ปฐมบทของโครงการ “ดิจิตอล เกตเวย์” เริ่มต้นจากการประมูลพื้นที่โครงการ Center Point เดิม ในช่วงกลางปี 2550 ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากสังคมได้ไม่น้อยไม่เพียงพื้นที่ที่ทำการประมูลจะอยู่ในทำเลที่ถือได้ว่าดีที่สุดของสยามสแควร์ เพราะติดกับบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าสยาม แต่ความน่าสนใจยังเกิดจากกลุ่มผู้เข้าประมูลทั้ง 6 ราย ที่ต่างก็มุ่งมั่นในการชิงกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนเล็กเพียง 1 ไร่แปลงนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ระดับประเทศอันประกอบด้วยกลุ่มพันธุ์ทิพย์ พลาซา ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี, กลุ่มสยามพิวรรธน์ ร่วมกับเอ็มบีเค, กลุ่มธนายง, กลุ่มซีพี, กลุ่มสยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มพรไพลิน ผู้เช่ารายเดิมสำหรับผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ในเครือของบริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ ของเจ้าสัวเจริญที่มีจุดขายอยู่ที่ความเป็น “ดิจิตอล ซิตี้” โดยผู้บริหารจุฬาฯ มองว่าเป็นสิ่งที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และวิสัยทัศน์ของจุฬาฯ ว่ากันว่าการประมูลครั้งนี้ทำให้จุฬาฯ ได้รับผลตอบแทนสูงถึง 1,400 ล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี ขณะที่ผลตอบแทนที่ “กลุ่มเจริญ” จะได้นั้นนอกจากพื้นที่ให้เช่าในย่านทำเลที่ดีที่สุด “แบรนด์ช้าง” ยังได้อยู่ในจุดโฆษณาที่มีสนนราคาแพงที่สุดจุดหนึ่ง ในสยามสแควร์ เพราะมี “ทราฟฟิก (traffic)” เข้าออกบริเวณนี้มหาศาลหลายคนเชื่อว่า จุฬาฯ ยังมีอีกเหตุผล (ไม่) ลับที่เลือกกลุ่ม เจ้าสัวเจริญ ก็เพราะต้องการหานายทุนหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มในย่าน
ดิจิตอล เกตเวย์เจริญ สิริวัฒนภักดี Read More