จากน่านสู่หลวงพระบาง บนเส้นทางของความเปลี่ยนแปลง
น่าน จังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือของไทย ที่หลอมรวมเอาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของหลากหลายชาติพันธุ์ไว้มากมาย รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวน่านที่เรียบง่าย ทว่า ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผสมผสานให้น่านกลายเป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ก่อนหน้านี้น่านอาจต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ครั้งหนึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเคยบรรจุน่านเข้าในแคมเปญเมืองต้องห้ามพลาด แน่นอนว่ามีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นมากมายรองรับการมาถึงของนักท่องเที่ยวที่แสวงหาสถานที่ใหม่ๆ ที่พร้อมจะเปิดรับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากที่เคย ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า คนน่านเองเคยแสดงความวิตกกังวลว่า กิจกรรมการโปรโมตการท่องเที่ยวในจังหวัดน่านส่งผลให้การท่องเที่ยวในจังหวัดน่านขยายตัวเร็วเกินไป จะทำให้น่านเดินตามรอย “ปาย” จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีทุนจากภายนอกเข้ามา มากกว่าจะเป็นคนในท้องถิ่น เมื่อในเวลานั้นน่านอาจจะยังไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทว่า ความแข็งแกร่งของชาวน่านดูจะสามารถยืนหยัดกับสิ่งเร้าที่เข้ามาใหม่ได้เป็นอย่างดี เมื่อปัจจุบันน่านยังคงอัตลักษณ์และรักษาวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รวมไปถึงบรรยากาศเมืองอันเงียบสงบเอาไว้ได้ กระนั้นยังมีอีกประเด็นที่การท่องเที่ยวจังหวัดน่านเคยกังวล เมื่อครั้งที่มีโครงการสร้างถนนสายสำคัญจากด่านห้วยโก๋นจังหวัดน่านไปสู่เมืองหลวงพระบาง ว่าหากเส้นทางนี้สร้างเสร็จลุล่วง น่านจะถูกลืมเลือนและกลายเป็นเมืองทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกใช้การเดินทางโดยรถยนต์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองมรดกโลกของ สปป. ลาว ถนนหงสา-บ้านเชียงแมน สู่หลวงพระบางที่ภาครัฐโดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) หรือ NEDA ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป. ลาว ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การให้ความช่วยเหลือทางการเงินของประเทศไทยแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ในด้านการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว ภายใต้กรอบวงเงิน 1,977 ล้านบาท ระยะทาง 114 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะกลายเป็นเส้นทางสำคัญที่สนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ไปยังหลวงพระบางเมืองมรดกโลก ด้วยการเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาการเดินทางประมาณ
Read More