สภาพอากาศกลางเดือนมีนาคมในประเทศไทยที่อุณหภูมิความร้อนไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งแตะ 36 องศาเซลเซียส คงทำให้ใครหลายคนต้องมองหาตัวช่วยดับร้อน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสถานที่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยแอร์เย็นๆ หรือการอาบน้ำชำระล้างเหงื่อกาฬเพื่อเรียกความสดชื่นคืนมา แต่นั่นเป็นการคลายร้อนเพียงภายนอกเท่านั้น หากแต่ตัวช่วยที่สามารถสร้างความกระปรี้กระเปร่าจากภายในคงหนีไม่พ้นน้ำสะอาด หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ช่วยทดแทนการเสียเหงื่อ แน่นอนว่าเครื่องดื่มบรรจุขวดหรือกระป๋องที่เรียงแถวกันบนชั้นในตู้แช่เย็นที่ดาหน้ามาให้ผู้บริโภคเลือกซื้อกันนั้น แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นต่อร่างกาย แต่ภาวะการตลาดของเครื่องดื่มเกลือแร่กลับร้อนระอุ เมื่อมีการแข่งขันที่สูงขึ้น เครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท ตัวเลขการตลาดของเครื่องดื่มเกลือแร่ที่สูงในขณะที่คู่แข่งทางการตลาดยังมีจำนวนไม่มากมายนัก ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมียักษ์ใหญ่หลายค่ายมองเห็นช่องทางการเติบโต พร้อมความหวังให้ตัวเลขในบัญชีรายรับสูงขึ้น และเริ่มบุกตลาดเพื่อหวังแชร์ส่วนแบ่งของเค้กก้อนเขื่องที่มีกลิ่นหวานหอมชวนลิ้มลอง ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ถูกเพิ่มดีกรีความร้อนจากค่าย “คาราบาวกรุ๊ป” ที่ส่ง “สตาร์ท พลัส ซิงค์” ลงมาประเดิมตลาด ที่พร้อมจะแข่งกับผู้นำตลาดอย่างแบรนด์สปอนเซอร์ ที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการชูส่วนประกอบสำคัญอย่าง “Zinc” ที่เป็นตัวช่วยควบคุมกระบวนการต่างๆ ในร่างกายให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยซ่อมบำรุงเอนไซม์ รวมถึงเซลล์ต่างๆ หากร่างกายมีเหงื่อออกมากเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายต้องสูญเสียสังกะสีมากถึง 3 มิลลิกรัมต่อวัน ในยุคสมัยที่ผู้คนมักนิยมวิ่งตามกระแสสังคม ที่ผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจกับสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การออกกำลังกายอย่าง T25 หรือการปั่นจักรยาน สิ่งที่ตามมาคือ เรื่องความต้องการอาหารและเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์ สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้ กระแสความนิยมดังกล่าวของผู้บริโภคยิ่งเป็นตัวผลักดันให้การแข่งขันเริ่มดุเดือดมากขึ้น เมื่อผู้แข่งขันทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ต่างพากันควักกระเป๋าทำการตลาดหลายร้อยล้านบาท ทั้ง Ad โฆษณาตัวใหม่
100 PLUSEnergy DrinkM Sportคาราบาวกรุ๊ปซันโวสตาร์ท พลัส ซิงค์เครื่องดื่มเกลือแร่เอ็มสปอร์ต Read More