สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล หรือคุณแพม เข้ามาบริหารงานบริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะเจน 2 นานกว่า 8 ปี งัดกลยุทธ์ พร้อมๆ กับการปรับโครงสร้างผสมผสานแนวคิดระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่จนเป็นที่ยอมรับ และล่าสุดประกาศเปิดตัวบริษัท เอส อาร์ ที ฟอเร๊กซ์ (SRT Forex) ตั้งเป้าปลุกปั้นแบรนด์ OH! Rich แจ้งเกิดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน
ด้านหนึ่งเป็นการสร้าง DNA ใหม่ รองรับการขยายฐานตลาด อีกด้านหนึ่งเปิดเกมสร้างความแตกต่างของแบรนด์ซุปเปอร์ริชที่ยังซ้ำซ้อนกัน เพียงแต่ใช้สีต่างกัน
ซุปเปอร์ริชของตระกูล “สุสมาวัตนะกุล” ใช้สีเขียว ขณะที่อีกค่าย “ซุปเปอร์ริช 1965” ใช้สีส้ม
จะว่าไปแล้ว ซุปเปอร์ริชในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศล้วนมีต้นกำเนิดจากครอบครัวเดียวกัน โดย วิบูลย์ ตันติเวชยานนท์ เริ่มทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินเมื่อปี 2508 ใช้ชื่อว่าร้านจิตรพาณิชย์ แต่กิจการช่วงแรกประสบปัญหาและถูกโจรปล้นซ้ำอีก
วิบูลย์และภรรยาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น Superrich และใช้สีส้มเป็นสีหลักของกิจการ เพราะเป็นสีมงคล แถมส้มถือเป็นผลไม้มงคล เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย หลังจากนั้นกิจการขยายเติบโต แต่ต่อมาสมาชิกกงสีเริ่มมีแนวนโยบายการบริหารธุรกิจแตกต่างกัน
ในที่สุด อภิชัย สุสมาวัตนะกุล น้องภรรยาของวิบูลย์ ตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดบริษัทรับแลกเงินของตัวเอง และเป็นจุดเริ่มต้นของ Superrich Thailand โดยเลือกใช้สีเขียวเป็นสีหลักของแบรนด์
อีกไม่กี่ปีต่อมา ลดาวัลย์ สุสมากุลวงศ์ น้องอีกคนของภรรยานายวิบูลย์ และเป็นพี่สาวของอภิชัย แยกออกมาตั้งกิจการรับแลกเงินอีกแห่ง ใช้ชื่อ Grand Superrich ใช้สีฟ้าเป็นสีหลักของแบรนด์
สำหรับอภิชัย คุณพ่อของคุณแพม ทำงานหนักลุยสร้างอาณาจักรซุปเปอร์ริชสีเขียว เปิดสาขารวมทั้งสิ้น 11 สาขา ในเขตย่านธุรกิจใจกลางเมือง ย่านท่องเที่ยว ศูนย์การค้าชั้นนำ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้แก่ สาขาสำนักงานใหญ่ราชดำริ ซอย 1, วิภาวดี ซอย 22, ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, อาคารจิวเวลรี่เทรดเซ็นเตอร์, ท่ามหาราช, สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี, ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต, เซ็นทรัล พระราม 9 และสาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน
กระทั่งปี 2559 อภิชัยวางแผนเปิดแนวรุกด้านธุรกิจครั้งใหญ่ รองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาครัฐ รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติเดินทางหลั่งไหลเข้าประเทศไทยมากขึ้น ทั้งการเข้ามาศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาชั้นนำ การทำธุรกิจ การลงทุนและการอยู่อาศัย
เขาตัดสินใจดึงลูกสาว 2 คน เข้ามาบริหารงานซุปเปอร์ริช เพื่อเสริมแนวคิดคนรุ่นใหม่ สร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยให้ลูกสาวคนโต ธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาองค์กร และลูกสาวคนรอง สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ
ทั้งสองสาวเดินหน้าพัฒนาระบบการทำงานให้ทันสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า มีรูปแบบแตกต่างจากคู่แข่ง และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยเฉพาะการชูคอนเซ็ปต์ใหม่ Superrich Life การแลกเงินที่มีความน่าเชื่อถือ ภายใต้หลักการ 3 ข้อ คือ Trustworthy, Caring และ Kind เติมเต็มชีวิตของลูกค้าให้มีความหมายยิ่งขึ้น เน้นบริการที่มีมากกว่าร้านแลกเงินอื่นๆ อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด บริการที่ดีที่สุด และรูปแบบการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง
แน่นอนว่า การก้าวเข้ามาของเจน 2 ในเวลานั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนขององค์กรและแบรนด์ Superrich โดยเฉพาะการเพิ่มเสน่ห์โดนใจกลุ่มเป้าหมายและสร้างการรับรู้ถึงมูลค่าที่มีมากขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด
เช่น ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ส่วนต่างที่ได้รับสามารถเพิ่มแรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ถ้าเป็นนักเดินทาง ส่วนต่างสามารถเพิ่มเส้นทางการท่องเที่ยว
ถ้าเป็นนักลงทุน ส่วนต่างคือผลกำไรเพื่อสร้างโบนัสในการใช้ชีวิต และสำหรับนักธุรกิจ คือการเติบโตขององค์กรความเป็นอยู่ของพนักงาน
สิตามนินท์จึงถือเป็นหนึ่งตัวแม่ด้านกลยุทธ์การตลาดและการสร้างภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการปรับโฉม เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์
อย่างไรก็ตาม งานบริหารซุปเปอร์ริช ไทยแลนด์ กว่า 8 ปี ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบทั้งหมด โดยเฉพาะการผสมผสานแนวคิดต่างๆ ระหว่างคนรุ่นใหม่ เจน 2 อย่างเธอกับกลุ่มผู้บริหารรุ่นพ่อ แต่อาศัยประสบการณ์การเรียนรู้ที่อภิชัยดึงเธอเข้ามาเรียนรู้งานทันที หลังจบปริญญาโทด้าน Marketing Management, Kingston University ประเทศอังกฤษ
อภิชัยให้สิตามนินท์เริ่มต้นฝึกงานด้านการบริหารจัดการ เพื่อเรียนรู้งานภายในองค์กร ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ดูแลด้านการตลาด ซึ่งเป็นสายงานที่ตรงกับความเชี่ยวชาญของเธอ พิสูจน์ฝีมือก่อนก้าวขึ้นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
คุณแพมเคยพูดกับสื่อว่า การทำงานต้องมีเป้าหมายและทุ่มเท 100% มีอภิชัย เป็นแบบอย่างในความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และมีศิริพร ผู้เป็นแม่ เป็นต้นแบบเรื่องความอดทน
ล่าสุด เธอเริ่มต้นภารกิจใหม่ โดยใช้ช่วงจังหวะประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิดและเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ผลักดันธุรกิจแลกเงินแบรนด์ใหม่ “OH! Rich” เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดอีกครั้ง ชูจุดขายหลัก เรื่องไลฟ์สไตล์โปรโมชันและการเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งถึงบ้าน โอนเงินต่างประเทศ บริการ Paid & Pick Up ลูกค้าสามารถล็อกเรต โอนจ่ายเลย และรับเงินที่สาขาตามตกลง มีช่องทางการชำระเงิน 3 รูปแบบ ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และ QR Code รวมถึงการซื้อขายผ่านช่องทางสาขาต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีก 11 สาขา
“ตอนนี้ แพมโฟกัส OH! Rich เต็มตัว ก่อนหน้านี้เข้าไปทำซุปเปอร์ริช มีการเติบโตจนมาเปิดบริษัท SRT Forex ถือว่างานทุกอย่างมีความท้าทาย เรื่องธุรกิจส่วนหนึ่ง เรื่องการบริหารงานและการบริหารคน ยิ่งเริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว เรื่องของ Generation เรื่อง Culture ขององค์กร การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เราผ่านมาได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้”
เธอย้ำอีกว่า การก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อยู่ที่ Mindset ถ้ายอมรับว่าเป็นปัญหาก็เป็นปัญหา แต่ถ้ามองเป็นความท้าทาย นั่นทำให้เราต้องมีคุณภาพมากขึ้น เราต้องการความรู้มากขึ้น ต้องเรียนรู้จากความท้าทายนั้น และนั่นจะทำให้ก้าวผ่านทุกอย่างมาได้ในที่สุด.
