BNK48 อัดบิ๊กอีเวนต์ ดัน Soft Power เอนเตอร์เทนเมนต์

“อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์” หรือ iAM ต้นสังกัดศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 และ CGM48 กำลังเร่งใช้โอกาสผลักดันการเติบโต หลังประเทศไทยหลุดพ้นสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดและการพลิกฟื้นธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ Soft Power และอัดบิ๊กอีเวนต์ช่วงโค้งสุดท้ายโดนใจกลุ่มแฟนคลับให้ได้มากที่สุด

จิรัฐ บวรวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ยังมั่นใจเป้าหมายรายได้ในปี 2565 จะไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท โดยเตรียมจัดกิจกรรมช่วงโค้งสุดท้ายของปีอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทเพิ่งเปิดกิจกรรมงานวัดญี่ปุ่นครั้งแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ Matsuri -มัตสึริ ช่วงวันที่ 26-28 สิงหาคมที่ผ่านมา เน้นคอนเซ็ปต์กิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมมเบอร์ทั้งวง BNK48+CGM48 กว่า 77 เมมเบอร์รวมตัวเปิดบูทจำหน่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม เพื่อให้แฟนคลับได้ใกล้ชิด สนุก ตื่นเต้น มีการจำหน่ายคูปองดิจิทัลด้วยการใช้เหรียญ BNK TOKEN ในการซื้อสินค้า ซึ่งมีแทรฟฟิกผู้มาร่วมงานรวม 3 วัน ทะยานกว่า 10,000 คน

ถัดจากนั้น จัดกิจกรรมกีฬาสีภายใต้แนวคิด “อนุบาลหนูน้อย48” ปี 2022 ในวันที่ 10 กันยายน ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งเมมเบอร์ทั้งวง BNK48+CGM48 เข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยแบ่งเป็น 4 ทีม คือ ทีมสีแดง ANT ทีมสีส้ม Hamster ทีมสีเขียว Turtle และทีมสีฟ้า Humming Bird ซึ่งมีเหล่าแฟนคลับ ทั้งแฟนคลับที่เหนียวแน่นอยู่แล้วและขยายฐานสู่แฟนคลับกลุ่มใหม่เข้าร่วมงานจำนวนมาก

ส่วนช่วง 3 เดือนส่งท้ายปี iAM วางแผนทุ่มงบอัดกิจกรรม Request hours และคอนเสิร์ตจากเมมเบอร์รุ่นที่ 1 ก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2566

ก่อนหน้านี้บริษัทยังเซ็นสัญญาความร่วมมือกับเมืองคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เพื่อถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง Believers ในเมืองคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่มีทีมถ่ายทำภาพยนตร์ หรือซีรีส์ จากฮอลลีวูด หนังฟอร์มยักษ์หลากหลายเรื่องเข้ามาใช้สถานที่ถ่ายทำ

จิรัฐกล่าวว่า เพลง Believers มีสไตล์เพลง J-POP เนื้อหาเพลงสะท้อนวิถีไอดอลหลากหลายมุมมอง เช่น ความฝัน ความหวัง เป้าหมาย และกำลังใจ เป็นเพลงหลักในซิงเกิลที่ 12 ซึ่งรุ่นพี่วง AKB48 โปรดิวเซอร์เนื้อเพลง ทำนองเพลง ครีเอตท่าเต้น และชุดเซ็มบัตสึ ให้วงรุ่นน้อง BNK48 หลัง BNK48 เติบโตก้าวสู่รุ่นที่ 4 และยังเป็นรุ่นที่ 2 ของวง CGM48 ซึ่งในปี 2566 เตรียมกลยุทธ์รุกตลาดอย่างเต็มที่

แน่นอนว่าเส้นทางของ iAM ในฐานะผู้บริหารกลุ่มศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 และ CGM48 แม้ใช้เวลาก้าวสู่ความสำเร็จในเวลาเพียง 5-6 ปี แต่ถือเป็นความท้าทายท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมเกาหลีเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยอย่างรุนแรง ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ เพลง ร้านค้าปลีกและสินค้านานาชนิด

หากย้อนจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 โรส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ บริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์อนิเมะและภาพยนตร์ในประเทศไทยแพ้การประมูลทีวีดิจิทัล หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัวของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงหันมาขยายไลน์ธุรกิจดูแลศิลปิน โดยนายจิรัฐ บวรวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรส อาร์ทิสท์ แมเนจเม้นท์ เกิดไอเดียใหม่และตัดสินใจติดต่อ เอเคเอส กรุ๊ป บริษัทที่จัดการและบริหารกลุ่มไอดอลญี่ปุ่น เอเคบีโฟร์ตีเอต เพื่อขอสิทธิ์มาทำวงน้องสาวในประเทศไทย

ใช้เวลาเจรจาอยู่นาน ในที่สุด วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 โรส อาร์ทิสท์ฯ สามารถปิดดีลและจัดกิจกรรม “BNK48 We need you” ที่เอ็มควอเทียร์ เพื่อประกาศเปิดรับสมัครรุ่นที่ 1 อย่างเป็นทางการ โดยเปิดออดิชันครั้งแรกสำหรับรุ่นที่ 1 ผ่านทางเว็บไซต์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม มีผู้สมัครทั้งหมด 1,357 คน ซึ่งทีมงานได้คัดเลือกผู้เข้าสมัคร 330 คน ผ่านเข้ารอบออดิชันครั้งต่อไปในวันที่ 5 กันยายน และคัดเหลือ 80 คนในวันที่ 23 กันยายน

นั่นถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับเกิร์ลกรุ๊ปในประเทศไทยและสร้างความตื่นเต้นให้กลุ่มวัยรุ่นสาวๆ

อย่างไรก็ตาม เดิมวงมีแผนเปิดตัวสมาชิกรุ่นแรกภายในปี 2559 แต่เนื่องจากเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงระงับกิจกรรมทั้งหมดชั่วคราวถึงวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันออดิชันรอบสุดท้าย คัดเลือกเหลือ 29 คนเป็นสมาชิกรุ่นแรกของวง
2 มิถุนายน 2560 บริษัท BNK48 Office เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัววงไอดอล BNK48

8 สิงหาคม 2560 วง BNK48 เปิดตัวซิงเกิลแรก “อยากจะได้พบเธอ” และ 14 ธันวาคมปีเดียวกัน เปิดตัวอัลบัมเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ใช้เวลาไม่นาน เพลงคุกกี้เสี่ยงทายฮิตติดทุกชาร์ตโด่งดังชนิดที่ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะท่าเต้นสุดฮิตที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของ BNK48 จนถึงทุกวันนี้

7 พฤศจิกายน 2562 ทาง BNK48 Office ประกาศรีแบรนด์เป็น iAM ภายใต้บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ (Independent Artist Management) ตั้งเป้าหมายผลิตไอดอลและเพิ่มชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา

ปัจจุบันสำหรับธุรกิจหลักของ iAM ได้แก่ ธุรกิจ Idol Management ภายใต้โมเดล AKB48 จากประเทศญี่ปุ่น เช่น BNK48 และวงน้อง ธุรกิจ Idol Management กลุ่มศิลปินชาย ธุรกิจ Talent Management บริหารศิลปิน นักร้องนักแสดง และ Influencer

ล่าสุด iAM แตกไลน์ iAM FILMS ลุยตลาดภาพยนตร์และซีรีส์ โดยประเดิมหนังเรื่องแรก “ผ้าผีบอก” เข้าฉายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเตรียมส่งภาพยนตร์เรื่องถัดไป “Cheese Sisters” เข้าฉายในเดือนตุลาคมนี้ เป็นผลงานสร้างจาก BNK48 x Studio Commuan เนื้อเรื่องแนวโรแมนติกบอกเล่าความสัมพันธ์ของเด็กสาว 4 คู่จาก BNK48 และ CGM48 ผ่านกระบวนการทำชีส สไตล์ใสๆ หวานๆ

ณัฐพล บวรวัฒนะ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ iAM กล่าวว่า บริษัททุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ “ผ้าผีบอก” ชิมลางแนว Comedy Horror เป็นเรื่องแรก เพื่อต่อยอดการรุกตลาดและเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การผลิตคอนเทนต์สู่ตลาดโลก สยายปีกตลาดไปสู่รอบนอก ไม่ใช่แค่เพลงเท่านั้น ทำให้ผู้คนรู้จัก BNK48 และ CGM48 ทั้ง 77 คนมากขึ้น ซึ่งทุกคนมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน

บริษัทวางกลยุทธ์ฝึกฝนเมมเบอร์ในวงการบันเทิงหลากหลายมากขึ้น ผ่านกิจกรรมงานโชว์ในเธียร์เตอร์ Live Studio การเดินสายโปรโมตเพลง ถ่ายโฆษณา การแสดงคอนเสิร์ต การโชว์ในรายการชั้นนำ และซิตคอม

ที่สำคัญ ทั้งหมดถือเป็นโปรดักต์ใหม่และเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างกระแสกว้างขวางมากขึ้น ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศระดับสากล

ณัฐพล ย้ำกับ “ผู้จัดการ360” ว่า ซอฟต์พาวเวอร์ที่มีศักยภาพสูงสุดต้องผสมผสานด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ ความบันเทิง เพราะคนเสพข้อมูลได้ง่าย ทั้งช่องทางสื่อ เนื้อหา เนื้อเพลง เอ็มวี หนัง ตัวละคร ทุกอย่างสามารถสื่อสารไปสู่สากลมากขึ้น

“48 กรุ๊ปในประเทศไทย เราใช้ซอฟต์พาวเวอร์ค่อนข้างบ่อย ถ้าสังเกต ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเพลงของ BNK48 และ CGM48 มีอัตลักษณ์ความเป็นไทยในเนื้อเพลง การทำโชว์ต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน รวมอยู่ใน Visual อยู่ในอีเวนต์ เราสอดแทรกความเป็นไทยตลอดเวลา อย่าง CGM48 มีวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ทุกเอ็มวี สถานที่ท่องเที่ยว เสื้อผ้า การแต่งกาย วิถีชีวิต ความเป็นอยู่”

เขาทิ้งท้ายด้วยว่า iAM เน้นมากๆ กับการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ให้เกิดประโยชน์ สร้างยูนิตต่างๆ อย่างยูนิตอีสานกับเพลงโดดดิด่ง หรือในภาพยนตร์ผ้าผีบอก มีวัฒนธรรมล้านนา ล้านช้าง ทำเพลงเชิงอีสาน ซึ่งได้รับการตอบรับจากต่างประเทศสูงมาก ซึ่งจะทำให้ 48 กรุ๊ป ทั้ง BNK และ CGM กระโดดขึ้นสู่ระดับสากลเร็วขึ้นและขยายฐานกว้างขึ้น

ไม่ใช่แค่ตลาดหรือแฟนคลับ 18-35 ปีในประเทศไทยเท่านั้น.