Buddy HomeCare จากมูลนิธิสู่โมเดลธุรกิจ พร้อมดูแลผู้สูงวัยและสร้างโอกาสให้กับเยาวชน
ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 จากการคาดการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวภายในปี 2565 และในปี พ.ศ. 2573 ประชากรสูงวัยจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 26.9 ของประชากรทั้งประเทศ สัดส่วนของผู้สูงอายุหรือประชากรที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สัดส่วนของอัตราการเกิด และจำนวนประชากรในวัยทำงานลดน้อยลง การเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงวัยเป็นประเด็นสำคัญที่ใกล้ตัว แต่ในขณะเดียวกันปัญหาเยาวชนกลุ่มเปราะบางที่ขาดโอกาสทางการศึกษาก็ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องการการแก้ไขอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นประเด็นปัญหาต่างวาระ แต่ทั้งสองประเด็นสามารถแก้ไขและเตรียมรับมือไปพร้อมกันได้ ดังที่ “บัดดี้ โฮมแคร์” (Buddy HomeCare) ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่เล็งเห็นความเป็นไปได้ จึงได้พยายามพัฒนารูปแบบจากการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุแบบมูลนิธิสู่โมเดลธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ รวมถึงแก้ปัญหาเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ควบคู่ไปกับการเตรียมรับมือกับสังคมผู้สูงวัยไปพร้อมๆ กัน ปัจจุบันธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเกิดขึ้นอย่างมากมายตามจำนวนประชากรผู้สูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น และมีหลากหลายบริการให้เลือก “บัดดี้ โฮมแคร์” ถือเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้บัดดี้ โฮมแคร์ แตกต่างจากโฮมแคร์ทั่วๆ ไป อยู่ที่พนักงานที่เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุทุกคน ล้วนแล้วแต่เป็นเยาวชนที่ขาดโอกาสด้านการศึกษาทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่น่าเป็นห่วง “บัดดี้ โฮมแคร์” ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่และศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือของไทย อย่าง “เชียงใหม่” เป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ
Read More