หากเคยได้ชมเอ็มวีเพลง LALISA ของ ลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) หลายคนคงจำได้ถึงเครื่องประดับชิ้นงามอย่าง “กรรเจียก” ทรงกิ่งพุดซ้อนสีเงินแซมทองที่ปรากฏอยู่ในเอ็มวี ซึ่งเครื่องประดับดังกล่าวเป็นผลงานในคอลเลกชัน Pood Sorn จากแบรนด์ SARRAN ของ “ศรัณญ อยู่คงดี” นักออกแบบมากฝีมือที่กวาดรางวัลประกวดมามากมายและพาเครื่องประดับแบรนด์ไทยไปดังไกลถึงระดับโลก
ล่าสุดเขายังได้รังสรรค์ผลงานหัตถศิลป์ชิ้นพิเศษ “Trove of Blue” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายของ “ผ้าลายอย่าง” ขึ้นในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในไทย ที่มีเพียง 10 ชิ้นบนโลกอีกด้วย
ศรัณญเติบโตมาในครอบครัวที่ปลูกฝังทักษะพื้นฐานด้านศิลปะและคลุกคลีอยู่กับงานหัตถศิลป์มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งนั่นทำให้เขาตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนอาชีวะ และได้รับทุนเข้าศึกษาต่อในสาขาศิลปะจินตทัศน์ (Imagine Art) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒตามลำดับ
เขามีโอกาสเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหนังในช่วงสั้นๆ ก่อนเข้าทำงานประจำในตำแหน่งออกแบบผลิตภัณฑ์ในร้านฝ้ายซอคำ กระทั่งได้รับทุนจาก Japan Foundation ไปศึกษาและดูงานที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 เดือน หลังจากนั้นจึงกลับมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์พร้อมส่งงานเข้าประกวดอย่างต่อเนื่อง
ภายหลังสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานมาได้ระยะหนึ่ง ศรัณญจึงตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์ “SARRAN” ขึ้นในปี 2551 ซึ่งในช่วงแรกยังรับออกแบบเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งภายใน กระทั่งปี 2556 จึงหันมาออกแบบจิวเวลรี่แบบเต็มตัว โดยดึงเอาพลังและความงามของผู้หญิง วัฒนธรรม ดอกไม้ และศิลปะไทยมารังสรรค์ผลงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Art-to-Wear หรือ ศิลปะที่สวมใส่ได้
“ต่างหูดอกรัก” คืองานออกแบบเครื่องประดับชิ้นแรกของศรัณญ เป็นต่างหูทรงยาวทอดตัวลงมาคล้ายอุบะมาลัยด้วยดอกรักที่ไล่เรียงขนาดจากเล็กไปใหญ่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ทัดปอยผมของผู้หญิงไทยสมัยก่อน โดยศรัณญนำเอา Fabric Felt มาอัดด้วยความร้อนเพื่อให้เกิดช่องว่าง แล้วนำมาพรินต์ดิจิทัลลงไปในกระดาษ ก่อนนำมาต่อเป็นชิ้นๆ และใช้กระบวนการอบร่ำแบบสมัยก่อน เพื่อให้มีกลิ่นติดไปกับเครื่องประดับของเขา
ด้วยดีไซน์ ความสวยงาม การผสานวัสดุหลากชนิดที่นำมาใช้ตั้งแต่โลหะ หิน ผ้า กระดาษ การนำเครื่องประดับไปอบร่ำเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม รวมถึงเรื่องราวที่ศรัณญพยายามสื่อสารผ่านเครื่องประดับที่เขารังสรรค์ขึ้น กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เครื่องประดับภายใต้แบรนด์ SARRAN เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเวทีงานออกแบบระดับโลก
ภาพจาก sarranofficial.com
โดยมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์เสื้อผ้า DVF ของดีไซเนอร์ชื่อดังชาวเบลเยียม Diane Von Furstenberg ส่งผลให้ศรัณญมีชื่อเสียงในระดับโลก และยังเดินหน้ากวาดรางวัลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Good Design Awards จากประเทศญี่ปุ่น, รางวัล Design Excellence Award จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, Vogue’s Who’s on Next, รางวัลนักออกแบบแห่งปี สาขา Jewelry Design และยังเป็นหนึ่งในผู้ชนะรางวัล LOOT Acquisition Prize รางวัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากพิพิธภัณฑ์ Museum of Arts and Design (MAD) แห่งนครนิวยอร์ก
ไม่เพียงเท่านั้นในงานเปิดตัวไอคอน สยาม เมื่อปี 2561 Alicia Keys ศิลปินสาวระดับโลกยังเลือกเครื่องประดับศีรษะและกรรเจียกจากคอลเลกชัน Oriental Blue SS19 ของแบรนด์ SARRAN มาใส่ในโชว์งานเปิดตัวไอคอนสยามในครั้งนั้นอีกด้วย
เครื่องประดับแบรนด์ SARRAN ปรากฏโฉมต่อสายตาชาวโลกอีกครั้งในเอ็มวีเพลง LALISA ของลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 กับกรรเจียกพุดซ้อนสีเงินแกมทอง ซึ่งศรัณญเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเครื่องประดับชุดนี้ใช้เวลาทำขึ้นมาใหม่เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยโจทย์คือชิ้นงานต้องใหญ่แบบที่ใส่แล้วต้องเห็นชัดเจน ไม่จม แต่ในขณะเดียวกันต้องใส่แล้วสามารถเคลื่อนไหวได้คล่องตัว
โดยเครื่องประดับชุดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกคือต่างหูและเครื่องประดับชิ้นบนที่ติดกับเกี้ยวยอดสีทอง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดอกพุดซ้อน และส่วนที่สองคือสังวาลเส้นยาวที่พาดอยู่บนชุดสไบจาก Asava ที่เป็นดอกโป๊ยเซียน ซึ่งต้องบอกว่าได้ซีนไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ล่าสุดศรัณญยังร่วมมือกับดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) รังสรรค์ผลงานหัตถศิลป์ชิ้นพิเศษอย่าง “Trove of Blue” ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ในไทย ซึ่งครั้งนี้เขาไม่ได้ออกแบบเครื่องประดับกาย แต่ออกแบบ cover สำหรับขวด Johnnie Walker Blue Label ที่มีเพียง 10 ชิ้นในโลก และมีหนึ่งชิ้นที่เป็นชิ้นพิเศษสุด
ศรัณญเล่าให้ฟังว่า การออกแบบ TROVE OF BLUE ในครั้งนี้เปรียบเสมือนการรังสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางที่มีมาอย่างยาวนานของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Precious Century of Johnnie Walker Blue Label โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งตามสโลแกนของแบรนด์อย่าง Keep Walking ที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์
งานชิ้นนี้ศรัณญใช้ “ผ้าลายอย่าง” ซึ่งเป็นผ้าแบบไทยโบราณที่ในสมัยก่อนจะนำมาห่อหุ้มสิ่งสำคัญที่มีค่าเพื่อเป็นการเก็บรักษา มาเป็นแกนหลักและตัวดำเนินเรื่องในงานหัตถศิลป์ชิ้นนี้
โดยเขานำเอาผ้าลายอย่างที่เก็บสะสมเป็นสมบัติส่วนตัว นำมาขึ้นทรงเป็นตัว cover กับขวด เพื่อ drawing และนำไปสแกน ซึ่งใช้การทำกราฟิกเข้ามาช่วยในการออกแบบ พร้อมผสานกับลวดลายดอกไม้เพื่อสร้างทรงของผ้า เสร็จแล้วจึงปั้นมือเพื่อทำแม่พิมพ์ต่อไป
“ความใจร้ายของโปรเจกต์นี้คือ พอผมทำพิมพ์เสร็จซึ่งมูลค่าพิมพ์สูงมาก จริงๆ สูงกว่ามูลค่าการขายหลายเท่า เพราะพิมพ์หนึ่งตัวในอุตสาหกรรมเครื่องประดับเราสามารถทำสินค้าได้เป็นหลักแสนชิ้นขึ้นไป แต่รอบนี้ทำเพียง 10 ชิ้น เสร็จแล้วทุบพิมพ์ทิ้งเลย เพราะเราเชื่อว่าของดีไม่ควรมีเยอะ”
สำหรับวัสดุที่ใช้หลักๆ คือ ทองเหลือง (brass) และเพิ่มความพิเศษด้วยการประดับอัญมณีสีน้ำเงินจำนวน 100 เม็ด ซึ่งมีเพียงชิ้นเดียวจากทั้งหมด 10 ชิ้นงาน โดยมีการใช้ช่างถึง 4 สกุลมารังสรรค์ผลงาน ทั้ง งานดุน, งานฉลุ, งานฝังพลอย หรือที่เรียกว่า ‘เตย’ และงานสกุลผ้า ที่ไม่เพียงเป็นการสร้างผลงานให้ออกมาสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์สกุลช่างของไทยอีกด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งนักออกแบบชาวไทยที่น่าจับตาไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ “ศรัณญ อยู่คงดี” ที่นำเสนอความเป็นไทยและถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจจนสามารถสร้างชื่อได้ในระดับโลก ซึ่งเราน่าจะได้เห็นผลงานศิลปะที่สามารถสวมใส่ได้จากแบรนด์ SARRAN ออกมาอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน.
