นิทรรศการ Hello Kitty Exhibition : Celebration of Friendship และ Sanrio Characters : FUNtastic Exhibition ที่เตรียมนำเสนอเรื่องราวของ เฮลโล คิตตี้กับผองเพื่อนซี้จากซานริโอ้ ณ HOUSE OF ILLUMINATION, CENTRAL WORLD PULSE ในรูปแบบ Immersive Exhibition ครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม-10 พฤศจิกายน 2567 กำลังจะปลุกมาสคอตย้อนยุคที่มีอายุยาวนานถึง 5 ทศวรรษกลับมามีชีวิตชีวากระตุ้นตลาดอีกครั้งหนึ่ง
เฮลโลคิตตี้ (Hello Kitty) เป็นคาแรกเตอร์จากบริษัท ซานริโอ้ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Shintaro Tsuji ผู้ก่อตั้งมองว่า สินค้าน่ารักๆ สามารถสร้างแรงดึงดูดลูกค้า จึงเกิดไอเดียอยากผลิตสินค้าที่มีคาแรกเตอร์และผลิตเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ โดยดึงนักออกแบบสาวชาวญี่ปุ่น ยูโกะ ชิมิสุ (Yuko Shimizu) มาปลุกปั้นจินตนาการสร้างสรรค์ “เฮลโลคิตตี้” น้องแมวสีขาวพันธุ์ญี่ปุ่นหางสั้นติดโบสีแดง หรือ Japanese Bobtail
ตามประวัติเล่าว่า เฮลโลคิตตี้มีชื่อจริงว่า Kitty White ชื่อเล่น คิตตี้จัง เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ.1974 ที่ชานเมืองกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพศหญิง สัญชาติอังกฤษ มีเลือดกรุ๊ป A มีส่วนสูงเท่าผลแอปเปิ้ล 5 ลูก น้ำหนักเท่าแอปเปิ้ล 3 ลูก นิสัยสดใสร่าเริง อบอุ่นใจดี มีนิสัยชอบของชิ้นเล็กๆ น่ารักๆ เหมือนตัวเธอ ชอบสะสมดาวดวงเล็กๆ ปลาทองตัวน้อย เหรียญเงินและริบบิ้น
เธอยังชอบเที่ยวเล่นตามสวนสาธารณะ ในป่ากับเพื่อนๆ และร้านลูกกวาด มีเมนูโปรด คือ พายแอปเปิ้ลของคุณแม่ ส่วนเมนูที่ชอบทำ คือ ขนมคุกกี้ และชอบยาสีฟันกลิ่นสตรอเบอรี่
ด้านการเรียน มีวิชาโปรด คือ ภาษาอังกฤษ ดนตรี และ ศิลปะ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเปียโนหรือกวี ชอบผู้ชายใจดีและเป็นมิตร รักครั้งแรกของคิตตี้ คือ เดียร์ แดเนียล (Dear Daniel) และเมื่อแดเนียลเดินทางไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่แอฟริกา เธอหันมาคบกับ ทิปปี้ (Tippy) หมีหนุ่มเพื่อนร่วมชั้น
ครอบครัวของคิตตี้ มีคุณพ่อจอร์จ คุณแม่แมรี่ คุณย่ามากาเร็ต คุณปู่แอนโทนี และน้องสาวฝาแฝด นิสัยขี้อาย Mimmy มีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซีย ชื่อ Charmmy Kitty และหนูแฮมเตอร์ ของขวัญจากหนุ่มแดเนียล ชื่อ Sugar
Shintaro Tsuji ภาพจาก https://anketsu.com
ซานริโอ้ระบุว่า การให้คิตตี้เกิดที่ลอนดอน มีสัญชาติเป็นชาวอังกฤษ เพราะยุคนั้นชาวญี่ปุ่นกำลังนิยมเทรนด์ต่างชาติ ดูทันสมัย โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ และชื่อ Kitty มาจากเรื่อง Through the Looking-Glass ผลงานของ Lewis Carroll ซึ่งเป็นภาคต่อจากเรื่อง “อลิซในดินแดนมหัศจรรย์” ในฉากต้นเรื่องที่อลิซกำลังเล่นกับแมว ซึ่งเธอเรียกเจ้าแมวว่า Kitty
จริงๆ แล้ว บริษัทตั้งใจจะใช้ชื่อ Hi Kitty แต่ท้ายที่สุดเลือกใช้ Hello Kitty เพราะเมื่อแปลกลับมาเป็นญี่ปุ่นหมายถึงแมวกวัก หรือ Maneki Neko แมวนำโชคของญี่ปุ่น
ปี ค.ศ.1974 เฮลโลคิตตี้ปรากฏตัวครั้งแรกในรายการ “A vinyl coin purse” และนำไปออกอากาศที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังการเปิดตัวและทำตลาดเพียงไม่กี่ปี สินค้าคาแรกเตอร์เฮลโลคิตตี้ขายดิบขายดี ส่งผลให้ยอดขายรวมของซานริโอ้เพิ่มขึ้นถึงเจ็ดเท่าจากปี ค.ศ.1978 ที่เผชิญกับภาวะยอดขายตกต่ำ โดยออกคอลเลกชันใหม่ ๆ สู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง
แม้ช่วงแรกแบรนด์คิตตี้เน้นทำตลาดเด็กผู้หญิง สินค้าส่วนใหญ่ ได้แก่ ตุ๊กตา สติกเกอร์ การ์ดอวยพร เสื้อผ้า ของใช้กระจุกกระจิก เครื่องเขียน และกระเป๋าใส่เครื่องเขียน จนปี 1990 บริษัทซานริโอ้ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมวัยรุ่นและผู้ใหญ่ในฐานะแบรนด์ย้อนยุค มีการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น เช่น กระเป๋า แลปทอปและสินค้าอีกมากมาย รวมทั้งจับมือกับบริษัทคู่ค้าออกผลิตภัณฑ์เฮลโลคิตตี้ เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง โทรทัศน์ เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์นวด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กีตาร์ไฟฟ้า มีทั้งสินค้าทั่วไป สินค้าราคาสูง และสินค้าสะสมหายาก
นอกจากนั้น ยังจับมือกับแบรนด์ต่างๆ ที่ไม่ใช่คอนซูเมอร์โปรดักส์ เช่น แอร์บัส เอ330-200 ออกแบบเครื่องบินเชิงพาณิชย์ในนามเฮลโลคิตตี้ เจท สายการบินอีวาแอร์เวย์ของไต้หวัน ช่วงปี ค.ศ. 2005-2009 และสามารถทำกำไรได้อีกครั้ง มีการขยายเพิ่มอีกหลายลำ รวมถึงตัวละครซานริโอ้อื่นๆ ขณะที่ธนาคารแห่งอเมริกายังนำเสนอสมุดเช็คและบัตรวีซ่าเดบิตในธีมเฮลโลคิตตี้บนเช็คและบัตร
พูดถึงหนังการ์ตูนเฮลโลคิตตี้เรื่องแรกคือ Hello Kitty’s Furry Tale Theatre ออกอากาศเมื่อปี ค.ศ.1987 และผู้ผลิตการ์ตูนโทรทัศน์ชาวอเมริกันได้สร้างการ์ตูน Hello Kitty and Friends ออกอากาศทางช่องซีบีเอสในอีก 4 ปีต่อมา
ญี่ปุ่นยังสร้างการ์ตูน Hello Kitty’s Paradise ความยาว 16 ตอนออกอากาศระหว่างปี ค.ศ.1993-1994 และนำไปแปลงเป็นภาคภาษาอังกฤษ ออกอากาศเมื่อปี ค.ศ. 2002
แน่นอนว่า ผู้ให้กำเนิดอย่าง Sanrio ในฐานะบริษัททำธุรกิจออกแบบและให้ลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนมากมาย แต่ตัวการ์ตูนที่เป็นที่รู้จักสูงสุด คือ Hello Kitty
ซานริโอ้เริ่มต้นมาจากบริษัท Yamanashi Silk ผู้ผลิตของขวัญขายช่วงเทศกาล ก่อตั้งโดยนายชินทาโร่ ทสึจิ เมื่อปี ค.ศ.1960 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านเยน
ปี ค.ศ.1973 เขาเริ่มใช้ชื่อ Sanrio มาจากคำว่า San แปลว่า 3 ในภาษาญี่ปุ่น และ Rio แปลว่า แม่น้ำ ในภาษาสเปน สื่อความหมายถึงเป้าหมายการผูกรวมเอาทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกัน ปัจจุบันถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งการถือลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนของตัวเอง การถือลิขสิทธิ์การ์ตูนพีนัท การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้การ์ตูนตัวเองเป็นสื่อ การเป็นเจ้าของร้านค้ากว่า 1,200 แห่งทั่วโลก ธุรกิจหนังการ์ตูน ธุรกิจฟาสต์ฟูด รวมถึงเป็นเจ้าของสวนสนุกในญี่ปุ่น
วันนี้ต้องดูว่า เจ้าแมวคิตตี้วัยห้าสิบจะปลุกกระแสได้แค่ไหน.
