Home > 2020

สกสว.หนุนสตช.จัดทำคู่มือประชาชน ป้องกันภัยจากอาชญากรรมข้ามชาติ

สกสว.หนุนสตช.จัดทำคู่มือประชาชน ป้องกันภัยจากอาชญากรรมข้ามชาติสกสว.หนุนรองผบ.ตร.และคณะ จัดทำ ‘คู่มือป้องกันภัยจากอาชญากรรมข้ามชาติ: ฉบับประชาชน’ เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติในยุคดิจิทัล พร้อมจัดทำเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้ และการบรรยายในหลักสูตรการฝึกอบรมนักบริหารงานตำรวจ พล.ต.อ. ดร.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าโครงการ “การพัฒนาการบริหารจัดการงานตำรวจของไทยและการยกระดับความร่วมมือกับองค์กรตำรวจของประเทศสมาชิกอาเซียนในการดูแลความปลอดภัยสาธารณะจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ” พร้อมด้วยคณะวิจัย และ ผศ.ดร.สุดสวาสดิ์ ดวงศรีไสย์ รองผู้อำนวยการภารกิจการส่งเสริมระบบการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมการเสวนาแถลงข่าวเปิดตัวคู่มือป้องกันภัยจากอาชญากรรมข้ามชาติ สำหรับประชาชน ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสาธิตการใช้เว็บไซต์และส่งมอบคู่มือเพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่แก่ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 ผศ.ดร.สุดสวาสดิ์ระบุว่าประเทศไทยประสบกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่คนต่างชาติสามารถเดินทางเข้าและออกประเทศได้อย่างสะดวก มีค่าครองชีพไม่สูง การบังคับใช้กฎหมายที่อาจไม่เข้มงวดมากนัก สกสว.จึงสนับสนุนโครงการวิจัยเพื่อศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกสถานภาพอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วิเคราะห์ข้อเสนอแนะไปสู่การปฏิบัติในการพัฒนาการบริหารจัดการงานตำรวจของไทย ตลอดจนแสวงหาแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และสร้างตัวแบบเพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจของประเทศสมาชิกอาเซียนหรือประเทศที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจัดทำข้อเสนอเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความร่วมมือ ผลผลิตสำคัญจากโครงการวิจัยดังกล่าว คือ การจัดทำคู่มือฉบับประชาชนเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และสร้างความเข้าใจต่อสังคมในวงกว้าง เรื่องสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติในยุคดิจิทัล ภัยจากอาชญากรรมข้ามชาติที่สำคัญในประเทศไทยกับการป้องกันตนเองของประชาชน สวัสดิภาพความปลอดภัยในโลกวิถีชีวิตใหม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับลักษณะของอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง และรู้จักวิธีการป้องกันตนเองมิให้ตกเป็นเหยื่อจากอาชญากรรมข้ามชาติ ด้าน

Read More

รีวิวบันทึกเหตุการณ์ 2563 ปีโควิด-19 เขย่าโลก สยามพิวรรธน์สร้างปรากฏการณ์ นำโลกรีเทลสู่โมเดลใหม่รับ Now Normal

วิกฤติการณ์ Covid-19 ที่สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ไปทั่วโลกและส่งผลกับทุกมิติในทุกสาขาอาชีพ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนเดืมอีกต่อไปสำหรับในธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าในประเทศไทย ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพร้อมรับชีวิตวิถีใหม่ของลูก้าที่เปลี่ยนไป บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร OneSiam โกลบอลเดสติเนชั่นซึ่งผนึกกำลังของศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของโครงการไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นองค์กรแรกๆ ที่สามารถปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์โควิด -19 ได้เป็นอย่างดี และยังได้สร้างปรากฏการณ์ให้วงการค้าปลีกด้วยการนำเสนอธุรกิจรีลเทลโมเดลใหม่ล่าสุดที่ตอบสนองวิถีการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ก่อนใคร จากวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่สร้างผลกระทบไปทั่วโลกในทุกวงการ สยามพิวรรธน์ นำโลกธุรกิจรีเทลสู่โมเดลใหม่ ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็น ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’ เปิดวิสัยทัศน์มิติใหม่ของศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้คน ตอบสนองวิถีการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคในแบบ Now Normal Innovative Lifestyle ด้วยการสร้าง Retail Ecosystem ชูกลยุทธ์ Collaboration to Win โดยการร่วมกันรังสรรค์ Co-creation และ Creating Shared Values ซึ่งถอดรหัสได้เป็นมิติต่างๆ ดังนี้ มาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ (Innovative Health & Safety) ศูนย์การค้าคือสถานที่มอบความสุขให้แก่ผู้คน ศูนย์การค้ายุคใหม่ต้องสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลเอาใจใส่ตลอดการใช้เวลาภายในศูนย์ฯ

Read More

COVID-19 ระบาดใหม่ ฉุดท่องเที่ยวไทยดิ่งลงเหว

การอุบัติขึ้นของ COVID-19 ที่ไม่ว่าจะถูกกำหนดนิยามว่าเป็นการระบาดรอบสองหรือการระบาดครั้งใหม่กำลังส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทาง ที่คาดหมายว่าจะกลับมามีสีสันและบรรยากาศคึกคักในช่วงปลายปีนี้อย่างไม่อาจเลี่ยง แม้ว่าการระบาดระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นจะได้รับการประเมินว่าไม่รุนแรง จากผลของระบบติดตามไต่สวนโรคที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเชื่อว่ามีประสิทธิภาพและจำกัดการแพร่ระบาดได้ดี แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อรายได้จากภาคธุรกิจและกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยว ที่ชะลอตัวกว่าที่เคยคาดหวังไว้เดิม โดยคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวและกิจกรรมจับจ่ายใช้สอยที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่สูญเสียไปไม่ต่ำกว่า 1.4-1.7 หมื่นล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ ความกังวลใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบใหม่ในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการเดินทางและกิจกรรม “ไทยเที่ยวไทย” ที่เป็นความหวังหลักในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 และลุกลามไปถึงกิจกรรมช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ 2564 ซึ่งทำให้โรงแรมและรีสอร์ตทั่วประเทศได้รับผลกระทบเรื่องยอดจองห้องพักล่วงหน้า รวมถึงโอกาสการสร้างรายได้ในช่วงปีใหม่ที่ลดน้อยลง ตัวเลขที่น่าสนใจประการหนึ่งอยู่ที่ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562-2563 ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ประมาณ 28,200 ล้านบาท ขณะที่สำนักวิจัยหลายแห่งมีผลสำรวจตรงกันว่า ชาวไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพลดงบประมาณใช้จ่ายช่วงปีใหม่ลงมาอย่างชัดเจน เฉพาะในกรุงเทพฯ จะมีเงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะเฉพาะรายเมืองท่องเที่ยว พบว่าเมืองรองอย่างนครศรีธรรมราช น่าน และสุโขทัยที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปเยือน รวมถึงโรงแรมในย่านนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี อาจได้รับผลกระทบในช่วงปีใหม่น้อยกว่าเมืองท่องเที่ยวหลักอื่นๆ ส่วนโรงแรมในบุรีรัมย์ซึ่งเป็นเมืองที่พึ่งพิงรายได้ท่องเที่ยวจากการจัดงานอีเวนต์เป็นหลัก คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบมากพอสมควร สำหรับเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ และหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งพึ่งพิงฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเพราะยังไม่มีการเปิดประเทศ ซึ่งโรงแรมในกรุงเทพฯ ยังจำกัดความคึกคักอยู่เฉพาะเป็นบางโรงแรมเท่านั้น โดยยังมีโรงแรมอีกจำนวนมากที่ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากวิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโรงแรมมาตั้งแต่ต้นปี

Read More

เตรียมพร้อมรับมือโลกหลังวิกฤติโรคระบาดด้วยเทคโนโลยี

ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญหน้ากับโรคระบาดโดยไม่มีใครคาดคิด เทคโนโลยีถูกนำมาช่วยแก้ไขวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการแพทย์ การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันและการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป และคาดการณ์ว่าเทคโนโลยียังจะเป็นปัจจัยหลักสำคัญของโลกหลังภาวะการโรคระบาดอีกด้วย ภายในงานสัมมนาหัวข้อ "Beyond the Pandemic: A Decade of Challenges from 2021'' นายไมเคิล แมคโดนัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล หัวเว่ย เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวถึงเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น รวมถึงแนวทางการปรับวิธีดำเนินธุรกิจในโลกหลังโควิด-19 ว่า “สิ่งที่ภาคธุรกิจควรคำนึงถึงคือการปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรและการดำเนินธุรกิจจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ซึ่งมีการขยายตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด” โดยเทคโนโลยี 5G เปรียบเสมือนเครื่องมือผลักดันสู่ความเป็นดิจิทัล ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G เป็นลำดับที่ 3 – 4 ของโลก หากในปี พ.ศ. 2564 มีการร่วมลงทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบดิจิทัล จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมายที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งด้านเศรษฐกิจ การดำเนินธุรกิจ และการสาธารณสุข” ก่อนหน้านี้ หัวเว่ยให้ข้อมูลว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การจับจ่ายใช้สอยที่เปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิดการขยายตัวของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ

Read More

เศรษฐกิจไทยปีฉลู 2021 ความหวังที่เตรียมฉลองฉลุย?

ความเป็นไปของสังคมเศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2020 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ดูจะเป็นขวบปีแห่งความยากลำบากและเป็นปีแห่งการสูญเสียที่ทำให้ประเทศไทยต้อง ชวด โอกาสหลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์และสถาบันวิจัยจำนวนมากต่างเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาถดถอยต่อเนื่องมานาน ได้ถึงจุดต่ำสุดแล้วในช่วงปลายปี 2019 และมีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2020 แต่เหตุไม่คาดฝันว่าด้วยการอุบัติขึ้นของการแพร่ระบาด COVID-19 ในลักษณะ pandemic หรือการระบาดใหญ่ที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของโลกได้ฉุดให้สถานการณ์กลับตาลปัตร ผิดไปจากที่ผู้คนคาดหวังไว้ ประเด็นสำคัญซึ่งถือเป็นความเปราะบางของเศรษฐกิจสังคมไทยก็คือ ปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยอยู่ในภาวะที่อ่อนแอกว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ อย่างมาก เห็นได้จากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เทียบกับการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดย IMF คาดการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัวลงร้อยละ 4.4 และจะกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ในปี 2021 พร้อมกับระบุว่าเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาและประเทศตลาดเกิดใหม่จะหดตัวลงร้อยละ 5.7 ในปี 2020 และจะขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปี 2021 ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า GDP ไทยจะปรับลดลงร้อยละ 7.8 ในปีนี้และขยายตัวร้อยละ 3.5 ในปีหน้า กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจไทยตกต่ำรุนแรงกว่าเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ

Read More

โควิดระบาดระลอกใหม่ เสี่ยงล็อกดาวน์ กระทบเศรษฐกิจ

หลังการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี ไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีระบบการจัดการด้านสาธารณสุขในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าปัจจุบันจะยังพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง ทว่าก็เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศแทบทั้งสิ้น สถานการณ์ภายในประเทศเริ่มดีขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ห้างร้านที่เคยหยุดกิจการไปในช่วงเวลาหนึ่ง สามารถกลับมาสู่รูปแบบเกือบปกติ ภาครัฐหว่านนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกระดับ และผลออกมาเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย ศูนย์วิเคราะห์และวิจัยเศรษฐกิจเกือบทุกสถาบันประเมินว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ไม่มีการระบาดระลอกใหม่ และรัฐบาลออกมาตรการหนุนนำเศรษฐกิจ พร้อมทั้งประชาชนที่มีกำลังซื้อนำเงินออกมาจับจ่ายตามสมควร การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในประเทศทำให้เกิดภาวะความต้องการแรงงานจำนวนมาก ในขณะเดียวกันกับที่แรงงานจากภายนอกก็ต้องการกลับเข้ามาในประเทศไทยเช่นกัน กระทั่งเกิดการลักลอบเข้าไทยตามเส้นทางธรรมชาติถี่ขึ้นจนปรากฎบนหน้าข่าวหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์แทบทุกสำนัก นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถหยุดการกระทำดังกล่าวได้ แน่นอนว่า ด้วยอาณาเขตของไทยที่มีชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาเป็นระยะทางยาวหลายพันกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจไม่สามารถควบคุมและดูแลพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับมีกลุ่มบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ด้วยการรับจ้างขนแรงงานต่างด้าวข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่หรือระลอกสองเริ่มขึ้นเมื่อ ศบค. แถลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดเชื้อในประเทศจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย เป็นเจ้าของแพปลา และในวันที่ 19 ธันวาคม พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 12 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกัน จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งพบการติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวจำนวน 516 ราย และมีการติดเชื้อภายในประเทศอีก 19 ราย ในวันที่ 20 ธันวาคม การพบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นแตะหลักร้อยภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ส่งผลให้พ่อเมืองจังหวัดสมุทรสาครประกาศใช้มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

Read More

Jetts เดินหน้าขยายสาขาทั่วไทย เปิดคลับแรกในเพชรบุรีและหัวหิน ฉลองครบ 35 สาขาส่งท้ายปี 2563

เจ็ทส์ ฟิตเนส เดินหน้าขยายสาขาทั่วไทย เปิดคลับแรกในเพชรบุรีและหัวหิน ฉลองครบ 35 สาขาส่งท้ายปี 2563 เจ็ทส์ ฟิตเนส ประเทศไทย (Jetts Fitness Thailand) ผู้นำธุรกิจฟิตเนสระดับโลกจากประเทศออสเตรเลีย ประกาศเปิดตัวเจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง สาขาใหม่ล่าสุดพร้อมกันถึงสองแห่ง ปักธงคลับแห่งแรกในจังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง และสาขาแรกในหัวหิน เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมระดับนานาชาติในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฉลองครบ 35 สาขาส่งท้ายปี 2563 ตอกย้ำตำแหน่งแบรนด์ฟิตเนสที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย มร. เดน แคนท์เวล ผู้จัดการประจำประเทศไทยของเจ็ทส์ ฟิตเนส กล่าวว่า “เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพในการเติบโตของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดสำคัญในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ที่มีการท่องเที่ยว การค้าการบริการ และการเกษตรแบบครบวงจรในขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่หัวหิน เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและชาวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อน การเปิดสาขาใหม่พร้อมกับทั้งสองแห่งในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้คนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงคนทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างสะดวกตลอด 24

Read More

‘Potion’ เปิดตัวน้ำผลไม้สกัดเย็นแนวใหม่รู้ใจ Healthy Cool Lifestyle

‘Potion’ เปิดตัวน้ำผลไม้สกัดเย็นแนวใหม่รู้ใจ Healthy Cool Lifestyle ชวนมิกโซโลจิสต์ชื่อดังครีเอทค็อกเทล 3 สูตร 3 สไตล์ ดริ๊งค์ง่ายได้เฮลท์ตี้! หลังกระแสตอบรับดีเกินคาดในกลุ่มคนเมืองยุคใหม่ ‘โพชั่น’ (Potion) เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น 100% ที่เป็นมากกว่าน้ำผลไม้ทั่วไป รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษให้ดื่มง่าย ให้คุณสนุกกับการมิกซ์ น้ำในสไตล์ของตัวเอง เพราะโพชั่นเข้าใจทุก ๆ โหมดการใช้ชีวิตของคุณ จึงจัดงาน ‘New Mixology’ ร่วมกับ Strange Fruit ไวนิลบาร์ที่ฮิปที่สุดในย่านเอกมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ในแบบ Healthy Cool Lifestyle ที่ไม่มีขีดจำกัดของคำว่าเฮลท์ตี้! ไฮไลท์ของงานอยู่ที่ค็อกเทลสุดพิเศษ 3 สูตร 3 สไตล์ ครีเอทโดย วัชระ วโรดม ‘มาสด้า’ มิกโซโลจิสต์ชื่อดังของไทยเจ้าของรางวัล The Winner Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018

Read More

สกอตแลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่ผู้หญิงใช้ผ้าอนามัยฟรี

Column: Women in Wonderland ผ้าอนามัย ของจำเป็นสำหรับสุขอนามัยของผู้หญิง แต่ละเดือนผู้หญิงจะมีประจำเดือนเฉลี่ย 6 วัน และใน 1 วันจะใช้ผ้าอนามัยประมาณ 6 แผ่น (เพื่อสุขอนามัยที่ดีควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง) คือค่าใช้จ่ายสำหรับผู้หญิงในแต่ละเดือน ผ้าอนามัยมีหลากหลายรูปแบบให้ผู้หญิงเลือกใช้ แน่นอนว่าราคาก็แตกต่างกันไป ดังนั้นหากผู้หญิงคนไหนต้องการใช้ผ้าอนามัยที่ซึมซับได้มากเป็นพิเศษ หรือบางเป็นพิเศษ หรือยาวกว่าปกติทั่วไป หรือมีคุณสมบัติเฉพาะ ที่ช่วยให้รู้สึกสบายเวลามีประจำเดือน ราคาก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย Period Poverty หรือสถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน การขาดการศึกษาเกี่ยวกับสุขอนามัยที่ดีระหว่างมีประจำเดือน การขาดแคลนห้องน้ำ อุปกรณ์ล้างมือ และการจัดการของเสีย ในปัจจุบันมีผู้หญิงและเด็กหญิงทั่วโลกประมาณ 2.3 พันล้านคนที่เผชิญปัญหา Period Poverty เด็กหญิง 1 ใน 10 คนในทวีปแอฟริกาจะขาดเรียนทุกครั้งที่มีประจำเดือน เพราะโรงเรียนไม่มีห้องน้ำสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ 50% ของนักเรียนหญิงในประเทศเคนยา ไม่มีผ้าอนามัยใช้ และในประเทศอินเดีย ผู้หญิงประมาณ 12% ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะซื้อผ้าอนามัย องค์การ

Read More

“NOBLE” ประกาศแผนธุรกิจปี 64 ทุบสถิติใหม่ ทุ่มเปิด 11 โครงการ สูงสุดเป็นประวัติการณ์

“NOBLE” ประกาศแผนธุรกิจปี 64 ทุบสถิติใหม่ ทุ่มเปิด 11 โครงการ มูลค่า 45,100 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปูทาง 3 ปี ขึ้นแท่น TOP 5 ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ประกาศศักดา เปิดศักราชใหม่ปี 2564 ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 จ่อลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 45,100 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพการบริหารงาน-แรงขับเคลื่อนสำคัญจากผู้ถือหุ้นใหญ่และพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ พร้อมระบุมั่นใจฐานลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติมีกำลังซื้อสูง หนุนทั้งปีตั้งเป้ารายได้แตะระดับ 11,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย (pre-sale) แตะ 16,000 ล้านบาท ปูทางขึ้นเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยติดอันดับ TOP 5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี2564-2566) นายธงชัย บุศราพันธ์

Read More