วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Home > Cover Story > คิกออฟวัคซีนทั่วประเทศ ค้าปลีกลุ้นกระแสปลุกจับจ่าย

คิกออฟวัคซีนทั่วประเทศ ค้าปลีกลุ้นกระแสปลุกจับจ่าย

7 มิถุนายน 2564 เริ่มต้นคิกออฟฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศจะเร่งจัดหาและกระจายวัคซีนตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 ภายในปี 2564 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ พลิกฟื้นสถานการณ์ประเทศไทย หยุดการติดเชื้อ และปลุกเศรษฐกิจกลับมาเติบโต โดยเฉพาะการอัดฉีดกำลังซื้อพร้อมๆ กับมาตรการกระตุ้นยอดจับจ่ายชุดล่าสุด

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังระบุว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิดทั้ง 4 โครงการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา จะครอบคลุมประชาชน ประมาณ 51 ล้านคน ซึ่งแต่ละคนสามารถเข้าร่วมได้ 1 โครงการ และคาดว่าจะช่วยรักษากำลังซื้อและเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสูงถึง 473,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะ 3 ประมาณ 13.65 ล้านคน จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน นาน 6 เดือน วงเงินรวม 1.63 หมื่นล้านบาท

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่มีสมาร์ทโฟน หรืออยู่ในภาวะพึ่งพิงไม่สามารถลงทะเบียนด้วยตนเอง และใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตังได้จากโครงการเราชนะ 2.5 ล้านคน จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน นาน 6 เดือน วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท

3. โครงการคนละครึ่ง ระยะ 3 จำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน แบ่งเป็นช่วงแรกเดือนกรกฎาคม-กันยายน 1,500 บาท และเดือนตุลาคม-ธันวาคม อีก 1,500 บาท รวมไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน วงเงินรวม 93,000 ล้านบาท

4. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จำนวนไม่เกิน 4 ล้านคน จะได้รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voucher) สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน และจะคืนเป็นวงเงินใน จี-วอลเล็ตทุกต้นเดือนถัดไป โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ วงเงินรวม 28,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายประเมินมาตรการทั้ง 4 โครงการอาจยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ออกมาระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตที่สูงต่อเนื่อง ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหดหายเกือบทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 2

ที่สำคัญ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 2 และ 3 เม็ดเงินที่เติมเข้ามายังน้อยมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียหาย จึงต้องติดตามพระราชกำหนดกู้เงินฉบับใหม่ของรัฐบาล วงเงิน 500,000 ล้านบาท จะนำมากระตุ้นภาคเศรษฐกิจอย่างไร และเสนอให้รัฐบาลควรเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการเติมเม็ดเงินโครงการคนละครึ่งจาก 93,000 ล้านบาท เป็น 186,000 ล้านบาท หรือเพิ่มจากคนละ 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท และเติมเม็ดเงินโครงการช้อปดีมีคืน โครงการท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการกระตุ้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้นได้

แต่ก่อนที่เม็ดเงินก้อนใหม่จะเติมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาใช้บริการ รีบฉกฉวยจังหวะเกาะกระแสการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายและงัดแคมเปญดึงดูดลูกค้ารูปแบบต่างๆ โดยจับมือกับร้านอาหารต่างๆ อัดโปรโมชั่นกันคึกคัก

อย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกแห่งประกาศสนับสนุนให้คนไทยฉีดวัคซีนภายใต้แคมเปญ Got Vaccinated Get Free Offers ฉีดแล้วรับฟรี เมนูอร่อยจากร้านดังได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นแมคโดนัลด์แจกเฟรนช์ฟรายส์ ร้านซูกิชิแจกฟรีกิมจิโก โก เมื่อเข้ารับประทานอาหารที่ร้าน ส่วนร้าน ZEN แจกฟรีทาโกะยากิ 1 ที่ หรือเลือกสลัดไส้กรอกอาราบิกิ เมื่อซื้ออาหารเพียง 1 เมนู

ขณะเดียวกัน บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ซึ่งมีร้านอาหารในเครือมากถึง 16 แบรนด์ จัดแคมเปญ HELP THAI FIGHT COVID-19 ให้สิทธิพิเศษทุกแบรนด์ในทุกสาขาที่อยู่ในศูนย์การค้าต่างๆ เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่เข็มแรก มีทั้งซื้อ 1 แถม 1 ที่ร้านมิสเตอร์โดนัท และ อานตี้ แอนส์ แบรนด์ละ 1 ล้านสิทธิ์ รวม 2 ล้านสิทธิ์ และรับฟรี เมนูพิเศษ เมื่อรับประทานเมนูใดก็ได้ หรือ เมนูที่แบรนด์กำหนดที่ร้านเปปเปอร์ลันช์ รับฟรีข้าวเปปเปอร์หมู มูลค่า 129 บาท

ชาบูตงราเมนรับฟรีหมูชาชู 2 ชิ้นมูลค่า 85 บาท โคล สโตน ครีมเมอรี่รับฟรี ไอศกรีม 2 สกู๊ป มูลค่า 60 บาท ไทยเทอเรส รับฟรีกล้วยไข่เชื่อม มูลค่า 74 บาท โยชิโนยะ รับฟรีเต้าหู้ทอดคาราอาเกะ มูลค่า 45 บาท โอโตยะ รับฟรีสลัดหมูชาบูราดซอสต้นหอมญี่ปุ่น มูลค่า 115 บาท เทนยะ รับฟรีชีสเทมปุระ มูลค่า 49 บาท คัตสึยะ รับฟรีข้าวหน้าหมูสไลด์มูลค่า 119 บาท และ ส้มตำนัว รับฟรีชามะนาว 1 แก้วมูลค่า 75 บาท

ด้านค่ายบาร์บีคิวพลาซ่าให้ลูกค้าแสดงเพียงหลักฐานการจอง หรือหลักฐานการรับวัคซีน ได้สิทธิ์รับฟรี เมนูจานเด็ดจาก GON GANG ได้แก่ บาร์บีคิว พลาซ่า และจุ่มแซ่บฮัท รับฟรีเกี๊ยวซ่าทอด มูลค่า 79 บาท ร้านฌานาให้ฟรี เห็ดทอดซอสวาซามาโย มูลค่า 105 บาท ร้านโภชาให้ฟรีเกี๊ยวทอดผักโขมอบชีส มูลค่า 85 บาท โดยมีเงื่อนไขสั่งอาหารตั้งแต่ 120 บาทขึ้นไปหลังหักส่วนลด 1 สิทธิ์ต่อ 1 ใบเสร็จ ระยะเวลาโปรโมชั่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายน

ร้านนิตยาไก่ย่าง จัดโปรโมชั่นใช้บริการครบ 100 บาทขึ้นไป และแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนพร้อมบัตรประชาชน รับฟรี ส้มตำไทย หรือ ส้มตำปูราคา 70 บาท จำนวน 50,000 สิทธิ์

ร้านนีโอ สุกี้ งัด 2 โปรโมชั่น ได้แก่ โปรเฉพาะรับประทานในร้าน ลดราคาสุกี้ ชุดรวมฮิตนีโอ จากปกติ 349 บาท ลดเหลือ 200 บาท และโปรเฉพาะซื้อกลับบ้าน ลดราคาสุกี้ชุด The box ในราคา 699 บาท รับส่วนลด 100 บาท

ส่วนฟาสต์ฟู้ด เท็กซัส ชิคเก้น ที่มีทั้งสาขาในศูนย์การค้าและสถานีบริการน้ำมัน มอบสิทธิพิเศษ รับฟรี ไก่คิกคิก 1 กล่อง มูลค่า 35 บาท สำหรับผู้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อม Add Line Official ของเท็กซัส ชิคเก้น เพื่อกดรับคูปอง จำนวน 50,000 สิทธิ์

ทั้งหมดถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของธุรกิจที่พยายามดิ้นรนฝ่าวิกฤตโควิด ยิ่งไปกว่านั้น แคมเปญวัคซีนโควิดยังสร้างกระแสได้ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี หรืออาจนานกว่านั้น เพราะจนถึงวันนี้ ดูเหมือนหลายฝ่ายยังคงไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนได้ทันกำหนดตามเป้าหมายหรือไม่

ใส่ความเห็น