ตลาดต้นไม้โตสวนกระแส ธุรกิจทำเงินยุค Work From Home
หากจะเปรียบเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นคลื่นสึนามิที่ซัดเข้าใส่อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจบางรายตั้งหลักไม่อยู่ล้มระเนระนาดก็คงจะไม่ผิดนัก ผู้ประกอบการธุรกิจบางรายที่ยังมีทุนรอน มีสายป่านยาวเพียงพอจะพยุงตัวลุกขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้ง แต่จะต้องปรับตัวอยู่มากพอสมควร แต่ยังมีอีกหลายกิจการที่ไปไม่รอด ต้องประกาศหยุด ยกเลิกหรือขายกิจการไปในที่สุด เพื่อเป็นการลดหรือตัดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป หลายคนมองว่ากิจการที่น่าจะไปได้ในสถานการณ์อันยากลำบากนี้คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่นั่นต้องแลกกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ช่องทางการขายที่ถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่ แม้จะมีช่องทางออนไลน์เป็นตัวเสริม แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบหรือตัวแปรที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์อันยากลำบาก นอกจากธุรกิจอาหารที่พอจะมีช่องทางให้ไปต่อได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ “ไปต่อได้” เท่านั้น ทว่า กลับสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้แก่ผู้ประกอบการในเวลานี้ นั่นคือ ธุรกิจต้นไม้ ก่อนหน้าที่สถานการณ์โควิดจะลุกลามบานปลายเช่นทุกวันนี้ ตลาดต้นไม้นั้นซบเซาเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว มีเพียงต้นไม้ไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงมีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่คึกคักมากนักแต่กระแสแทบไม่แผ่วในกลุ่มนักเล่นไม้ด้วยกัน นั่นคือ กระบองเพชร ไม้อวบน้ำ และไม้ใบ ในช่วงที่ประเทศไทยประสบกับปัญหาฝุ่นมลพิษ PM2.5 ช่วงนั้นเองที่ตลาดต้นไม้เริ่มกลับมาคึกคักและอยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภคอีกครั้ง เมื่อประชาชนเริ่มมองหาตัวช่วยในการฟอกอากาศภายในบ้าน นอกเหนือไปจากเครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้ การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกแรกที่ภาครัฐประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการ Work From Home เพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสนั้น มาตรการนี้จึงเป็นเหมือนตัวจุดชนวนให้ตลาดต้นไม้ค่อยๆ ฟื้นตัว เมื่อการปลูกต้นไม้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสร้างความผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด เป็นกิจกรรมยามว่างของประชาชนเมื่อต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากกว่าช่วงเวลาปกติ สองประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น คงสร้างให้เกิดยอดขายในตลาดต้นไม้ได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ที่กลายเป็นกระแส เป็นเทรนด์ที่แม้แต่คนไม่สนใจการปลูกต้นไม้ยังต้องทำตาม และกลายเป็นจุดเปลี่ยนราคาต้นไม้ในตลาด
Read More