น้ำเต้าหู้หมื่นล้าน แห่เปิดร้านอัปเกรดพรีเมียม
แน่นอนว่า เมนูปาท่องโก๋ต้องกินคู่กับน้ำเต้าหู้ ซึ่งร้านน้ำเต้าหู้ยุคปัจจุบันสไตล์คนรุ่นใหม่ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและได้ผลตอบรับค่อนข้างดีด้วย ทั้งในแง่ตลาดความต้องการของผู้บริโภคและจำนวนร้านเปิดใหม่พุ่งพรวดกว่าเท่าตัว หากเจาะเฉพาะตลาดน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง เคยมีข้อมูลการวิจัยของยูโรมอนิเตอร์ระบุว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่บริโภคถั่วเหลืองเป็นอันดับ 3 ของโลก อัตราการบริโภคมากกว่า 12 ลิตรต่อคนต่อปี รองจากฮ่องกงและสิงคโปร์ และตลาดน้ำนมถั่วเหลืองในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ทุกปี ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากคนไทยที่มีอายุมากขึ้น จึงลดการบริโภคนมโคลงและหันมาบริโภคน้ำนมถั่วเหลือง ขณะที่คนรุ่นใหม่นิยมดื่มน้ำเต้าหู้ เพื่อลดความเสี่ยงการแพ้นมวัว รวมทั้งความนิยมในการบริโภคอาหารเจทำให้ตลาดนมถั่วเหลืองแข่งขันสูงขึ้น ทั้งเรื่องนวัตกรรมสินค้าและรสชาติใหม่ๆ ถ้าแยกสัดส่วนตลาดนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มในประเทศไทยแบ่งเป็นชนิดกล่องยูเอชทีประมาณ 84% แบบขวดแก้วหรือสเตอริไรซ์ 13% และแบบพาสเจอไรซ์ (คั้นสด) 3% ซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดเทรนด์ใหม่ในกลุ่มผู้บริโภค มีความต้องการนมถั่วเหลืองพาสเจอไรซ์ ต่อยอดจากแบบคั้นสดมากขึ้น เพราะไม่ผสมนมผง ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใส่สารเคมี เติมสีหรือกลิ่น มีความอร่อยสดเหมือนกินน้ำเต้าหู้ตามร้านค้า แต่สามารถซื้อมาเก็บในตู้เย็นได้นานกว่าน้ำเต้าหู้ทั่วไป เพราะผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ขณะเดียวกัน ตลาดผลิตภัณฑ์นมจากพืช ซึ่งรวมถึงนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้มีการเติบโตสูงตั้งแต่ช่วงปี 2565 และปี 2566 ภาพรวมตลาดมีมูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท ถือเป็นอานิสงส์จากเทรนด์การใส่ใจด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กระตุ้นให้ผู้บริโภคในตลาดให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์
Read More