ปีแห่งความท้าทายของ KTC เร่งขยายสินเชื่อ-เป็นผู้นำครบวงจร
แม้จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจสินเชื่อและบัตรเครดิตที่สร้างผลกำไรนิวไฮมาตลอดหลายปี แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 และลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้บริษัทบัตรกรุงไทย หรือเคทีซี ต้องปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งต่อระบบเศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พร้อมเร่งขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและเพดานดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง การระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมาทำให้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ของเคทีซีได้รับผลกระทบ โดยเดือนเมษายน 2563 ยอดการใช้บัตรลดลงถึง 40% และกระทบในทุกเซกเมนต์ของธุรกิจ อีกทั้งมาตรการลดเพดานดอกเบี้ยทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ ยังส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2563 ลดลงกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ทำให้บริษัทต้องปรับตัวขนานใหญ่ ซึ่งปีที่ผ่านมา เคทีซีปรับตัวโดยเน้นการพัฒนากระบวนการทำงานทั้งระบบ (End to End Process Improvement) ลดความซ้ำซ้อนและซับซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งมีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงานมากขึ้น และปรับ Business Model โดยเดินหน้าสินเชื่อมีหลักประกันอย่าง “เคทีซีพี่เบิ้ม” ที่ครอบคลุมทั้งทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นหลัก เพื่อสร้างรายได้ทดแทนส่วนอื่น ทำให้ผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2563 เคทีซียังคงสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 5,332
Read More