วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Home > Cover Story > MAJOR เร่งเป้าหมาย1พันโรง ทุ่ม “ไอแมกซ์” รับหนังฟอร์มยักษ์

MAJOR เร่งเป้าหมาย1พันโรง ทุ่ม “ไอแมกซ์” รับหนังฟอร์มยักษ์

วิชา พูลวรลักษณ์ กำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่เคยประกาศไว้เมื่อปี 2557 ครั้งฉลองอาณาจักรเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ครบรอบ 20 ปี ก่อนก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งตัวเลขการขยายโรงภาพยนตร์ครบ 1,000 โรง และยุทธศาสตร์ระยะยาว ผุดโรงภาพยนตร์ในทุกจังหวัดของประเทศไทย หลังถูกวิกฤตโควิดรุมเร้านานกว่า 3 ปี

เฉพาะปี 2566 บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) วางแผนปูพรมโรงภาพยนตร์มากที่สุด 13 สาขา 49 โรง งบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่นับจากโควิดคลี่คลาย รวมถึงขยายสาขาโบว์ลิ่ง 3 สาขา 40 เลน และคาราโอเกะ 30 ห้อง จากปัจจุบันมีสาขาโรงภาพยนตร์ ณ สิ้นปี 2565 รวม 180 สาขา 839 โรง อยู่ในประเทศ 172 สาขา 800 โรง แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44 สาขา 346 โรง สาขาในต่างจังหวัด 128 สาขา 454 โรง

ส่วนในต่างประเทศมี 8 สาขา 39 โรง 8,449 ที่นั่ง โดยอยู่ในประเทศลาว 3 สาขา 13 โรง และกัมพูชา 5 สาขา 26 โรง

ขณะเดียวกัน เร่งเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ “MAJOR 5.0” แข่งขันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะวิดีโอสตรีมมิ่ง (Video Streaming) ที่ยังคงมาแรง ทั้งค่ายใหญ่ Netflix, iflix, Amazon Prime ทั้งแบบฟรีและคิดค่าบริการแบบรายเดือน โดยผู้ชมสามารถรับชมวิดีโอหรือเพลงบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมๆ กับเพิ่มบริการระดับพรีเมียม เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ใหม่สไตล์บูทีค ขยายฐานลูกค้าเอ็กซ์คลูซีฟ กลุ่มกำลังซื้อสูง กลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นความแตกต่างเหนือกว่าการดูผ่านทีวีและมือถือ

ล่าสุด เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ประกาศแผนความร่วมมือกับ IMAX Corporation ทุ่มทุนอัปเกรดโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ให้ครบทุกสาขา หลังนำร่องระบบการฉาย IMAX with Laser ที่โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ 3 สาขา คือ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ไอคอน ซีเนคอนิค และ เมกา ซีนีเพล็กซ์ เมื่อเดือนธันวาคม 2565  โดยประเดิมฉาย Avatar : The Way of  Water จนเกิดปรากฏการณ์ IMAX with Laser ฟีเวอร์ ลูกค้าแห่จองตั๋วเต็มโรงไอแมกซ์ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการและจองตั๋วล่วงหน้าข้ามสัปดาห์ เกิดสถิติผู้ชมล้นในโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์นานมากกว่า 1 เดือน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยากนับตั้งแต่การเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อปี 2541

สำหรับแผนความร่วมมือนับจากปี 2566-2568 จะอัปเกรดระบบการฉายไอแมกซ์จากระบบดิจิทัลเป็นระบบเลเซอร์ 5 สาขา และขยายสาขาโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์แห่งใหม่อีก 5 สาขา ทำให้ภายในปี 2568 จะมีโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ ในระบบฉาย “IMAX with Laser” รวม 13 สาขา

ขณะที่ปีนี้มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายในโรงไอแมกซ์อย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมามีหนังฟอร์มยักษ์ ทั้ง Ant-man and the wasp : Quantumania, Shazam! Fury of the gods และหนังในตำนาน TITANIC ซึ่งนำกลับมาฉายใหม่ในรูปแบบ IMAX with Laser 3D สร้างสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% มาจากโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ และมีหนังอีกหลายเรื่องเตรียมเข้าฉายในปี 2566

เช่น Guardians of the Galaxy Vol.3, Mission, Fast X, The Little Mermaid, Impossible-Dead Reckoning Part One, Transformers : Rise of the Beasts, The Flash, Oppenheimer, Indiana Jones and the Dial of Destiny, Blue Beetle, The Marvels, Dune : Part Two และ Aquaman and the Lost Kingdom

ปัจจุบันเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ 8 สาขา เป็นสาขาในประเทศ 7 สาขา และอยู่ในกัมพูชา 1 สาขา ซึ่งตามแผนปี 2566 จะอัปเกรดระบบฉายใหม่ IMAX with Laser ที่ไอแมกซ์ สาขาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และควอเทียร์ ซีเนอาร์ต พร้อมเปิดโรงใหม่ที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย ภายในไตรมาส 4

ปี 2567 อัปเกรดไอแมกซ์ สาขาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่

ปี 2568 อัปเกรดไอแมกซ์ สาขาเวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์ และ Aeon Mall Sen Sok City ประเทศกัมพูชา พร้อมขยายสาขาไอแมกซ์อีก 4 สาขา ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ ๆ เมืองท่องเที่ยว

ต้องยอมรับว่า เมเจอร์ฯ เร่งสร้างโรงหนังที่มีความพิเศษทั้งด้านเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ เพราะต้องการยึดทั้งตลาดแมสและขยายฐานนิชมาร์เก็ต กลุ่มเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น การเปิดตัวโรงภาพยนตร์ ScreenX ใหญ่ที่สุดในไทย ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ มีมุมมองการรับชมภาพกว้างมากขึ้นถึง 270 องศา 3 จอขนาดยักษ์ให้ภาพกว้างรวมกัน 55 เมตร และเป็นโรงภาพยนตร์แบบแรกของโลกที่ใช้ระบบการฉาย 3 ทิศทาง ด้วยเครื่องฉายหลายตัว รองรับผู้ชมมากถึง 293 ที่นั่ง

การเปิดตัวโรงภาพยนตร์เด็ก โดยประเดิมสาขาแรกที่เมกาซีนีเพล็กซ์เมื่อปี 2561 เพื่อเจาะกลุ่มเด็กอายุ 5-12 ปี ออกมาดูหนังชนิดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งดูหนัง ทั้งสนุกกับเครื่องเล่น Playland บ่อลูกบอลหลากสีสัน และสไลเดอร์ รวมทั้งสามารถใช้เป็นสถานที่จัดอีเวนต์ต่างๆ เช่น กิจกรรมประกวดร้องเพลง เต้น วาดภาพ แฟชั่นโชว์ โดยล่าสุดเปิดให้บริการ 13 สาขา

การผุดแนวคิดใหม่สร้างโรงภาพยนตร์ Esports ที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ภายใต้ชื่อ “Dell Gaming Esports Cinema” เพื่อให้บริการลูกค้าที่สนใจใช้บริการโรงภาพยนตร์ Esports แบบครบวงจร โดยมีอัตราค่าบริการตามความต้องการของลูกค้า ทั้งอัตราราคาเหมาทั้งวัน 2 แสนบาท และราคาเหมาครึ่งวัน 1 แสนบาท รวมอุปกรณ์ทุกอย่างและอินเทอร์เน็ต

เร็วๆ นี้ บริษัทเตรียมเปิด i-Tail PET CINEMA โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมว แห่งแรกของประเทศไทย โดยดึงบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในเครือไทยยูเนี่ยน ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์หลัก ประเดิม 3 สาขาแรก คือ เมกา ซีนีเพล็กซ์, อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ และเมเจอร์ ซีนีมา โรบินสันราชพฤกษ์ ในไตรมาส 2 ของปี 2566

ทั้งนี้ หากพลิกดูรายงานประจำปี 2565 ของเมเจอร์กรุ๊ป บริษัทประเมินธุรกิจโรงภาพยนตร์ยังมีศักยภาพการเติบโตตามตัวชี้ (Indicator) จำนวนประชากรต่อโรง (Population Per Screen) ซึ่งพบว่า ประชากรในประเทศไทยจำนวนกว่า 70 ล้านคน มีอัตราเฉลี่ยจำนวนประชากรต่อโรงภาพยนตร์ทั้งหมดประมาณ 1,300 โรง อยู่ที่ระดับประมาณ 54,000 คนต่อโรง ระดับราคาตั๋วเฉลี่ย (Average ticket price) ประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อเทียบกับตัวเลขของประเทศเกาหลีใต้ มีจำนวนประชากรประมาณ 51 ล้านคน เฉลี่ยจำนวนประชากรต่อโรงภาพยนตร์ทั้งหมด ประมาณ 3,173 โรง อยู่ที่ระดับ 17,000 คนต่อโรง ระดับราคาตั๋วเฉลี่ย 7 ดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีจำนวนโรงภาพยนตร์น้อยกว่าจำนวนประชากร (Under Screen)

ที่สำคัญ จำนวนภาพยนตร์ที่ผลิตออกมาและรอเข้าฉายในโรงภาพยนตร์รอบแรกมากกว่าจำนวนโรงภาพยนตร์ ทำให้ภาพยนตร์แต่ละเรื่องมีระยะเวลาการเข้าฉายและจำนวนรอบฉายในอัตราจำกัด เฉลี่ย 2-3 สัปดาห์ ซึ่งระยะเวลาการฉายและจำนวนรอบฉายยังขึ้นอยู่กับความนิยมของภาพยนตร์แต่ละเรื่องด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าวัดส่วนแบ่งตลาดกับคู่แข่ง ค่ายเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีส่วนแบ่งตลาด 70% ส่วนที่เหลือเป็นของโรงภาพยนตร์รายอื่นหลายราย โดยวัดจากยอดขายตั๋วภาพยนตร์แต่ละเรื่องเฉพาะในรอบสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย

นั่นทำให้เจ้าพ่อเมืองหนัง “วิชา พูลวรลักษณ์” ยังคงมุ่งมั่นผุดโรงภาพยนตร์เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากร อย่างน้อย 30-40 โรงต่อปี เพื่อครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศและรักษาส่วนแบ่งให้ได้มากที่สุดด้วย.