วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > Cover Story > เร่งเครื่อง MAJOR 5.0 จัดเต็มไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์

เร่งเครื่อง MAJOR 5.0 จัดเต็มไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์

หลังเปิดตัวโรงภาพยนตร์เด็กแห่งแรกในเมืองไทยได้ไม่กี่เดือน ล่าสุด เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เดินหน้ากลยุทธ์เติมเต็มความเป็นไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร เพื่อสร้างโรงหนังที่เป็นมากกว่าโรงหนัง เผยโฉมโรงภาพยนตร์อีสปอร์ตแห่งแรกภายใต้ชื่อ Dell Gaming Esports Cinema และที่สำคัญยังซุ่มเตรียมแผนผุดโปรเจกต์ใหม่อย่างน้อยอีก 1 โครงการภายในสิ้นปีนี้ด้วย

แน่นอนว่า ในช่วง 2 ทศวรรษแรก วิชา พูลวรลักษณ์ ฟันฝ่าต่อจิ๊กซอว์สร้างอาณาจักรธุรกิจเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ประกอบด้วยธุรกิจโรงภาพยนตร์ ธุรกิจโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ และลานสเกตน้ำแข็ง สื่อโฆษณา มีพื้นที่ให้เช่าและบริการรวมถึงสื่อภาพยนตร์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์เอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรในประเทศไทย และเวลานี้กำลังลุยสมรภูมิธุรกิจทศวรรษที่ 3 ประกาศวิสัยทัศน์ “MAJOR 5.0” แข่งขันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ

โดยเฉพาะวิดีโอสตรีมมิ่ง (Video Streaming) ที่กำลังมาแรงจนหลายฝ่ายเริ่มหวั่นวิตกว่าจะทำให้ธุรกิจโรงหนังเจอวิกฤตใหญ่อีกครั้ง เพราะวิดีโอสตรีมมิ่งเป็นระบบการนำข้อมูลในรูปแบบภาพและเสียงส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันเกิดธุรกิจผู้ให้บริการ Video Streaming หลายค่ายใหญ่ เช่น Netflix, iflix, Amazon Prime ทั้งแบบฟรีและคิดค่าบริการแบบรายเดือน โดยผู้ชมสามารถรับชมวิดีโอหรือเพลงบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา

อย่าง Netflix ซึ่งกำลังรุกตลาดเข้าถึงลูกค้าผ่านสื่อต่างๆ เป็นบริการ Streaming ที่ช่วยให้ผู้ชมสามารถดูรายการทีวี หนัง สารคดี และอื่นๆ บนทุกอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผู้ชมสามารถรับชมเนื้อหาได้ไม่จำกัด ไม่มีโฆษณาคั่น มีการเพิ่มรายการทีวีและหนังทุกเดือน และให้บริการในกว่า 190 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ถือเป็นบริการ Video Streaming รายใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้บริการแบบเสียรายเดือนทั่วโลกสูงถึง 130 ล้าน users เติบโตจาก 100 ล้าน users ในช่วงต้นปีก่อน

Netflix เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อ 2 ปีก่อน และได้กระแสตอบรับอย่างดี มีผู้ใช้บริการรายเดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ใช้บริการแบบเสียเงินรายเดือนราว 150,000 users เทียบกับช่วงต้นปีอยู่ที่ 100,000 users จนทำให้หลายคนเชื่อว่าบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Netflix มีแนวโน้มจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจโรงภาพยนตร์มากขึ้น เพราะผู้บริโภคสามารถเลือกชมภาพยนตร์ผ่านทาง Netflix ในทุกสถานที่ที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สะดวกสบายกว่าการเดินทางไปดูที่โรงภาพยนตร์

กระนั่นก็ตาม มีคนในวงการเชื่อมั่นว่าบริการ Video Streaming ยังไม่สามารถรุกเข้ามาแทนที่โรงภาพยนตร์ได้ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ เพราะภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเปิดตัวครั้งแรกในโรงภาพยนตร์เท่านั้น และใช้เวลาอยู่บนจอภาพยนตร์อย่างน้อย 1 เดือน ต้องรออย่างน้อยอีก 2-3 เดือน หนังเหล่านั้นถึงจะได้รับการเผยแพร่ในสื่ออื่น

ดังนั้น หากผู้บริโภคต้องการชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ ทางเลือกเดียวคือ ไปดูที่โรงหนังเท่านั้น เพราะฉะนั้นตราบใดที่ค่ายหนังยังเลือกฉายหนังผ่านโรงภาพยนตร์เป็นจอแรก ธุรกิจโรงหนังจะยังดำรงอยู่ต่อไปได้

นั่นทำให้ธุรกิจโรงหนังต้องพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีและสร้างจุดขายด้านบริการใหม่ๆ เน้นประสบการณ์การดูหนังที่ทันสมัยและน่าสนใจ ซึ่งไม่สามารถหาได้จากจอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์ที่บ้าน รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยังรักการออกไปใช้เวลาที่ห้างสรรพสินค้า รับประทานข้าว ชอปปิ้ง และดูหนัง นอกเสียจากโรงหนังไม่มีความแปลกใหม่จนทำให้กลุ่มลูกค้าเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ที่บ้านเพื่อรับชม Video Streaming นั่นย่อมเป็นสัญญาณอันตรายของธุรกิจโรงภาพยนตร์

ดูเหมือนว่า เมเจอร์ กรุ้ป เห็นแนวโน้มต่างๆ และเกาะติดเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงหนังไอแมกซ์เมื่อ 20 กว่าปีก่อน และพยายามสร้างโรงหนังที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ดึงผู้คนออกมาจ่ายเงินค่าดูหนัง ซึ่งทุกวันนี้ตกที่นั่งละเกือบ 300 บาท

กรณีการเปิดโรงภาพยนตร์เด็กแห่งแรกในเมืองไทยถือเป็นกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ โดยประเดิมสาขาแรกที่เมกาซีนีเพล็กซ์ และดึงบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) ในเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “โคโดโม” ร่วมสนับสนุนเป็นเนมมิ่ง สปอนเซอร์ภายใต้ชื่อ “KODOMO Kids Cinema” เพื่อเจาะกลุ่มเด็กอายุ 5-12 ปี ออกมาดูหนังชนิดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งดูหนัง ทั้งสนุกกับเครื่องเล่น Playland บ่อลูกบอลหลากสีสัน และสไลเดอร์ รวมทั้งสามารถใช้เป็นสถานที่จัดอีเวนต์ต่างๆ เช่น กิจกรรมประกวดร้องเพลง เต้น วาดภาพ แฟชั่นโชว์

กระทั่งล่าสุด เมเจอร์ฯ ผุดแนวคิดใหม่สร้างโรงภาพยนตร์ Esports แห่งแรกในโลกที่เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ภายใต้ชื่อ “Dell Gaming Esports Cinema” เพื่อให้บริการลูกค้าที่สนใจใช้บริการโรงภาพยนตร์ Esports แบบครบวงจร โดยมีอัตราค่าบริการราคาเหมาทั้งวัน 200,000 บาท และราคาเหมาครึ่งวัน 100,000 บาท แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาให้เลือก คือ ช่วงเวลา 10.00–15.00 น. และช่วงเวลา 17.00–22.00 น. ซึ่งราคาดังกล่าวรวมอุปกรณ์ทุกอย่างและอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเลือกโรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดา เป็นโรง Esports แห่งแรกในโลก เพราะอยู่ติดรถไฟฟ้า MRT และมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสถานที่จัดการแข่งขัน Esports เป็นแหล่งรวมบริษัทไอทีชั้นนำและกลุ่มนักศึกษาที่เล่น Esports อีกจำนวนมาก ซึ่งโรงภาพยนตร์แห่งนี้สามารถจัดงาน Esports ได้ และฉายภาพยนตร์ตามปกติได้

ทั้งโรงหนังเด็กและโรงหนังอีสปอร์ตถือเป็นอีกกลยุทธ์สร้างความเหนือชั้นตามแผนระยะยาวของวิชา พูลวรลักษณ์ ที่จะสร้างโรงภาพยนตร์และอาณาจักรไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ครบ 1,000 โรงภายในปี 2563 และยึดทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่เด็ก 5 ขวบจนถึงวัยเกษียณ

สำหรับช่วงปลายปีนี้ บริษัทจะเปิดอีก 2 สาขาใหญ่ ได้แก่ สาขาเกตเวย์ บางซื่อ และสาขาไอคอนสยาม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแฟล็กชิปชิ้นสำคัญ จากปัจจุบันเครือเมเจอร์ฯ มีสาขาทั้งสิ้น 151 สาขา 747 โรง 170,280 ที่นั่ง แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 145 สาขา 714 โรง และสาขาต่างประเทศ 6 สาขา 33 โรง

ส่วนปี 2562 วางแผนขยายเพิ่มอีก 100 โรง เพื่อเร่งบรรลุเป้าหมาย 1,000 โรง แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ กลยุทธ์พัฒนาด้านนวัตกรรม อัพเกรดไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์เวอร์ชั่นล่าสุด “MAJOR 0.5” ซึ่งไม่ใช่แค่เอาชนะคู่แข่ง แต่ยังเป็นการอยู่รอดบนสมรภูมิเทคโนโลยีด้วย

ย้อนรอย “ไอแมกซ์” กลยุทธ์ฉีกตลาด

“ไอแมกซ์” หรือ อิมเมจ แมกซิมัม (Image Maximum) ถือเป็นกลยุทธ์ฉีกตลาดโรงภาพยนตร์ที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ทุ่มทุนสร้างจุดขายใหม่ในยุคเมื่อ 20 กว่าปีก่อน

ทั้งนี้ “ไอแมกซ์” เป็นชื่อของรูปแบบฟิล์มภาพยนตร์ อุปกรณ์การฉาย ตลอดจนโรงภาพยนตร์ที่ใช้มาตรฐานของบริษัท IMAX Corporation ประเทศแคนาดา โดยภาพยนตร์ที่ฉายด้วยระบบไอแมกซ์มีภาพขนาดใหญ่ และความละเอียดสูงกว่าภาพยนตร์ทั่วไป

จอภาพยนตร์ไอแมกซ์จะมีขนาดกว้าง 22 เมตร (72 ฟุต) สูง 16.1 เมตร (63 ฟุต) และใช้ระบบการฉายแบบฟิล์มไอแมกซ์ 70 มม. โดยเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2541 ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ภายใต้ชื่อ กรุงไทย ไอแมกซ์ เธียเตอร์ ผ่านการจับมือกับธนาคารกรุงไทยและพานาโซนิค ไอแมกซ์ เธียเตอร์

ในช่วงแรกๆ เน้นฉายภาพยนตร์สารคดีของทางไอแมกซ์ แบบสามมิติ ต่อมามีการพัฒนาระบบแปลงภาพยนตร์ที่ไม่ได้ถ่ายทำระบบสามมิติ เพื่อฉายในระบบของไอแมกซ์เรียกว่า ไอแมกซ์ ดีเอ็มอาร์ นี่คือจุดเริ่มต้นของการนำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมาฉายในระบบไอแมกซ์ โดยหนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่นำมาฉายในระบบไอแมกซ์คือ Apollo 13 ในปี 2545

ปี 2548 โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ย้ายจากเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน มาเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนเมื่อปี 2548 โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้ชื่อว่า “กรุงศรี ไอแมกซ์”

ต่อมามีการพัฒนาระบบการฉายแบบ ไอแมกซ์ ดิจิทัล ซึ่งเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้นำมาติดตั้งที่โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินโรงเดิม เมื่อปี 2553 และได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นสาขาที่ 2 ต่อจากสาขาพารากอน ซีนีเพล็กซ์

ปี 2556 เปิดให้บริการไอแมกซ์สาขาใหม่นอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ รวมทั้งเป็นแห่งแรกของภาคเหนือ และปี 2558 เปิดให้บริการไอแมกซ์ สาขาควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ห้างเอ็มควอเทียร์ มีจุดขายเป็นโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ที่สวยและมีเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุด โดยเลือกเก้าอี้เกรดเดียวกับรถสปอร์ต รวมทั้งเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต นนทบุรี ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้สนับสนุนไอแมกซ์แห่งนี้ด้วย

ล่าสุดในปีนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์จับมือกับเอไอเอสและไอแมกซ์ เปิดให้บริการเอไอเอส ไอแมกซ์ วีอาร์ (AIS IMAX VR) ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และที่เอไอเอส ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โดยเป็นศูนย์ให้บริการดูหนังและเล่นเกมผ่านแว่นวีอาร์คุณภาพสูง HTC Vive และ StarVR พร้อมอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ควบคุมการใช้งาน

ไอแมกซ์ วีอาร์ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ถือเป็นสาขาแรกในไทย ประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นแห่งที่ 7 ของโลก แต่ยังเป็นเพียงศูนย์ชั่วคราว ซึ่งจะเปิดให้บริการถึงเดือนเมษายน 2562

อย่างไรก็ตาม เครือเมเจอร์ฯ มีแผนขยายโรงหนังไอแมกซ์ 2 แห่งที่ไอคอนสยามและในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รวมแล้วจะมีโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ 8 โรง ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี เชียงใหม่ และกรุงพนมเปญ

ขณะที่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้ฉลองความร่วมมือ 13 ปีกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา และลงนามต่อสัญญาต่อเนื่องอีก 3 ปี ในการเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ 4 สาขา คือ สาขาพารากอนซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์

ใส่ความเห็น