Home > Glowfish Co-Working Space

อสังหาฯ บูมโคเวิร์กกิ้งพุ่งเท่าตัว JustCo เร่งเครื่องยึดตลาด

น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ปลุกกระแสความนิยมการใช้พื้นที่ทำงานนอกกรอบสไตล์ “โคเวิร์กกิ้งสเปซ” เพราะคนจำนวนมากต้องเปลี่ยนรูปแบบมาทำงานที่บ้านและใช้บริการตามร้านกาแฟ ร้านฟาสต์ฟู้ด จนกระทั่งเกิดธุรกิจโคเวิร์กกิ้งสเปซอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ สอดรับกับจำนวนของฟรีแลนซ์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันพื้นที่อาคารสำนักงานเกรดเอใจกลางเมืองมีจำนวนน้อยและราคาแพง ยิ่งทำให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในทำเลทอง ถนนสาทร สีลม ราชเทวี สุขุมวิท ซอยอารีย์ ลาดพร้าว รวมถึงจังหวัดใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา และเมืองท่องเที่ยว ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี ธุรกิจโคเวิร์กกิ้งสเปซขยายตัวอย่างรวดเร็ว และปรับเปลี่ยนจากเดิมที่มีเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการไทยเพียงไม่กี่ราย เปิดบริการตามตึกขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เริ่มมีผู้เล่นมากขึ้นและเน้นการสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ทุกรายแข่งดีไซน์แนวสร้างสรรค์ มีบริการหลากหลายรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ และเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักไม่ใช่แค่ฟรีแลนซ์แบบเดิม แต่ขยายจับกลุ่มลูกค้าประเภทองค์กร ทั้งบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการใช้โคเวิร์กกิ้งสเปซเป็นสำนักงานหลัก ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่สามารถใช้โคเวิร์กกิ้งสเปซเป็นสำนักงานย่อย หรือสำรองที่นั่งทำงานไว้สำหรับให้พนักงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ แน่นอนว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลบวกโดยตรงจากธุรกิจโคเวิร์กกิ้งสเปซ ทั้งในแง่การขายพื้นที่ การเช่าพื้นที่และการดึงดูดลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ต้องการบ้านหรือคอนโดมิเนียมเพียงเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น แต่ต้องสร้างสังคมหรือ “คอมมูนิตี้” ในกลุ่มลูกบ้าน มีรายละเอียด ความรู้สึกและเอื้อต่อการทำงานที่ไม่อยู่ในกรอบแบบเดิมๆ ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ชูจุดขายด้านไลฟ์สไตล์อย่าง “แสนสิริ” มองเห็นเทรนด์ชัดเจน ตัดสินใจลงทุน 2,800 ล้านบาท

Read More

กวิน ว่องกุศลกิจ อองเทอเพรอนัวส์ยุค 4.0

กวิน ว่องกุศลกิจ ใช้เวลาเกือบ 10 ปีบุกเบิกธุรกิจโคเวิร์กกิ้งสเปซในยุคที่หลายคนในวงการยังไม่รู้จัก จนล่าสุดลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ผุด “โกลว์ฟิช ออฟฟิศ” รูปแบบใหม่ “ไลฟ์สไตล์เวิร์กสเปซ” สาขาล่าสุดย่านสาทร ที่รวมทั้งบริการเซอร์วิสออฟฟิศและธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทลเข้าด้วยกันเป็นแห่งแรกในเมืองไทย ที่สำคัญ โมเดลของโกลว์ฟิชเป็นไอเดียการทำธุรกิจที่กวินย้ำว่า ต่างจากโคเวิร์กกิ้งสเปซอื่นๆ และสะท้อนแพสชั่นการทำธุรกิจของเขาตั้งแต่เริ่มต้นครั้งแรก เป้าหมายไม่ใช่การหารายได้กำไรเพียงอย่างเดียว แต่สามารถยืนอยู่ได้และต้องการเติบโตไปด้วยกันในกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ตั้งแต่กลุ่มฟรีแลนซ์ สตาร์ทอัพ และอองเทอเพรอนัวส์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างเต็มตัว “ผมอยากสร้างโกลว์ฟิชให้เป็นธุรกิจฮีโร่ตัวหนึ่งของเมืองไทย...” กวินกล่าวกับ “ผู้จัดการ360องศา” กวินเล่าว่า เขาพยายามสร้างโกลว์ฟิชให้มีความแตกต่างจากโคเวิร์กกิ้งสเปซอื่นๆ เน้นการสร้างระบบนิเวศการทำงาน หรือ Ecosystem ให้เป็นพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อสร้างเครือข่ายชุมชนที่มี 3 องค์ประกอบ คือ Work, Play and Grow Work คือ การทำสิ่งต่างๆ ที่ช่วยให้การทำงานมีผลผลิตมากขึ้น Play คือ การออกแบบสถานที่ทำงานให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง เป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำงาน ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นกิมมิกเท่านั้น ส่วน Grow เป็นการสร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมการเติบโตในธุรกิจของพันธมิตรผู้เข้ามาใช้บริการ ทั้งหมดจะช่วยให้ธุรกิจเพิ่มโอกาสการเติบโตและพัฒนาไปอย่างเข้มแข็ง ต่อยอดธุรกิจเติบโตแบบออร์แกนิก

Read More