Home > 2014 (Page 9)

String of Pearls ไข่มุกบนจานหยกมังกร

 ข่าวการเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ของ Xi Jinping ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นปรากฏการณ์ในแบบพิธีทางการทูตทั่วไปแล้ว การเดินทางเยือนดังกล่าว ยังเป็นกรณีที่บ่งชี้ถึงทิศทางและเข็มมุ่งแห่งวิสัยทัศน์ที่จีนกำหนดเป็นแนวนโยบายสำหรับอนาคตใหม่นี้ด้วย แม้ว่านักวิเคราะห์และผู้สันทัดกรณีจำนวนไม่น้อยจะให้ความสนใจและเฝ้ามองการพบกันของ Xi Jinping ผู้นำจีนและ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดีย ในฐานะที่ต่างเป็นมหาอำนาจขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย แต่นัยความหมายของการเยือนมัลดีฟส์และศรีลังกา ก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความมุ่งหมายของจีนในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ การเมืองในระดับนานาชาติ ผ่านกรอบโครงความคิดว่าด้วย 21st Century Maritime Silk Route ดูจะเอื้อประโยชน์และจุดประกายความคิดที่สอดรับกับสถานการณ์ความเป็นไปที่เกิดขึ้นในศรีลังกาอย่างเด่นชัด เพราะหลังจากที่ Mahinda Rajapaksa สามารถสร้างเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศด้วยการยุติสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 ทศวรรษได้สำเร็จในปี 2009 และกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2010 ได้ประกาศแนวทางในการพัฒนาศรีลังกาให้ฟื้นคืนจากบาดแผลของประวัติศาสตร์สู่อนาคตใหม่ ภายใต้แนวนโยบายที่ได้รับการเรียกขานว่า Mahinda Chintana ด้วย “จินตภาพแห่งมหินทะ” ดังกล่าวนี้ ประกอบส่วนไปด้วยแนวความคิดที่จะพัฒนาและสร้างให้ศรีลังกาเป็น Regional 5 Hub หรือศูนย์กลางของกิจกรรม 5 ประการของภูมิภาค ไล่เรียงตั้งแต่การเป็นศูนย์กลางของการเดินสมุทร ศูนย์กลางของการเดินอากาศ ศูนย์กลางของความรู้ ศูนย์กลางด้านพลังงาน

Read More

ศรีลังกา เวทีประลองกำลังครั้งใหม่จีน-ญี่ปุ่น

 ขณะที่สังคมไทยกำลังให้น้ำหนักกับการคืนความสุขให้กับประชาชน และวาทกรรมบนแท่น Podium อีกฟากหนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย ประเทศเล็กๆ ที่มีจำนวนประชากรประมาณ 22 ล้านคน กำลังให้การต้อนรับผู้นำระดับสูงของชาติมหาอำนาจสำคัญ 2 รายในเวลาไล่เรียงกัน การเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการของ Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 7-8 กันยายน ติดตามมาด้วยการเยือนของ Xi Jinping ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน ได้สะท้อนภาพที่น่าสนใจในกลเกมยุทธศาสตร์และการพัฒนาที่กำลังจะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงถึงความมุ่งหมายของศรีลังกาที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความรุ่งเรืองครั้งใหม่ผ่านโครงการ Colombo Port City ซึ่งจะเป็นประหนึ่งจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการเดินทางใน 21st Century Maritime Silk Route ที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจ อภิมหาโครงการลงทุนขนาด 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนี้ ถือเอาโอกาสการเดินทางเยือนศรีลังกาของ Xi Jinping ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นปฐมฤกษ์ในการเริ่มต้นก่อสร้างโครงการเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา และกลายเป็นหมุดหมายที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มต้นปลุกพลังทางเศรษฐกิจของศรีลังกาให้กลับมาคึกคักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน Colombo Port City จึงเป็นประหนึ่งไฮไลต์ของการเยือนศรีลังกาโดยผู้นำจีนในครั้งนี้ และกำลังจะเป็นการพลิกเปลี่ยนภูมิทัศน์ของศรีลังกาไปตลอดกาล โครงการที่ประกอบส่วนไปด้วยอาคารสำนักงาน กลุ่มโรงแรม อพาร์ตเมนต์

Read More

ยิ้มให้ได้…เมื่อภัยมา

 ข่าวคราวว่าด้วยการคาดการณ์เหตุภัยภิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ในด้านหนึ่งได้ส่งผลย้ำเตือนและกระตุ้นสติให้กับสังคมไม่ให้ดำเนินชีวิตท่ามกลางความประมาท แต่ในอีกมิติหนึ่งของสังคมไทยข่าวในลักษณะเช่นนี้ดูจะมีค่าเพียงกระแสให้หยิบยกมาพูดคุย และตื่นตระหนกก่อนที่จะมลายหายไปพร้อมกับสายลมยามบ่ายอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สังคมไทยได้เผชิญกับปัญหาและวิกฤตการณ์จากทั้งฝีมือมนุษย์และจากธรรมชาติ อยู่ไม่น้อย แต่ทุกครั้งและทุกเหตุการณ์กลับปรากฏการผลิตซ้ำ โดยปราศจากมาตรการป้องกันแก้ไขอย่างจริงจัง ปรากฏการณ์ที่เผชิญอยู่เบื้องหน้า อาจส่งผลให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสวิจารณ์ต่อกลไกที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยตรง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือในฐานะที่มีโอกาสจะเป็นผู้ประสบภัย เราจะเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายนี้อย่างไรกันดี การเตรียมความพร้อมในลักษณะของการซ้อมหนีภัย หรือการจำลองเหตุการณ์ที่มีความจำเป็นต้องอพยพคน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่เราประสบกับเหตุการณ์สึนามิที่ชายฝั่งทะเลอันดามันเมื่อปลายปี 2547 เท่านั้น และแม้เวลาจะล่วงเลยไปเกือบจะ 10 ปีในปัจจุบันก็ยังไม่มีการจัดสรรพื้นที่เพื่อจัดเตรียมสำหรับการรองรับการอพยพผู้ประสบภัยอย่างจริงจัง แต่ลำพังการป้องกันและการเตรียมความพร้อมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับการหลีกหนีจากเหตุเภทภัยหรอกนะคะ ดังจะเห็นได้จากกรณีดินโคลนถล่มที่เมืองฮิโรชิมา เมื่อไม่นานมานี้ หากเราศึกษาความเป็นไปจากญี่ปุ่นสักหน่อย ก็จะพบว่าญี่ปุ่นในฐานะประเทศที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพิบัติภัยสูงชาติหนึ่งเขาเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ไว้ค่อนข้างดีทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นการเตรียมตัวอย่างมีระบบในทุกระดับกันเลยละ เพราะสถานที่ราชการของญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียน และศาลาประชาคมของแต่ละพื้นที่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงและอยู่ในชัยภูมิที่พร้อมแปลงสภาพเป็นศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์หรือเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะมีชุดเครื่องยังชีพทั้งอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นจัดเตรียมไว้ให้กับผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการระดมความช่วยเหลือเข้ามาเพิ่มเติมในเวลาต่อมา ถนนสายหลักของญี่ปุ่นหลายสายได้รับการออกแบบให้มีความกว้างและปลอดสายไฟ เพราะถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางฉุกเฉินสำหรับการลำเลียงอุปกรณ์ เครื่องมือยังชีพและหน่วยแพทย์ ซึ่งคงไม่มีชาวญี่ปุ่นคนใดกล้าแม้แต่จะคิดที่จะนำพาหนะไปจอดบนเส้นทางสัญจรที่มีความสำคัญโดยเฉพาะในยามฉุกเฉินหรอกนะคะ ขณะเดียวกัน กิจกรรมการฝึกซ้อมอพยพหนีภัย เป็นกิจกรรมสำคัญของสังคมญี่ปุ่น ที่ถือปฏิบัติตั้งแต่ระดับนักเรียนโรงเรียนอนุบาล ไล่เรียงไปจนถึงชั้นมัธยม และติดตามต่อเนื่องไปจนถึงเมื่อเข้าทำงานในหน่วยงานน้อยใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะที่การเตรียมอุปกรณ์ยังชีพฉุกเฉินเป็นเรื่องราวปกติที่แทบทุกครัวเรือนของญี่ปุ่นจะต้องมีการตระเตรียมให้สมดุลกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย การเตรียมเครื่องยังชีพของแต่ละครัวเรือนสำหรับกรณีภัยพิบัติฉุกเฉินนี่ล่ะคะ ที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการคิดและค้นคว้าวิจัย เพื่อพัฒนานวัตกรรมในการผลิตอาหารพร้อมปรุง หรือแม้กระทั่งไม่ต้องปรุงแต่พร้อมบริโภคอย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้ครอบครัวชาวญี่ปุ่นพร้อมเผชิญหน้ากับเหตุภัยพิบัติได้นานกว่า 3-5 วันได้เป็นอย่างดี ยังไม่นับรวมหน่วยงานที่พร้อมจะให้และกระจายข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันและแจ้งเตือนอุบัติภัย ที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ในฐานะที่เป็นมาตรการป้องกันผลกระทบไม่พึงประสงค์ ที่มีนัยความหมายมากกว่าการติดตามสถานการณ์กันไปแบบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งย่อมเสี่ยงต่อการตกอยู่ในสภาพ “ไม่ทันการณ์” หรือแม้แต่ “หลังสถานการณ์” ได้อย่างง่ายดายดังที่มีประจักษ์พยานให้ได้เห็น เรื่องที่น่าสนใจก็คือภายใต้นิยามของคำว่า

Read More

รีเฟรชแบรนด์ “ยำยำ” ความสุขจากความอร่อย

 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นบะหมี่สำเร็จรูปเจ้าแรกของไทย บะหมี่สำเร็จรูป ยำยำหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Ajinomoto Corp ที่ได้ผลิตครั้งแรกในปี 2514 และได้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 40 ปี พร้อมการแตกโปรดักส์ไลน์ เส้นบะหมี่รสชาติ ต่างๆ อาทิ ยำยำรสหมูสับ ยำยำผัดขี้เมา ยำยำรสต้มยำ รสสุกี้ และรวมถึงยำยำในรูปคัพ   แม้ที่ผ่านมา ยำยำ จะมีการปรับปรุงรสชาติและรูปโฉมซอง เพื่อให้ถูกใจผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา และล่าสุด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “ยำยำ”  รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ โดยปรับโลโก้และแพ็กเกจใหม่ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมชูคอนเซ็ปต์ ส่งความสุขที่มาจากความอร่อย โดยเพิ่มรอยยิ้มเข้าไปในโลโก้ เพื่อสื่อถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของยำยำในการส่งความสุขจากความอร่อยสู่ผู้บริโภค สดใส มีชีวิตชีวา และทันสมัยมากขึ้น เป็นจุดเน้นของรูปโฉมภาพลักษณ์ใหม่ของ ยำยำจัมโบ้ ชึ่งเป็น Sub-brand หลักของยำยำ ที่มีจุดเด่นเรื่องปริมาณเต็มอิ่มเต็มความอร่อย โดยการปรับโลโก้และแพ็กเกจ พร้อมออกแคมเปญยำยำจัมโบ้ ความสุขคำโต เพื่อสื่อถึงภาพรวมของแบรนด์ว่า “ยำยำจัมโบ้” ให้ความสุขที่ใหญ่กว่ารวมทั้งทำการตลาดแบบครบวงจรควบคู่ไปกับแคมเปญ “ยำยำจัมโบ้ ความสุขคำโต” (More for

Read More

นิทรรศการจอร์จส์ บราค

 เมื่อจอร์จส์ บราค (Georges Braque) ถึงแก่กรรมในวันที่ 31 สิงหาคม 1963 รัฐบาลฝรั่งเศสจัดพิธีศพให้โดยมีอองเดร มัลโรซ์ (André Malraux) รัฐมนตรีวัฒนธรรมในขณะนั้นกล่าวคำสดุดี ถือเป็นจิตรกรคนเดียวที่รัฐให้ความสำคัญ จอร์จส์ บราคเกิดในปี 1882 ที่อาร์จองเตย (Argenteuil) พ่อเป็นช่างทาสี แต่ชอบเขียนรูปตอนวันหยุด เป็นรูปทิวทัศน์สไตล์อิมเพรสชั่นนิสต์ เมื่อครอบครัวย้ายไปเมืองเลอ อาฟวร์ (Le Havre) จอร์จส์ บราคชอบไปเตร็ดเตร่แถวท่าเรือ ถึงกระนั้นก็เข้าเรียนที่ Ecole supérieure d’art และเรียนเป่าขลุ่ยในเวลาเดียวกัน เขาเดินทางไปปารีสในปี 1900 ฝึกงานกับจิตรกรที่รับตกแต่งภายใน แล้วกลับมาเลอ อาฟวร์เพื่อรับราชการทหาร เมื่อออกประจำการ จึงเป็นจิตรกรเต็มตัว ในปี 1902 ไปปารีสอีก พำนักย่านมงต์มาร์ทร์ (Montmartre) จึงได้พบกับมารี โลรองแซง (Marie Laurencin) เขาพาเธอไป Bateau-Lavoir ซึ่งเป็นศูนย์รวมอาร์ติสต์ดังอย่างปาโบล ปิกัสโซ

Read More

อายิโนะโมะโต๊ะ เส้นทางความอร่อย

 เมื่อกล่าวถึงอายิโนะโมะโต๊ะ ผู้คนอาจจะนึกถึงผงชูรส ตัวช่วยให้รสชาติอาหารมีความอร่อย และถือเป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อเรียกความมั่นใจในการปรุงอาหารก็ว่าได้ ในขณะที่มีสินค้าไม่กี่ชนิดในประเทศไทยที่จะสามารถทำให้ชื่อยี่ห้อสินค้า กลายเป็นชื่อเรียกของผลิตภัณฑ์ เช่น ผงซักฟอก ถูกเรียกว่าแฟ้บ หรือผ้าอนามัย ถูกเรียกว่า โกเต๊ก “อายิโนะโมะโต๊ะ” ก็เป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ได้กลายมาเป็นสามัญนามที่หมายความถึงผงชูรสไปแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริง โลกของอายิโน๊ะโมโต๊ะ หาใช่มีแค่ผงชูรสเท่านั้น แต่ทว่า ภายใต้คำว่า อายิโนะโมะโต๊ะ ที่เติบโตใหญ่จากรากฐานดั้งเดิมของผู้ผลิตผงชูรส ที่ใช้กลไกทางเทคโนโลยีทางเคมี ผลิตกรดอะมิโน และสามารถสังเคราะห์สารที่ช่วยให้เกิดในรสชาติในอาหาร และได้บัญญัติศัพท์ เรียกว่า “อูมามิ” (Umami หมายถึงรสชาติอร่อย) Ajinomoto หรือจดทะเบียนในประเทศไทยว่า อายิโนะโมะโต๊ะ เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น คำว่า “อะจิโนะโมะโตะ” มีความหมายในภาษาอังกฤษคือ “Essence of Taste” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “แก่นแท้ของรสชาติ” ซึ่งบริษัทได้ใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของผลิตภัณฑ์ผงชูรส บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเขตชูโอเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ความเป็นไปของ อะจิโนะโมะโตะ เริ่มต้นจากการที่ ซูซูกิ ซาบุโระซุเกะ (Suzuki Saburosuke) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ทำสัญญาการใช้สิทธิ์เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผงชูรสจากศาสตราจารย์อิเคดะ คิคุนาเอะ

Read More

ชีวิตสำเร็จรูป ตลาดเส้นแข่งเดือด

           “ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี คนจะหันมาทานบะหมี่เพิ่มขึ้น” เป็นคำกล่าวที่สะท้อนให้เห็นว่าบะหมี่สำเร็จรูปสามารถเป็นตัวชี้วัดภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศได้ จากสินค้าหาซื้อง่าย กินง่าย  มีให้เลือกหลายรสชาติ สะดวกในการกิน และที่สำคัญ ราคาถูก จึงทำให้ตลาดบะหมี่สำเร็จรูปเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่กระนั้น ในปีนี้มีการคาดว่าตลาดบะหมี่สำเร็จรูปจะเติบโตในภาพรวมได้เพียง 5% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากปกติจะเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ในขณะที่คนไทยกินบะหมี่โดยมีอัตราเฉลี่ยการบริโภคอยู่ที่ 45 ซองต่อคนต่อปี ในขณะที่การเปิดเผยข้อมูลของสมาคมบะหมี่สำเร็จรูปโลกในญี่ปุ่นได้ระบุว่า จีนถือเป็นประเทศที่มีคนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด ตามมาด้วยอินโดนีเซีย อันดับ 2 และญี่ปุ่น อันดับ 3 ในขณะที่ไทยอยู่ในอันดับ 8 และเมื่อเทียบกันเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน จะเห็นว่าอินโดนีเซียนำมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ในฐานะชาติที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากสุดในอาเซียน ตามมาด้วยเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า กัมพูชา และสิงคโปร์          ผลสำรวจนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นอาหารที่คนทั่วโลกขาดไม่ได้ไปแล้ว และคาดว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา 

Read More

อังกฤษผลักดันกฎหมายใหม่ การล่วงละเมิดทางอารมณ์ถือเป็นอาชญากรรม

 คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะไม่คุ้นเคยหรืออาจจะไม่เข้าใจคำว่า “การล่วงละเมิดทางอารมณ์” ว่าหมายถึงอะไร และเกิดขึ้นในสถานการณ์ไหน และเหตุการณ์อย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นการล่วงละเมิดทางอารมณ์ แต่ถ้าหากได้ลองทำความเข้าใจดู จะรู้ได้ว่าเรื่องการล่วงละเมิดทางอารมณ์เป็นเรื่องใกล้ตัว และบางทีคุณอาจจะโดนล่วงละเมิดทางอารมณ์อยู่โดยที่ไม่รู้ตัวเช่นกัน การล่วงละเมิดทางอารมณ์ (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Emotional, psychological and mental abuse) มักเกิดขึ้นระหว่างบุคคลสองคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างเช่น เป็นแฟนหรือเป็นสามีภรรยากัน เพราะการล่วงละเมิดทางอารมณ์เกิดจากการที่ผู้ใช้ความรุนแรงต้องการลดความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของเหยื่อลงเพื่อให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อต้องการที่จะพึ่งพาพวกเขามากขึ้น ผู้ที่ใช้ความรุนแรงส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีการต่างๆ เช่น ข่มขู่ กลั่นแกล้ง วิพากษ์วิจารณ์ในทุกๆ เรื่อง และพยายามแยกเหยื่อให้ออกมาห่างจากครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ควบคุมเหยื่อได้ง่ายขึ้น องค์กร Living Without Abuse ของประเทศอังกฤษได้อธิบายลักษณะของการถูกล่วงละเมิดทางอารมณ์ไว้ดังนี้ 1. ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะรู้สึกแย่ โดยเหยื่อจะคิดว่าตัวเองเป็นคนโง่ ไม่มีค่า และไม่มีประโยชน์อะไรเลยในสังคม 2. ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อแม่ที่แย่มากและไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ 3. ผู้ใช้ความรุนแรงจะคอยตอกย้ำให้เหยื่อรู้สึกว่าตัวเองหน้าตาน่าเกลียดหรือรูปร่างอ้วน ไม่น่ามอง 4. ผู้ที่ใช้ความรุนแรงจะคอยบอกเหยื่ออยู่บ่อยๆ ว่า พวกเธออาจจะไม่สบายหรือมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ 5. ผู้ที่ใช้ความรุนแรงจะพยายามที่จะแยกเหยื่อออกจากครอบครัวและเพื่อนๆ โดยอาจจะย้ายไปอยู่ในที่ห่างไกล หรือทำให้ครอบครัวหรือเพื่อนรู้สึกลำบากใจเมื่อพบเจอกันที่บ้านหรือข้างนอก ในขณะเดียวกันผู้ที่ใช้ความรุนแรงจะไม่อนุญาตให้เหยื่อไปทำกิจกรรมใดๆ ที่ไม่มีเขารวมอยู่ด้วย 6. ผู้ที่ใช้ความรุนแรงจะไม่อนุญาตให้เหยื่อออกไปไหนตามลำพัง โดยคอยรับส่งเหยื่อไปทำงานและรับกลับบ้าน ในขณะเดียวกันถ้าเหยื่อออกไปไหนกับใครที่ไม่ใช่ตัวเองก็จะคอยเช็กอยู่ตลอดเวลาว่าเหยื่ออยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ หรืออาจจะบังคับให้เหยื่อกลับบ้านทันทีหลังเลิกงานโดยกำหนดเวลาที่เหยื่อจะต้องถึงบ้านไว้ ถ้าเหยื่อไม่สามารถกลับถึงบ้านได้ตามเวลาก็อาจจะวิพากษ์วิจารณ์

Read More

อุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ นักย่อยสาร จากยากเป็นง่าย

 ผู้จัดการ 360  ํ นัดหมายกับผู้บริหาร Right Man บริเวณชั้น 2 ของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นห้องสมุดที่ทำให้เห็นถึงการจัดสรรพื้นที่อย่างชวนให้นั่งอ่านหนังสือได้นานๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ ผลงานชิ้นเอกของไร้ท์แมน ก่อนเริ่มพูดคุยกัน MD ไร้ท์แมนทำให้เราแปลกใจเมื่อผู้บริหารระดับสูงมายืนปรับมุมของแสงไฟที่ติดเพดาน เพื่อเพิ่มความสว่างให้บริเวณที่ใช้พูดคุย อุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการผู้จัดการ บ.ไร้ท์แมน จำกัด ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ทำให้ไร้ท์แมนกลายเป็นผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างพิพิธภัณฑ์ จนกลายเป็นรูปแบบการพัฒนาพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่เรียกว่า พิพิธภัณฑ์มีชีวิต “Trend ใหม่ของกระแสโลก การเรียนรู้ของคนในยุคสมัยใหม่ ทุกคนสามารถหาข้อมูลได้ง่ายทั้งจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เราจะนำเสนอแต่ตัวหนังสืออย่างเดียวคงจะไม่ได้แล้ว” ผู้บริหารไร้ท์แมนอธิบายถึงแนวความคิดด้านเทคโนโลยี ทั้งการนำเสนอข้อมูลในเชิงลึก และรูปแบบการนำเสนอจะต้องมีความน่าสนใจ สร้างจุดขาย เพิ่มแรงดึงดูดที่จะทำให้เกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้  ศูนย์การเรียนรู้ในระดับโลกที่พัฒนานำหน้าประเทศไทยไปค่อนข้างเยอะ ทำให้ผู้นำไร้ท์แมน ต้องหยิบเอาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Interactive รวมทั้งมัลติมีเดียอื่นๆ มาสอดแทรกทำให้เนื้อหาเชิงวิชาการไม่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ  “เราดูแลตั้งแต่ต้นน้ำกระทั่งปลายน้ำ ลูกค้าที่เข้ามาหาเราจะมีแค่ Conceptual หรือ Contents” อุปถัมป์ อธิบายเหตุผลที่ต้องดูแลโปรเจกต์พิพิธภัณฑ์หรือศูนย์การเรียนรู้แม้จะส่งงานด้านโครงสร้างไปแล้ว บรรดาศูนย์การเรียนรู้หรือมิวเซียมจะได้รับความนิยมในช่วงแรกๆ หลังจากเปิดไปไม่นาน ภายใน 6 เดือน

Read More

อาหารที่ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ

 การมีหน้าท้องแบนราบถือเป็นสัญญาณที่เป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดอย่างหนึ่งว่า คุณมีร่างกายฟิตเปรี๊ยะ จึงจำเป็นต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องขึ้นมาแทนที่ให้ได้ ที่ต้องระลึกไว้เสมอคือ การออกกำลังกายดังกล่าวข้างต้น “ต้องทำที่โรงยิม” แต่ที่จะแนะนำต่อไปนี้ “เกิดขึ้นในครัว” เกิดจากอาหาร 10 ชนิดที่มีผลต่อหน้าท้องแบนราบของคุณได้มากที่สุด ลองบริโภคดู หลังจากนั้นไม่นาน คุณอาจเลิกอิจฉาคนอื่นและมีความสุขกับการสวมใส่เสื้อผ้าที่โชว์หน้าท้องแบนราบของคุณเอง กรีกโยเกิร์ตชนิดไขมันต่ำแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของคุณมีหน้าที่ช่วยย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงจากการเกิดแก๊สและท้องอืด แต่ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า ปริมาณแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมีผลต่อน้ำหนักตัวและน้ำหนักที่ลดลงได้ในขณะที่คุณควบคุมด้วยอาหารพลังงานต่ำ ปัญหาคือ คุณรู้ได้อย่างไรว่าในร่างกายมีแบคทีเรียดังกล่าวมากพอ คำแนะนำคือ ให้บริโภคกรีกโยเกิร์ตที่มีส่วนประกอบของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียในลำไส้แล้ว ยังมีโปรตีนมากกว่า ทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น International Journal of Obesity ยังตีพิมพ์ผลการศึกษาที่พบว่า ผู้ที่ได้รับแคลเซียมจากการบริโภคโยเกิร์ต อาจลดไขมันในช่องท้องได้มากกว่า และยังมีงานวิจัยที่สนับสนุนการบริโภคโยเกิร์ตว่า ผู้บริโภคกรีกโยเกิร์ตวันละ 5 กระป๋อง สามารถลดน้ำหนักและไขมันในช่องท้องได้มากกว่าผู้ที่บริโภคเพียงวันละ 3 กระป๋อง    บลูเบอร์รี่บลูเบอร์รี่เป็นแหล่งเส้นใยอาหารที่วิเศษสุด เพราะไม่เพียงทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังช่วยรักษาขนาดรอบเอวของคุณด้วย ที่สำคัญยังเป็นแหล่งเส้นใยประเภทพรีไบโอติกตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่อยู่ในลำไส้ของคุณ บลูเบอร์รี่ยังมีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลในช่วงหลังการออกกำลังกายจนเหนื่อยล้า เพราะการที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลในระดับสูงนั้น มีส่วนสัมพันธ์กับการที่คุณมีขนาดรอบเอวใหญ่ขึ้นด้วย คุณมีโอกาสบริโภคบลูเบอร์รี่ได้ตลอดปี เพราะมีบลูเบอร์รี่แช่แข็งวางขายตลอดเวลา เพียงนำมาใส่ในอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เท่านั้น ถั่วเปลือกแข็งถั่วเปลือกแข็งเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง แม้บริโภคในปริมาณน้อย แต่ผลการวิจัยยืนยันว่า

Read More