลูกค้ารายย่อย วอลุ่มต่อคนไม่มาก แต่จำนวนเยอะมาก

“จู่ๆ ลูกค้ารายย่อยหลั่งไหลเข้ามา มีช่วงหนึ่งต้องตัดสินใจไม่รับเพราะทำไม่ไหว เยอะเกินไป แต่มาคิดว่า 1. เสียโอกาสทางธุรกิจ และ 2. เขาเป็นประชาชนที่สามารถเข้าถึงทองคำ ไม่ว่าจะมีเงินเยอะหรือน้อย การเข้าถึงทองคำดีกว่าการฝากธนาคาร หรือลงทุนหุ้นที่อาจมีความเสี่ยง เป็นที่มาของการเปิดนวัตกรรมใหม่ Gold2Go รองรับรายย่อย”

ทั้งนี้ โกลด์ทูโก พุ่งเป้าตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อยที่สนใจอยากเริ่มต้นซื้อขาย หรือทดลองออมทองคำ แบบเปิดกว้าง เรียกว่า “24/7” คือ ซื้อขายออมได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท ไม่ต้องวางหลักประกันเพื่อล็อกราคาทอง มีระบบดีลิเวอรีส่งไปรษณีย์ EMS เพื่อส่งทองแบบมีประกันหรือจะฝากทองไว้เพื่อขายในอนาคต ทุกอย่างจบในแอปเดียว

“เซอร์วิสของเราพยายามครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม  คนวัยเจนวาย เจนแซด หรือเด็กกว่านี้ อยากได้อะไรที่ทันสมัย ออนไลน์ จัดการได้ด้วยตัวเองได้ คุณสามารถเข้าแอป กดโอนเงินจากธนาคารเข้ามาซื้อ ถอนเงิน ซื้อทอง ทำทุกอย่างผ่านนิ้วได้ หรือขายเอาเงินกลับธนาคาร แม้กระทั่งอยากลูบๆ หน่อย สามารถกดสั่งส่งผ่าน EMS มีประกัน ทองหาย ใช้คืนให้ อยากเก็บทองไว้ที่บ้าน โชว์ทองสะสม ทุกอย่างทำได้ด้วยแอป หรือคนอายุเยอะหน่อย ไม่ค่อยถนัด เรามีเซอร์วิสคอลเซ็นเตอร์ อธิบายหรือแก้ปัญหา ครบหมด”

ที่สำคัญ การกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท เพื่อเข้าถึงรายย่อยให้ได้มากที่สุด ชนิดที่ว่า คนเงินเดือน 10,000 บาท มีสิทธิ์ซื้อทองคำได้ ยิ่งสถานการณ์ล่าสุด ราคาทองแพงขึ้นต่อเนื่อง หากซื้อขั้นต่ำ 1 บาท ต้องใช้เงินมากกว่า 30,000 บาท ขณะที่เงินเดือน หรือรายได้ของผู้คนปรับขึ้นน้อย ทำให้บริษัทต้องตอบโจทย์รายย่อยแบบครบวงจรมากที่สุด

ภาพจากเว็บไซต์ www.intergold.co.th

ธีรรัฐย้ำว่า โกลด์ทูโกตอบโจทย์รายย่อยมากกว่าทุกเจ้า โดยเฉพาะการให้ลูกค้าเลือกออมทองตามกำลังเงิน ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี สามารถขอพักการส่งเงินได้ ไม่บังคับจ่ายทุกเดือน ซึ่งเป็นผลจากการวิจัยตลาดในกลุ่มร้านทองที่มีบริการออมทอง ส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขต้องจ่ายทุกเดือน หากไม่ส่งมักมีบทลงโทษคิดค่าปรับ หรือหักเงิน

นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถสร้างกำไรจากการสะสมทองได้ตลอดเวลา เช่น สะสมทองได้แล้ว 50 สตางค์ อยากเก็บให้ได้ 1 บาท แต่เศรษฐกิจไม่ดีและจำเป็นต้องใช้เงิน ลูกค้าสามารถขายได้ทันที ซึ่งราคาวันนั้นอาจสูงกว่าวันซื้อ ระบบสามารถเปลี่ยนจากทองเป็นเงินได้เลย

“ผมเชื่อ ร้อยหนึ่งของแต่ละคนไม่เท่ากัน การลงทุนทองคำได้กำไรปีหนึ่ง 1,000 บาทสำหรับบางคน เป็นมูลค่าสูงมาก”

ทายาทรุ่น 3 จูเจียบเซ้ง ทิ้งท้ายกับ “ผู้จัดการ360” ว่า บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจาก อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรดแล้ว เขายังเปิดบริษัท ทองธารารีเทล รองรับลูกค้า B2B แบบ One Stop Service  รับซื้อทองเก่า ทองรูปพรรณ จากร้านทองทั่วประเทศ เป็นเซอร์วิสใหม่ที่ได้ผลตอบรับดี เพราะบริษัทมีฐานลูกค้าแน่นมาก คิดง่ายๆ ร้านทองทั่วประเทศ 7,000 กว่าร้าน เป็นลูกค้าของเครือแล้ว 3,000กว่าร้าน

ส่วนห้างทองจูเจียบเซ้ง ซึ่งมีพี่ชายดูแล ยังคงทำ B2B ตามแนวทางอากงเจียบจนถึงปัจจุบัน.