วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
Home > Cover Story > “บุณยสิทธิ์” ส่งต่อ “เจน 3” ผลัดยุคลุยขยายอาณาจักร

“บุณยสิทธิ์” ส่งต่อ “เจน 3” ผลัดยุคลุยขยายอาณาจักร

 
บุณยสิทธิ์  โชควัฒนา ใช้เวลา 2 ปี ปรับกระบวนทัพครั้งใหญ่ในเครือสหพัฒนฯ ทั้งโละสินค้า ปิดโรงงาน สกัดจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็ง เหตุผลไม่ใช่แค่ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ฉุดกระชากยอดขายโตต่ำสุดในรอบหลายสิบปี แต่เร่งติดอาวุธรับศึกรอบใหม่ ต่อสู้กับแบรนด์ต่างชาติและผลักดันบริษัทในเครือกว่า 300 บริษัทบุกแนวรบโกลบอลมาร์เก็ตสู่เป้าหมายใหญ่ตั้งแต่ปี 2557 เปลี่ยนจาก “เกียร์สโลว์” เดินหน้าใส่ “เกียร์ 5” ดัน “โชควัฒนา” รุ่นที่ 3 ขึ้นมาเป็นหัวหอกหลักขับเคลื่อนธุรกิจเต็มรูปแบบ
 
สัญญาณภาพจากการแถลงข่าวงานแสดงสินค้าเครือสหพัฒนฯ ครั้งที่ 18  โดย 3 ทายาทหลัก คือ เวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าร้อยแบรนด์ ลุยธุรกิจค้าปลีก ทั้ง “108 ช็อป” และ “ลอว์สัน 108” 
 
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หัวหอกหลักบริหารกลุ่มธุรกิจสิ่งทอ เสื้อผ้า มีแบรนด์อยู่ในมือไม่ต่ำกว่าร้อย และธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการและซีอีโอ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) ดูแลกลุ่มเครื่องสำอางแบรนด์เนม 
 
ทั้งหมดเป็นความตั้งใจที่จะประกาศก้าวต่อไปของอาณาจักรธุรกิจแสนล้านในมือของเจเนเรชั่นใหม่ ซึ่งเสี่ยย้ำชัดเจนว่า “คนรุ่นเก่าทั้งหมดจะถอยไปเป็นเพียงที่ปรึกษา ไม่ดึงคนนอก ไม่ดึงมืออาชีพหรือบิ๊กข้าราชการเข้ามาอีก”
 
หากนับรุ่นกลุ่มโชควัฒนารุ่น 2 หรือลูกๆ ของนายห้างเทียม โชควัฒนา มีพี่น้อง 8 คน เริ่มจากบุณย์เอก, บุญปกรณ์, บุณยสิทธิ์, ศิริยล, ศิรินา (ปวโรฬารวิทยา), ณรงค์, บุญชัย และบุญเกียรติ 
 
ทายาทรุ่น 3 ซึ่งเป็นลูกๆ ของพี่น้องทั้ง 8 คน จำนวน 17 คน มี 3 คนก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารธุรกิจหลักในเครือสหพัฒนฯ ก็คือ ธรรมรัตน์ ลูกชายคนโตของบุณยสิทธิ์ ที่ถูกฝึกงานอย่างเข้มข้นตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยเอแบค เรียนรู้งานตัดเย็บของวาโก้และเสื้อผ้าชนิดต่างๆ นานกว่า 20 ปี 
 
ธีรดา อำพันวงษ์ ลูกสาวคนที่ 2 ของบุณยสิทธิ์ จบปริญญาตรีด้านแฟชั่น เมอเชนไดซิ่งจากสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นการทำงานครั้งแรกกับเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ ที่สหพัฒนพิบูล ดูแลการตลาดผลิตภัณฑ์ลอตเต้ ต่อมาบุณยสิทธิ์ดึงตัวมาช่วยงาน ไอ.ซี.ซี. แจ้งเกิดโครงการสร้างแบรนด์ “BSC” หรือ “Selected Collection” จนกลายเป็นแบรนด์หลักในหมวดเครื่องสำอางและเสื้อผ้าของไอ.ซี.ซี.
             
ส่วน “เวทิต โชควัฒนา” ลูกชายของบุญย์เอก เคยทำตลาดสินค้าแบรนด์โคนิก้าและเครื่องเสียงอาไกก่อนเข้ามาลุยงานบริษัทซันร้อยแปด จำกัด  ดูแลธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป และเร่งปูพรม “ลอว์สัน 108” โดยตั้งเป้าปีนี้เปิดอีก 50 สาขา ไม่รวม “108 ช็อป” กว่า 300 สาขา ขณะเดียวกันร่วมทีมการตลาดกับ เพชร พะเนียงเวทย์ ลูกชายของพิพัฒ พะเนียงเวทย์ และชัยลดา ตันติเวชกุล ลูกสาวบุญชัย โชควัฒนา รับผิดชอบผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” 
 
ในเวลานี้ ทั้งสามคนก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำหนดทิศทางกลุ่มธุรกิจหลักของเครือสหพัฒนฯ โดยมีนัดประชุมกับเจนเนเรชั่น 2 อย่างบุณยสิทธิ์ บุญเกียรติ และบุญชัย อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการทำงานและการเสริมแนวคิดของคนรุ่นใหม่
 
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ผู้จัดการ360  ํ” ว่า ช่วง 2-3 ปี ไอ.ซี.ซี. ปรับโครงสร้างการบริหารงานครั้งใหญ่ โดยปรับสินค้าทั้ง 60 แบรนด์ จากสินค้าทั้งหมดกว่า 100 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการจัดซื้อ เพื่อก้าวสู่ความเป็นสากลมากขึ้น
 
เช่น การผลิตสินค้า เมื่อก่อนต้องผลิตทีละเยอะๆ แต่ยุคนี้ต้องล็อตเล็กแต่หลายแบบ หรือการขนส่ง อดีตผลิตเสร็จรอรถว่างแต่ยุคนี้ผลิตเสร็จ สินค้าขายหมด ต้องมีสินค้าเติมช่องทางจำหน่ายได้ทันที โดยเฉพาะช่องทางใหม่ๆ ซึ่งกำลังมีปัญหามาก จากเดิมผลิตเสร็จเข้าห้างสรรพสินค้าอย่างเดียว แต่ยุคนี้ต้องแบ่งเข้าห้าง เข้าร้าน เข้าช่องทางอินเทอร์เน็ต หลากหลายมากขึ้น ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแนวคิดหมด 
 
“สองปีก่อนเป็นการปรับกระบวนการภายใน ไม่ใช่ต่อสู้กับเศรษฐกิจ เป็นการสู้กับแนวคิดเดิมๆ แนวคิดที่ไม่เคยทำมาก่อน อันนี้ยาก แต่พอเปลี่ยนแล้วดีขึ้น การทำตลาดแข็งแรงและสนุกมากขึ้น เพราะแนวโน้มในอนาคตต้องเน้นทั้งสินค้าแบรนด์ใหม่และสินค้านวัตกรรมใหม่”
 
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือไอ.ซี.ซี. กว่าร้อยแบรนด์ยังเน้นตลาดในประเทศเกือบ 100% แต่ธรรมรัตน์เริ่มขยายเข้าสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยวางแนวทางอาศัยเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายทั้งในและนอกเครือ ไปให้ไกลเท่าที่จะรุกได้ เพราะไอ.ซี.ซี. ถือเป็นผู้ผลิตสินค้าแนวแฟชั่น เสื้อผ้า อันดับต้นๆ ของเอเชีย
 
แน่นอนว่า หากเทียบกับสินค้าเครื่องสำอาง ธีรดาเจอโจทย์หินกว่า เนื่องจากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและปีที่ผ่านมาเป็นกลุ่มสินค้าที่มียอดขายตกลงมากที่สุด เพียงแต่โอซีซีเน้นกลุ่มสินค้าเฉพาะที่ชัดเจนทำให้ยอดขายไม่ลดฮวบ 
 
ในแง่แบรนด์ของโอซีซี ธีรดาวางเป้าหมายการขยายตลาดในทุกระดับสินค้า มี “คัฟเวอร์มาร์ค” แบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่นจับตลาดบน ส่วน “เคเอ็มเอ” จับกลุ่มวัยรุ่น เฟิร์สจ็อบเบอร์ และตลาดวัยกลางคน รวมทั้งเร่งเจาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและไม่สนใจผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยชิมลางตลาดเสื้อผ้าวัยรุ่น แบรนด์ใหม่ “ERA-WON’S Girlfriend ประเดิมช็อปแรกที่เมกาบางนา 
 
นอกจาก 3 บิ๊กบอส ยังมีประวรา เอครพานิช กรรมการบริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) ลูกสาวของ ศิรินา ปวโรฬารวิทยา ซึ่งกำลังปลุกปั้นแฟคตอรี่เอาต์เล็ตแนวคิดใหม่ “The Pud: English Garden&Eco Lifestyle Fashion” บนพื้นที่โรงงานเย็บผ้าเก่า ย่านเอกมัย-รามอินทรา 
 
ภายในเดอะพุด กว่า 8 ไร่ แบ่งพื้นที่ 5 ไร่เป็นสวนสวยสไตล์อังกฤษออกแบบโดยอาจารย์อำนาจ คีตพรรณา และเป็นแหล่งรวบรวมต้นพุดหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 30 สายพันธุ์ นอกจากนี้ มีโซนอาคารแบ่งเป็นอาคารจัดเลี้ยง และเอาต์เล็ตเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์เนมในเครือ และสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจจาก ดร.เทียม เช่น ข้าวสารสีนิลจากแหล่งเพาะปลูกย่านหทัยราษฎร์และร่มเกล้า ชา สบู่ แชมพู 
 
ตามแผนเต็มรูปแบบ The Pud Eco Lifestyle Fashion จะมีทั้งเอาต์เล็ต บ้านต้นไม้ ร้านจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านก๋วยเตี๋ยวหน่อไม้ฝรั่ง “นำจิตติ์” จาก อ.ชะอำ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ ร้านขายจักรยาน “Bike Stop” และสปา ส่วนพื้นที่สีเขียวรองรับกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนของผู้รักธรรมชาติ ผู้รักสุขภาพ ผู้รักศิลปะ และครอบครัว โดยเน้นกลุ่มคนระดับบน  เนื่องจากจะจัดเก็บค่าเข้าสวนและเสื้อผ้าในเอาต์เล็ต แม้ลดราคา 50% แต่เริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาทต่อชิ้น ซึ่งเท่าที่ทดลองเปิดให้บริการ ยอดบิลเฉลี่ย 3,000-5,000 บาท 
 
ทั้งหมดทั้งปวง เจเนเรชั่นใหม่ ไม่ว่า เวทิต ธรรมรัตน์ ธีรดา หรือประวรา กำลังเป็นตัวละครใหม่ในการก้าวย่างสู่ทศวรรษที่ 8 ของอาณาจักรเครือสหพัฒนฯ การผลัดใบและจุดเปลี่ยนสำคัญที่มียอดขายกว่า 2 แสนล้านเป็นเดิมพัน
 
Relate Story