ทรุ้มพ์ฟ เดินหน้าสู่อนาคต ปักหมุดสร้างโชว์รูมในไทย
อุตสาหกรรมเหล็กในปีที่ผ่านมาการบริโภคเหล็กประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในงานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน ในปี 2567 มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเหล็กจะมีแนวโน้มเติบโต ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วิจัยกรุงศรีประเมินว่าในช่วงปี 2567-2569 ภาครัฐมีแนวโน้มเร่งรัดการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเครือข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยปี 2566-2570 ในส่วนของกระทรวงคมนาคมถูกกำหนดไว้ 112 โครงการวงเงินลงทุน 9.8 แสนล้านบาท นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นจากค่ายรถยนต์ต่างชาติที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ทั้งหมดน่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กในไทยขยายตัวขึ้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ หรือยอดการบริโภคเหล็กทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 17 ล้านตัน ซึ่งเป็นการคาดการณ์ของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมเหล็กจำเป็นต้องผูกโยงอยู่กับอุตสาหกรรมหรือธุรกิจอื่นๆ ซึ่งหากจะมองว่าอุตสาหกรรมเหล็กแปรรูป คืออุตสาหกรรมปลายน้ำก็คงจะไม่ผิดนัก แม้การเติบโตของอุตสาหกรรมยังต้องอาศัยการขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมอื่น ทว่า ทรุ้มพ์ฟ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการขึ้นรูป โลหะแผ่น ยังมุ่งมั่นที่จะขยายตัวกรุยทางเพื่อการเติบโตโดยเฉพาะในไทย ทรุ้มพ์ฟ ดำเนินธุรกิจมา 100 ปีในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรเพื่อการแปรรูปโลหะแผ่น เทคโนโลยีเลเซอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าส่วนใหญ่ของทรุ้มพ์ฟมีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม แต่การเติบโตที่ผ่านมาของทรุ้มพ์ฟดูจะไม่เพียงพอ การปักหมุดเลือกไทยเป็นโชว์รูมแห่งแรก
Read More