ชื่อเล่น ชื่อจริง นามแฝง นามปากกา
ประเด็นเรื่องชื่อเล่น ชื่อจริง นามแฝง หรือนามปากกา กลายเป็นประเด็นถกเถียงขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เคยประทุขึ้นมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งถ้าย้อนอดีตไปในประวัติศาสตร์แล้ว ประเด็นนี้ก็ถูกถกเถียงอยู่ในแวดวงต่างๆ เรื่อยมากูเกิ้ลนำประเด็นนี้มาให้เราได้ถกเถียงอีกครั้ง เป็นความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของกูเกิ้ลที่จะสร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ที่เราคงต้องร่วมวงไพบูลย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ การใช้ชื่อเล่น ชื่อจริง นามแฝง หรือนามปากกาก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันเช่นกันเรามาลองตามดูความพยายามของกูเกิ้ลกันหนึ่งในความพยายามของ YouTube ในการแก้ปัญหาเรื่องการแสดงความคิดเห็นที่อาจจะสร้างปัญหาโดยเฉพาะปัญหาที่ส่งผลต่อการดำเนินการเว็บไซต์ของ YouTube อย่างหนักหน่วงนั้นคือ การพยายามผลักดันให้ผู้ใช้งานยกเลิกการแสดงความเห็นโดยไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเป็นวิธีการที่เหล่าอาชญากรออนไลน์ทั้งหลายใช้เมื่อต้องกระทำความผิดดังนั้น ทุกวันนี้การแสดงความคิดเห็น (Commenting) หรือการอัพโหลดภาพวิดีโอขึ้นบนเว็บไซต์ YouTube จึงมีการเรียกหาชื่อจริงเสียงจริงทุกครั้ง โดยมีการประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีของการแสดงชื่อจริงในบล็อกของ YouTube อย่างเป็นทางการ (สามารถดูได้จากhttp://youtube-global.blogspot.com/2012/06/choosing-how-youre-seen-on-youtube.html)ซึ่งการให้แสดงชื่อจริงของ YouTube ยังต่อเนื่องไปถึงการลิงค์ไปยังแอคเคาน์ของ Google+ ซึ่งกูเกิ้ลพยายามโปรโมต อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดีสำหรับคนที่ปฏิเสธไม่ใช้ชื่อจริงก็ต้องให้ เหตุผลกับทาง YouTube ด้วยว่า ทำไมถึงไม่ใช้ชื่อจริง อย่างเช่น แอคเคาน์นี้สำหรับใช้เพื่อทางธุรกิจเท่านั้น เป็นต้นสำหรับ YouTube แล้ว บริการการอัพโหลดไฟล์ภาพวิดีโอของ YouTube ค่อนข้างมีความเสี่ยงในการถูกใส่ข้อความ ที่ไม่ดีไม่งาม ทำให้ YouTube ติดอันดับเว็บที่มีการกำหนดข้อจำกัดในการแสดงความคิดเห็นหรือการใส่ข้อความต่างๆ ที่มีแนวโน้มไปในทางทำให้เกิดความขัดแย้งหรือเป็นประเด็นอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นด้านเชื้อชาติ ศาสนา และการเมืองล่าสุดกูเกิ้ลที่เป็นเจ้าของ YouTube ได้กำชับให้เว็บไซต์นี้ สรรหาวิธีที่จะช่วยลดการทำผิดในลักษณะต่างๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์ โดยก่อนหน้านี้ YouTube จัดการกับการละเมิดในลักษณะต่างๆ โดยอนุญาตให้คนที่อัพโหลดวิดีโอสามารถเซตไม่ให้รับคอมเมนต์ได้ ซึ่งโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำให้ YouTube ถูกตัดออกจากสังคมออนไลน์ไปจากการที่ YouTube ถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยการแสดงความคิดเห็นที่เลวร้ายที่สุดในอินเทอร์เน็ต ทำให้ YouTube พยายามพัฒนาระบบการคอมเมนต์ของตัวเอง อย่างน้อยเพื่อทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายเชื่อฟังมากขึ้นสองปีก่อน YouTube แก้ปัญหาโดยการนำเอา “highlights view” ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้า “top comments” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะแสดงข้อความแสดงความคิดเห็นที่ได้รับการโหวต สูงสุดจากคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นใน YouTube นั้นๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นโดยอ้อมต่อการแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ แต่ YouTube ยังต้องพยายามอีกมากถ้าต้องการจะกำจัดปัญหาข้อความแสดงความคิดเห็นเลวร้ายที่สร้างปัญหาให้กับเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์เองได้ รวบรวมไฟล์วิดีโอที่ดูดีซึ่งสร้างขึ้นโดยบริษัท
Read More