ในช่วงหลังมา เราจะได้ยินคำว่า ความยั่งยืน หรือ Sustainability ในการทำธุรกิจบ่อยขึ้นในหลายๆ แวดวง เพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นอีกหนึ่งวาระเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดัน
ล่าสุด ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ออกมาตอกย้ำจุดยืนด้านความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมไทย เพื่อ “ปลดล็อคพลังแห่งเสื้อผ้า” ด้วยการประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะกลาง ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 ต่อยอดจากความคิดริเริ่มสู่แคมเปญที่ลงมือทำจริง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย กับแคมเปญ RE.UNIQLO บริจาคเสื้อกันหนาว 50,000 ตัว เพื่อช่วยชีวิตผู้ประสบภัยหนาวในไทย พร้อมดึง ญาญ่า-อุรัสยา แบรนด์พรีเซนเตอร์ ร่วมโปรโมต
มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะหนึ่งในบริษัทเครื่องแต่งกายชั้นนำระดับโลก ยูนิโคล่ให้ความสำคัญกับผู้คน สังคม และโลก ในฐานะ Global Citizen ที่ดี ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะตอบสนองสังคมระดับท้องถิ่น เราจึงได้วางเป้าหมายระยะกลางของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 เพื่อผลักดันให้ความคิดริเริ่มต่างๆ ของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”
โดยเป้าหมายระยะกลางของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 มุ่งสู่ “บริษัทร่วมทุนที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย”
เป้าหมายด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้รับการประเมินว่าเป็นไปตามแผนของการพัฒนาสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือย่อว่า SDGs) ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยเน้นเป้าหมายที่ 3 – สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย, เป้าหมายที่ 14 – อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ เป้าหมายที่ 15 – ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
กิจกรรมเพื่อบรรลุสู่เป้าหมาย: ความคิดริเริ่มหลักในปี 2565 – 2566
ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ร่วมส่งเสริมชุมชน สนับสนุนสังคมผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ
- การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (IREC) ทั้งร้านสาขา และ สำนักงานใหญ่
- การช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น การบริจาคเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่จ.อุบล ในปี 2565 เหตุการณ์โกดังเก็บพลุระเบิดที่ อ. สุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส และ การบริจาคหน้ากากอนามัยในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา
- สนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันการเก็บขยะ SPOGOMI World Cup
- UNIQLO Recycling Clothes Donation ภายใต้โครงการ RE.UNIQLO
- แผนงานความร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ด้านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดภาวะโลกร้อนกจากก๊าซเรือนกระจก
- เพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน
RE.UNIQLO โครงการสู่ความยั่งยืน
โครงการ RE.UNIQLO เป็นหนึ่งในโครงการด้านความยั่งยืน โดยมีจุดประสงค์ที่จะส่งต่อเสื้อผ้าใช้แล้วที่ยังอยู่ในสภาพดีให้แก่ผู้ที่ต้องการ โดยเสื้อผ้าจากการบริจาคของลูกค้าจะถูกรวบรวม คัดแยก แบ่งเป็นประเภทก่อนนำไปส่งต่อ ส่วนเสื้อผ้าที่ไม่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้ จะถูกรีไซเคิลเป็นเชื้อเพลิง
โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ UNIQLO Recycling Clothes Donation ในปี 2558 ปัจจุบัน ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ส่งต่อเสื้อผ้าที่ได้รวบรวมจากลูกค้าทั่วประเทศมากกว่า 194,273 ชิ้น ให้กับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ในระดับท้องถิ่น
ซึ่ง ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้เล็งเห็นถึงปัญหาในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของจำนวนเสื้อผ้าที่กลายเป็นขยะฝังกลบในประเทศไทย และการขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาวของผู้ประสบภัยหนาวทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อากาศบนดอยหนาวเย็นกว่าปกติ และทุกปียังมีผู้ที่ต้องเสียชีวิตจากภัยหนาวเพราะเสื้อผ้าที่มีไม่อบอุ่นพออีกด้วย
ดังนั้น ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จึงได้สานต่อโครงการ RE.UNIQLO จัดกิจกรรมรับบริจาคและส่งต่อเสื้อกันหนาวจำนวน 50,000 ชิ้น เพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัยหนาวจาก 3 องค์กร อย่างมูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ที่จะเป็นตัวแทนส่งมอบเสื้อหนาวที่ได้รับการบริจาคจากยูนิโคล่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 โดยดึง ญาญ่า – อุรัสยา แบรนด์พรีเซนเตอร์ของยูนิโคล่มาร่วมโปรโมตแคมเปญ
สำหรับแคมเปญบริจาคเสื้อกันหนาวนี้ ผู้สนใจสามารถนำสินค้าแบรนด์ใดก็ได้มาบริจาค ขอเพียงเป็นเสื้อกันหนาวหรือเสื้อแขนยาวทั้งผ้าบางและผ้าหนาวที่ยังมีสภาพดี โดยสามารถบรินาคได้ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา
ยิ่งไปกว่านั้น ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัว RE.UNIQLO STUDIO เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ Repair/Remake/ Reuse/Recycle เพื่อเป็นการนำเสื้อผ้ากลับมาซ่อมแซมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ต่ออายุการใช้งาน และนำไอเทมโปรดกลับมาใช้หมุนเวียนอีกครั้ง
โดย RE.UNIQLO STUDIO จะเปิดให้บริการที่ร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาแรกในประเทศไทย และเป็นสาขาที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีการนำเทคนิคการตัดเย็บด้วยมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือ ที่เรียกว่า Sashiko มาให้บริการด้วยเช่นกัน
“ยูนิโคล่ ยังคงเดินหน้ากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการทำให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนไทยดียิ่งขึ้น เพราะผลลัพธ์ที่เราลงมือทำนั้นมีทั้งที่เห็นผลเลยในระยะสั้น และต้องรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ให้คำมั่นว่าเราจะยืนหยัดกิจกรรมด้านความยั่งยืนพร้อมลงมือทำจริง เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ไปด้วยกัน” มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ กล่าวสรุป