Home > อสังหาริมทรัพย์ (Page 8)

คลายข้อสงสัย LGBTQ+ อยากกู้ซื้อบ้าน เผชิญความท้าทาย-โอกาสมากน้อยแค่ไหน?

เดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศที่เรียกกันว่า Pride Month ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 ซึ่งนำมาสู่การเรียกร้องสิทธิของชาว LGBTQ+ ทั่วโลก และการเดินขบวนเรียกร้องสิทธิ LGBT Pride March ในปีถัดมา ปัจจุบันสังคมทั่วโลกตระหนักรู้และยอมรับความเสมอภาคทางเพศและได้ให้ความสำคัญไปจนถึงนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เจาะกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น อย่างไรก็ดีผู้บริโภคชาว LGBTQ+ ต้องการการยอมรับจากสังคมด้วยความเข้าใจที่แท้จริง และความต้องการของเขาเหล่านี้ก็ไม่ได้ผิดแผกแตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเพศชายและหญิงมากนัก แต่สิ่งที่ชัดเจนคือการยอมรับในความเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสังคม ข้อมูลจากรายงาน LGBT GDP, WEALTH & TRAVEL DATA 2018 โดย LGBT Capital คาดการณ์ว่าทั่วโลกมีจำนวนประชากรกลุ่ม LGBTQ+ ประมาณ 6.5% หรือประมาณ 496 ล้านคน อยู่ในแถบเอเชียประมาณ 293 ล้านคน โดยประชากร LGBTQ+ ชาวไทยมีถึง 4.5 ล้านคน ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้มีกำลังซื้อและพฤติกรรมการใช้เงินในระดับดี มีการประมาณส่วนแบ่งความมั่งคั่งในครัวเรือนของผู้บริโภค

Read More

แสนสิริ จับมือ XSpring และ Bitazza เปิดรับสกุลเงินดิจิทัล “ใช้คริปโทซื้อบ้าน คอนโด แสนสิริ จ่ายค่าส่วนกลางได้ทุกโครงการ”

แสนสิริ จับมือ XSpring และ Bitazza ​เปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ซื้ออสังหาฯ "ใช้คริปโทซื้อบ้าน คอนโด แสนสิริ จ่ายค่าส่วนกลางได้ทุกโครงการ" ลั่น!! เปิดรับทุก Wallet ไม่จำกัด พร้อมคอนเฟิร์มเรตได้ภายใน 5 นาที รับตลาดคริปโทโตก้าวกระโดด พุ่งกว่า 1.16 ล้านบัญชี ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยและเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายเดียวของประเทศที่มีรายได้สูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 34,707 ล้านบาท ได้รับการตอบรับในแบรนด์ที่แข็งแกร่งในต่างประเทศ ทั้งจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ครองอันดับหนึ่งด้วยยอดขายในตลาดต่างชาติสูงสุดกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี ความแข็งแกร่งในธุรกิจของแสนสิริมาจากการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ส่งผลให้แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านการขายและโอนโครงการ ล่าสุดแสนสิริได้ขยับล้ำหน้าไปอีกก้าวด้วยการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโทซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ทุกโครงการ!! พร้อมยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางโครงการได้ตลอดทุกปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย “ความแข็งแกร่งของแสนสิริในภาคอุตสาหกรรม

Read More

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก โชว์ศักยภาพโครงการมิกซ์ยูส เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เฟส 2

สุฐิตา โชติจุฬางกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต  แบงคอก (ราชประสงค์) อัพเดตความคืบหน้าโครงการมิกซ์ยูส The Market Bangkok โดยล่าสุดได้แต่งตั้งให้ บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำหน้าที่รับเหมาก่อสร้าง เดินหน้าบริหารงานก่อสร้างโครงการ    มิกซ์ยูส The Market Bangkok เฟส 2 โครงการมิกซ์ยูส The Market Bangkok อยู่ภายใต้การบริหารของ เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและธุรกิจโรงแรม ได้แก่ ศูนย์แฟชั่นค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ (The Platinum Fashion Mall), โรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ และ ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ตั้งเป้าสู่การเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งใหม่ใจกลางเมือง พร้อมทั้งเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังเดินหน้าแผนเชิงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจในเครือของบริษัทที่มีอยู่ ซึ่งโครงการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการก็มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะโครงการ The Market Bangkok หลังจากได้เปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง The Market Bangkok Phase 2 ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่ามีขนาด พื้นที่เช่า 38,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนอาคารโซน M2 ของศูนย์การค้า เดอะ

Read More

ไปต่อหรือพอแค่นี้? ผ่อนบ้านไม่ไหว มีทางออกไหนน่าสนใจบ้าง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้ประกอบการไปจนถึงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ว่าปี 2564 จะเป็นปีแห่งการฟื้นธุรกิจให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง แม้จะเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้กลุ่มเป้าหมายบางส่วนแล้ว แต่การแพร่ระบาดฯ ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะควบคุมได้ในเร็ววันนี้ ย่อมส่งผลกระทบไปถึงความมั่นคงทางการเงินของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเคยมีประสบการณ์ในการรับมือวิกฤติในปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม เห็นได้จากผลสำรวจ "สถานภาพแรงงานไทย: กรณีศึกษาผู้มีรายได้ ต่ำกว่า 15,000 บาท” ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า สถานภาพหนี้ของแรงงานไทยปี 2564 นั้นมีหนี้สินของครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากปี 2562 มาอยู่ที่ 98.1% โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการกู้ยืมเพื่อนำมาใช้จ่ายประจำวัน เพื่อการศึกษาและใช้หนี้บัตรเครดิต ส่วนใหญ่มีปัญหาการผิดนัดผ่อนชำระหนี้สูงถึง 85.1% เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงินจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาระหนี้ครัวเรือนของแรงงานไทยในปีนี้ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยอยู่ที่ครัวเรือนละ 205,809 บาท หรือเพิ่มขึ้น 29.56% นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวขึ้นน่าจะทำให้เงินกู้ยืมของภาคครัวเรือนในปี 2564 มีโอกาสเติบโตขึ้นสูงกว่าปี 2563 ซึ่งภาพดังกล่าวอาจส่งผลต่อเนื่องให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในปี 2564 ขยับสูงขึ้นมาอยู่ในกรอบประมาณ 89.0 - 91.0% ต่อจีดีพี เรียกได้ว่าปัญหาสภาพคล่องทางการเงินถือเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้น ๆ ของผู้บริโภคในยุคนี้เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าในภาคอสังหาฯ ที่แม้จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิตของผู้บริโภค

Read More

สรุปภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานและตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ ไตรมาส 1 ปี 2564

หลังจากผ่านไปหนึ่งปีเต็มภายใต้แรงกดดันทางการเงินที่เกิดจากโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก พบว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครต้องเผชิญกับภาวะซัพพลายที่กลับเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากการลดพื้นที่ของผู้เช่า ส่วนตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก ตลาดอาคารสำนักงาน ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากผู้เช่าพิจารณาใช้พื้นที่ลดลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีการใช้นโยบายให้พนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ปริมาณพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ในไตรมาสแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 25,000 ตารางเมตร เป็น 9.26 ล้านตารางเมตร จากอาคารดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ (WHA Tower) ในย่านบางนา – ตราด โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งในอาคารเป็นการใช้พื้นที่ของเจ้าของอาคารเอง ซึ่งทำให้ซัพพลายในย่านนี้คิดเป็นเพิ่ม 13% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา และในย่านดังกล่าวมีอัตราการใช้พื้นที่สำนักงานโดยรวมอยู่ที่ 80.4% ณ ไตรมาส 1 ปี 2564 ในด้านการใช้พื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้นใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2564 นั้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า

Read More

พร็อพเพอร์ตี้กูรูเดินหน้าเติบโตในไทย เข้าซื้อเว็บไซต์ thinkofliving.com และ Prakard.com ดีลใหญ่กับอาร์อีเอ กรุ๊ป

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู จำกัด (“PropertyGuru” หรือ “กลุ่มบริษัท”) บริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (proptech) ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นบริษัทแม่ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งในประเทศไทย ประกาศวันนี้ว่า กลุ่มบริษัทได้เข้าทำสัญญาเพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของอาร์อีเอ กรุ๊ป (REA Group) สำหรับกิจการในไทยและมาเลเซีย อันได้แก่ เว็บไซต์ thinkofliving.com และ Prakard.com ในประเทศไทย และเว็บไซต์ iProperty.com.my และ Brickz.my ในประเทศมาเลเซีย ตามข้อตกลงดังกล่าว อาร์อีเอ กรุ๊ปจะเข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 18 ในกลุ่มบริษัทที่ขยายขึ้นนี้ และแต่งตั้งกรรมการหนึ่งคนเพื่อเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ทั้งนี้ คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2564 การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ตอกย้ำความเป็นผู้นำของพร็อพเพอร์ตี้กูรูในฐานะบริษัทอันดับหนึ่งด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเพิ่มธุรกิจเหล่านี้เข้าในกลุ่มบริษัทจะช่วยเสริมความสามารถในการให้บริการของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ครบถ้วน โปร่งใส และเข้าถึงง่าย รองรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ธุรกรรมดังกล่าวยังสอดคล้องกับแนวทางของพร็อพเพอร์ตี้กูรูในการสร้าง “แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้” ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างตัวแทนขาย

Read More

LPN ปลื้ม ปิดการขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ตามเป้า 1,500 ล้านบาท

LPN ผู้ดำเนินธุรกิจทางด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำ ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” ประกาศความสำเร็จในการปิดการขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี วงเงิน 1,500 ล้านบาท หลังผู้ลงทุนทั่วไปให้ความสนใจจองซื้อเต็มจำนวน เชื่อผู้ลงทุนมั่นใจในศักยภาพของบริษัทผ่านการพิสูจน์บนเส้นทางของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี รวมถึงพึงพอใจผลตอบแทนที่ 3.95% ต่อปี นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านการเงิน บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ LPN ระหว่างวันที่ 10 – 12 พฤษภาคม ทีผ่านมา ประสบความสำเร็จมีผู้ลงทุนสนใจเป็นจำนวนมาก บริษัทจึงได้พิจารณาออกหุ้นกู้สำรองเพิ่มเติม รวมมูลค่าเสนอขาย ทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งผลตอบแทนที่ดี มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอจากบริษัทที่ได้รับการยอมรับและผ่านการพิสูจน์บนเส้นทางของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี โดยทั้งบริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดเครดิตเรทติ้งที่ระดับ ‘BBB+’

Read More

จับชีพจรตลาดอสังหาฯ ไทย หวัง “วัคซีนต้านไวรัส” ช่วยบรรเทาพิษโควิด-19

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุด ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง แม้จะมีมาตรการจากภาครัฐมาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในช่วงปิดประเทศ ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวตามกำลังซื้อผู้บริโภค กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยแต่ไม่มีความพร้อมด้านการเงิน หวังความชัดเจนของแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแปรสำคัญเข้ามาพลิกฟื้นความเชื่อมั่นและกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้กลับคืนมา ข้อมูลล่าสุดจากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index เผยดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 190 จุด จาก 197 จุด หรือลดลง 4% จากไตรมาสก่อน ถือเป็นดัชนีราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 15 ไตรมาส (นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2560) แม้เคยคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ จะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในปีนี้ แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้มีความเป็นไปได้ยาก คาดว่าตลาดจะมีทิศทางเติบโตอีกครั้งเมื่อภาครัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดฯ ได้ และมีการฉีดวัคซีนมากเพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า

Read More

ยักษ์อสังหาฯ อึด ฮึด สู้โควิด MQDC ลุยขาย เดอะ ฟอเรสเทียส์

แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณหดตัวตั้งแต่ต้นปี 2564 จากพิษโควิดระลอก 3 แต่กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างประกาศอัดกลยุทธ์ปลุกกำลังซื้อลูกค้า โดยเฉพาะที่น่าจับตา คือ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ซึ่ง ทิพพาภรณ์ (เจียรวนนท์) อริยวรารมย์ ทายาทสาวเจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท เดินหน้าดีเดย์เปิดขายโครงการที่พักอาศัย เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) ซึ่งใช้เม็ดเงินลงทุนทั้งโปรเจกต์กว่า 125,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ล่าสุด บริษัทยังทุ่มเม็ดเงิน 1,400 ล้านบาท สร้าง ฟอเรสต์ พาวิลเลียน อาคารขนาดใหญ่ พื้นที่ 6,500 ตารางเมตร โดยดึงบริษัทสถาปนิกระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ออกแบบอาคาร มี ITEC Entertainment จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ออกแบบ Entertainment Experience

Read More

ตลาดบ้านป่วนหดตัว เบรกโครงการ ลุ้นกำลังซื้อรอบใหม่

วิกฤตโควิดที่ยังแพร่เชื้อไม่หยุดเริ่มทลายความหวังการฟื้นเศรษฐกิจปี 2564 โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่งสัญญาณการหดตัวชัดเจนจากตัวเลขการเปิดขายโครงการใหม่ช่วงไตรมาสแรกและมีแนวโน้มติดลบสูงขึ้น เนื่องจากต้องรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อรอบใหม่ การฟื้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและการลุยกระจายวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเร่งด่วนที่สุด ล่าสุด คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ตัดสินใจปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 จากเดิม 1.5-3.5% เป็น 1.5- 3.0% ขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายและมาตรการของรัฐที่มีขนาดกว่า 2 แสนล้านบาทจะเข้ามาเยียวยาเศรษฐกิจ แต่หากไม่มีเม็ดเงินดังกล่าว จีดีพีจะไม่ขยายตัวหรือเติบโต 0% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงสูงจากการระบาดระลอกใหม่ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบอุปสงค์ในประเทศ แม้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวชัดเจนขึ้นมากจะส่งผลดีต่อแนวโน้มส่งออกของไทยในระยะต่อไป ขณะเดียวกัน รัฐบาลเริ่มมีปัญหาด้านเสถียรภาพ เกิดความแตกแยกภายในพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชนเริ่มปลุกกระแสเรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยุบสภา ไปจนถึงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก ซึ่งหากการเปลี่ยนแปลงไม่ได้สะท้อนภาพลักษณ์ดีขึ้นย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่น ทั้งในระดับประเทศและกับประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ทุกธุรกิจต่างอยู่ในภาวะ Wait and See ลุ้นมาตรการใหม่จากทางการ หวังกำลังซื้อและการพลิกฟื้นรอบใหม่

Read More