เจาะสมรภูมิโรงภาพยนตร์ โจทย์ใหญ่ของ “พิมสิริ ทองร่มโพธิ์”
“นี่คือวิกฤตที่เลวร้ายที่สุด ถึงขั้นเคย Fail คิดว่าถ้ามีมาร์เก็ตติ้งไดเรกเตอร์ที่ดีกว่านี้อาจทำให้ผ่านวิกฤตไปได้ดีกว่านี้ แต่ผู้ใหญ่ที่นับถือบอกว่า โควิดเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอ ไม่ได้แปลว่า คนที่มีประสบการณ์มากกว่าจะผ่านไปได้ดีกว่าที่เราทำ เพราะไม่เคยเจอเหมือนกัน แต้มทุกคนเท่ากัน” พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ทายาทคลื่นลูกใหม่ของค่ายโรงภาพยนตร์ “เอสเอฟซีเนม่า” ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พูดถึงวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุด ต้องงัดทุกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะปีนี้เจอมาตรการล็อกดาวน์ปิดให้บริการนานถึง 158 วัน “ธุรกิจโรงหนังกระทบหนัก เพราะหัวใจของโรงหนังคือภาพยนตร์ การถูกปิดในกรุงเทพฯ โซนหลักทำให้ค่ายหนังจะไม่เอาหนังเข้าฉาย เพราะหนังเข้าได้ครั้งเดียว ซึ่งพวกเราเข้าใจและต้องหารายได้อื่น ทุกคนยืนอยู่บนคำตอบเดียวไม่ได้ ต้องรีบหาโอกาส หาธุรกิจเสริมและธุรกิจทางเลือกอื่นๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เอสเอฟฯ จะโฟกัสต่อไปในปีหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากวิกฤตต่างๆ” อันที่จริง เอสเอฟฯ พยายามเพิ่มโอกาสจากธุรกิจเสริมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนโควิด เพื่อสร้างประสบการณ์ (Experience) ใหม่ๆ ให้กลุ่มลูกค้านอกเหนือจากการชมภาพยนตร์ เช่น การเปิด SF Shop จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับตัวภาพยนตร์ ทั้งการขายหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ การเปิด Cine Café
Read More